ในหลายๆ ทาง NFT เปิดโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่เข้าสู่วงการศิลปะที่มีคนบางกลุ่มชอบสร้างกำแพงกันคนนอกเข้าเอาไว้ แต่เหมือน Wikipedia จะสร้างกำแพงใหม่ซะแล้ว
นี่ทำให้เราได้เหล่านักสะสมได้ค้นพบศิลปินที่หลากหลายมากขึ้นอีกทั้งพวกเขาเหล่านี้ยังสามารถขายผลงานอย่างเป็นอิสระได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ทีมงานผู้เรียบเรียง Wikipedia ได้ลงคะแนนเสียงเมื่อเร็วๆ นี้สร้างกำแพงแบบใหม่ โดยสารานุกรมออนไลน์ชื่อดังอย่าง Wikipedia ตัดสินใจว่าจะไม่นับงานดิจิทัลเหล่านี้เป็นศิลปะ
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/Wikipedia.jpg)
ผู้สร้างและนักสะสมศิลปะดิจิทัลหลายคนมองว่า การตัดสินใจครั้งนี้มันทั้งล้ำเส้นและเป็นการมองที่ตื้นมาก โดยพื้นเพของความรู้สึกร่วมกันนี้เกิดจากการสังเกตว่า แม้ NFTs จะไม่ได้ใช้เพื่อศิลปะเสมอ แต่มันก็ยังถือเป็นสื่อกลางทางศิลปะอีกแบบได้ เช่นเดียวกับสีน้ำ และเซรามิค
และยิ่งไปกว่านั้น แนวคิดที่ว่าใครคนใดคนหนึ่ง หรือสถาบันใดสถาบันหนึ่งจะแม้แต่พยายามสร้างกรอบว่าอะไรถือเป็นศิลปะมันก็รู้สึกเป็นปัญหาสำหรับใครหลายคน โดยปัญหานี้ดันมีผลกระทบในชีวิตจริงต่อชีวิตของศิลปินจำนวนมากซะด้วย
นิยามของศิลปะ
Art เป็นการแสดงออกทางอารมณ์ที่ถูกนิยามโดยศิลปิน และถูกชื่นชมโดยผู้มองดูทั้งหลาย ดังที่ Oscar Wilde กล่าวไว้ในงานเขียน The Decay of Lying – An Observation ของเขาเมื่อปี 1891 ซึ่ง Wikipedia สรุปไว้ว่า “เราควรเมินเฉยต่อประเด็นในงานศิลปะไม่มากก็น้อย เราควร ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม ปราศจากความพึงใจ, อคติ หรือความรู้สึกเอนเอียงใดๆ ทั้งสิ้น” ไม่แปลกเลยว่าทำไมศิลปินและนักสะสมจำนวนมากถึงรู้สึกโกรธเคืองกับความคิดที่ว่าจะมีใครคนใดคนหนึ่งมาตัดสินว่าอะไรใช่หรือไม่ใช่ศิลปะ
“นี่เป็นคำแถลงการณ์ที่แบ่งแยกงานของศิลปินนับพันที่ค้นพบอิสระทางความคิดสร้างสรรค์และไฟในโลก NFT” Marlon Portales ศิลปินชาวคิวบาสาขาสหศาสตร์ศิลป์กล่าว “ไม่ใช่หน้าที่ของวิกิพีเดียหรือสถาบันที่มีอำนาจใดๆ ก็ตามที่จะกล่าวว่าอะไรใช่ศิลปะ และอะไรไม่ใช่ ศิลปะมีตัวตนอยู่ในสายตาและความตระหนักรู้ของผู้มอง ศิลปะคือวิธีการสื่อสาร, การอภิปราย, การปลอดปล่อย และการแสดงออกทางอารมณ์ มันคืออิริยาบถ”
ไม่ใช่เพียงผู้สร้างและนักสะสมรุ่นใหม่เท่านั้นที่เห็นคุณค่าของ NFTs ในฐานะศิลปะ “ความจริงที่ว่าโรงประมูลที่ใหญ่ที่สุดทั้งหลายมีคนด้านงานศิลปะดิจิทัลโดยเฉพาะก็เป็นข้อพิสูจน์ที่เห็นได้ชัดที่สุดแล้ว” Alex Marshall ศิลปินและผู้อำนวยการ Silicon Valley Bank กล่าว
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/Beeple.jpg)
