นักเชื่อมต่อการเงินดิจิทัลสุดฟินแห่งวงการฟินเทค - Forbes Thailand

นักเชื่อมต่อการเงินดิจิทัลสุดฟินแห่งวงการฟินเทค

Plaid สร้างมูลค่ากิจการเกือบพันล้านเหรียญจากงานวางท่อเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นของคุณกับบัญชีกระแสรายวันว่าแต่ธนาคารใหญ่จะพยายามดับธุรกิจนี้หรือไม่

ธุรกิจของ Plaid พุ่งลิ่วด้วยแนวทางที่สอดคล้องกับภาคธุรกิจฟินเทคซึ่ง Plaid ช่วยเป็นแรงขับเคลื่อน ซอฟต์แวร์ของ Plaid ทำหน้าที่เหมือนท่อประปาที่ต่อเชื่อมแอพฯ ต่างๆ เข้ากับธนาคารของผู้ใช้งานใหม่แต่ละรายไว้ถึง 1 พันล้านเหรียญ Perret และ Hockey จ้างพนักงาน 130 คนทำงานอยู่ในตึกสำนักงาน 2 ชั้นที่กว้างขวางในย่าน South of Market ของ San Francisco Hockey วัย 28 ปีมองว่า Plaid เป็นชิ้นส่วนสำคัญชิ้นหนึ่งในการสร้างสตาร์ทอัพ “เราคุยกับลูกค้าก่อนที่พวกเขาจะระดมทุน บ้างก็เริ่มคุยตั้งแต่มีคนแค่ 2 คนทำงานในห้องเดียว” Perret วัย 30 ปีเสริมว่า “ภารกิจของเราไม่ใช่ (แค่) สร้างนวัตกรรมการให้บริการด้านการเงิน แต่เราช่วยให้เกิดนวัตกรรมในทุกที่ด้วยการเปิดช่องทางเข้าถึงระบบการให้บริการด้านการเงิน” ทั้งคู่พบกันตอนทำงานเป็นที่ปรึกษาอยู่ที่ Bain สาขา Atlanta ขณะนั้น Hockey ซึ่งเป็นชาว California เพิ่งจบจาก Emory University ส่วน Perret ซึ่งจบจาก Duke University เข้าทำงานก่อนเขา 1 ปี เหตุการณ์น่าหวาดเสียวตอนปีนหน้าผาครั้งนั้นช่วยให้ทั้งสองสนิทกันมากขึ้น และ Perret กับ Hockey ก็ชอบเขียนโปรแกรมเหมือนกัน พวกเขาจึงเริ่มทำโปรเจกต์ร่วมกันในเวลาว่าง ทั้งคู่ไม่ชอบระบบการจ่ายบิลที่ไม่โปร่งใส พวกเขาจึงลองสร้างเครื่องมือวางแผนการเงิน โปรเจกต์นั้นไม่สำเร็จแต่พวกเขาก็พบวิธีแก้โจทย์การเชื่อมต่อแอพฯ เข้ากับบัญชีธนาคารได้ในระหว่างนั้น แม้บริษัท Yodlee จะเป็นที่ยอมรับมากว่าทศวรรษแล้วในฐานะผู้ให้บริการรวบรวมข้อมูลด้านการเงิน แต่ธุรกิจหลายรายก็ยังพึ่งพาวิธีการตัดเงิน 1 เพนนีเพื่อยืนยันบัญชีธนาคารของลูกค้าอยู่ และบางส่วนก็ยังใช้วิธีอัปโหลดรายการเดินบัญชีเป็นไฟล์ PDF แล้วพิมพ์ข้อมูลด้วยมือ Perret กับ Hockey จึงสร้าง Application Programming Interface หรือ API ขึ้นเพื่อทำงานในฟังก์ชั่นเหล่านั้น โดยใช้เพียงชื่อ user name และ password ของลูกค้าธนาคาร ทั้งคู่เริ่มตั้งบริษัทใน New York ในฤดูใบไม้ผลิของปี 2012 โดย Perret เป็นซีอีโอและ Hockey เป็นซีทีโอ ซึ่งพวกเขาก็โชคดีเพราะหัวหน้าสายงานวิศวกรรมของ Venmo กำลังหาทางลดค่าใช้จ่ายการโอนเงินแบบ peer-to-peer สำหรับการจ่ายเงิน ทางแก้คือรวบรวมธุรกรรมจำนวนมากมาทำพร้อมกันในแต่ละครั้ง ทั้งนี้ แม้ลูกค้าของ Venmo จะโอนเงินให้ทันที แต่ก็ต้องรอ 1 วันจึงจะได้รับเงิน ซึ่ง Plaid ช่วยกำจัดความเสี่ยงดังกล่าวและ Venmo จะทราบทันทีว่าลูกค้ามียอดเงินในบัญชีธนาคารเพียงพอหรือไม่ คำรับรองจาก Venmo ช่วยให้บริษัทสตาร์ทอัพแห่งนี้ติดตลาดในหมู่ลูกค้าด้านฟินเทคที่อยากเจริญรอยตามความสำเร็จของ Venmo แอพฯ ชื่อดังในปัจจุบันนี้ ทุกวันนี้ มีผู้ใช้งานปลายทางหลายสิบล้านคนและแอพฯ หลายพันแอพฯ ที่ใช้ระบบของ Plaid ซึ่งการใช้จ่ายและงานวางแผนการเงินเหล่านี้มีมูลค่ารวมหลายแสนล้าน FORBES ประเมินรายได้ของบริษัทในปีที่แล้วไว้ 40 ล้านเหรียญ และกระแสเงินสดเกือบถึงจุดคุ้มทุน แต่สำหรับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ซึ่งยกย่อง “เลขเก้า 3 ตัว” หรือบริการที่ใช้งานได้เป็นปกติ 99.9% ความสำเร็จของ Plaid ไม่ใช่กรณีปกติเพราะระบบนี้ไม่ได้ทำงานราบรื่นตลอดเวลา ข้อมูลแสดงสถานะการเชื่อมต่อกับธนาคารในหน้าเว็บของ Plaid เปิดเผยให้เห็นว่าระบบนี้ทำงานได้ 98% หรืออาจจะ 95% หมายความว่าการอนุมัติธุรกรรมกับธนาคารจะล้มเหลว 5 ครั้งจาก 100 ครั้ง ซึ่งคงจะเป็นอัตราที่ไม่มีใครยอมรับถ้าปัญหาไม่ได้มาจากธนาคารเอง Warren Hogarth ผู้ที่นำระบบ Plaid มาใช้กับแอพฯ Empower ของเขาซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านบริหารการเงินกล่าวว่า นักพัฒนาแอพฯ ที่ใช้ร่วมกับบริการอย่าง Amazon และ Google คาดหวังให้แอพฯ ของตนมีความเสถียรในระดับที่ Plaid ทำไม่ได้ เขากล่าวว่าปัญหาคือ Plaid ยังต้องรอความเมตตาจากเหล่าธนาคาร แต่ธนาคารก็ไม่กระตือรือร้นที่จะแชร์ข้อมูลของลูกค้าให้แก่แอพฯ ซึ่งไม่ได้ช่วยเพิ่มกำไรให้ธนาคาร “แบบนี้ทำงานยาก” Warren กล่าว หากธนาคารจับมือร่วมกันเสนอบริการ API ธนาคารจะชิงธุรกิจจาก Plaid ไปได้มาก และการแข่งขันก็กำลังระอุขึ้นทั้งจากสตาร์ทอัพรายใหม่ๆ และบริษัทดั้งเดิมอย่าง Yodlee กับ Finicity ที่เสนอโซลูชั่นสำหรับการเชื่อมต่อกับธนาคารผ่าน API   เรื่อง: Alex Konrad เรียบเรียง: ธรรดร โสตถิอำรุง
คลิกอ่านฉบับเต็มของ "นักเชื่อมต่อการเงินดิจิทัลสุดฟินแห่งวงการฟินเทค" ได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ มิถุนายน 2561 ในรูปแบบ e-Magazine