เขายังได้กล่าวอีกว่า “NFTs มีส่วนช่วยขยายฐานนักสะสมของ Sotheby’s เป็นอย่างมาก ส่วนทาง Christie’s ก็ปิดประมูลงาน NFT ไปในราคา 69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และทาง British Museum ก็กำลังขายคอลเล็กชั่นที่พวกเขาครอบครองอยู่ในรูปแบบ NFT อีกด้วย เพียงเพราะ NFTs สามารถใช้เป็นเครื่องมือด้านการเงินและรับรองได้ ไม่ได้หมายความว่าพวกมันไม่ใช่ศิลปะ ในบางมุม มันดีกว่าศิลปะแบบดั้งเดิมซะอีก เพราะสิทธิการครอบครองก็โปร่งใส อีกทั้งศิลปินทั้งหลายก็ยังสามารถได้รับส่วนแบ่งอยู่ตลอดอีกด้วย”
NFTs ในฐานะสื่อกลาง
ศิลปะสามารถสร้างได้บนสื่อนับไม่ถ้วน ตั้งแต่การละเลงสีน้ำลงบนแผ่นกระดาษไปถึงวัตถุสักชิ้น หลายคนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของ Wikipedia เรื่อง NFTs และโต้ว่าเราควรมองมันเสมือนเป็นอีกสื่อหนึ่งที่ใช้ในการสร้างงานศิลปะ และเหมือนกับที่กระดาษทุกใบไม่ใช่งานศิลป์ งาน NFTs ก็ไม่ใช่งานศิลป์ทุกงานเช่นกัน แต่สื่อกลางที่ใช้ก็ไม่ควรที่จะเป็นตัวจำกัดความของผลลัพธ์
Breanna Faye ศิลปิน NFT และผู้สร้าง Metarkitex Metaverse อธิบายโดยเปรียบเทียบ NFTs กับพิมพ์เขียว “พิมพ์เขียวดิจิทัลทุกใช้สร้างตึกสมัยใหม่ทุกตึก เราไม่เรียกแปลน AutoCAD ว่า ‘สถาปัตยกรรมจอมปลอม’ และเราก็ไม่ควรทำเช่นนั้นกับศิลปะเหมือนกัน” เธอกล่าว
“NFTs ก็เป็นเพียงแค่แคนวาสที่ศิลปินทั้งหลายถ่ายทอดงานศิลปะของตัวเองลงไป ใช่อยู่ที่ว่าสื่อกลางที่ใช้มันเปลี่ยนไป แต่ผลิตผลและนิยามไม่ได้เปลี่ยน NFTs คือแคนวาส และบล็อกเชนคือสื่อกลาง สิ่งที่อยู่บนแคนวาสต่างหากที่จะบอกเราว่านั่นคือศิลปะหรือไม่ แต่เอาศิลปินชื่อดังทั้งหลายออกจากลิสต์ของคุณไปเพียงเพราะพวกเขาใช้สื่อกลางที่ต่างแแกไปก็ช่างน่าอับอายเหลือเกิน”
มีหลายครั้งที่ศิลปะถูกสร้างขึ้นมาผ่านสื่อใหม่ๆ และเราก็ชื่นชมงานเหล่านั้นในฐานะศิลปะ “Piero Mansoni เปลี่ยนโลกสุดๆ ศิลปินเชิงแนวคิดล้ำลึกที่ล้อเลียนระบอบที่แสร้งกล่าวว่าอะไรคือศิลปะที่แท้จริง” Portales ยกตัวอย่าง โดยอ้างอิงถึงผลงาน Artists’ Shit, งานศิลปะที่ทาง Wikipedia อธิบายไว้ว่าเป็นงานศิลปะซึ่งประกอบไปด้วยกระป๋องอัดแน่นไปด้วยมูล 90 กระป๋อง “ท้ายที่สุดแล้ว NFT ก็เป็นเพียงสื่อกลางอีกอย่าง มันคือระบบภาษาใหม่”
งานศิลป์ดิจิทัลนี้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางใหม่สำหรับโลกศิลปะเท่านั้น แต่พวกมันยังปลดล็อคโลกศิลปะใบใหม่อีกด้วย
“NFTs ทำให้ความเป็นไปได้ว่าอะไรคือการถ่ายทอดทางศิลปะไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ ณ วันนี้ และไปไกลกว่าที่เราคาดคิด งาน Robert De Niro NFT ของ LIT คือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลย” Gabriela Sabate ผู้ก่อตั้งธุรกิจและนักสะสม NFT กล่าว “นักแสดงคนนั้นแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบงานอีเวนต์สดต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจาก NFT ชิ้นนี้ถูกสร้างไว้กว่า 4,600 สีหน้า NFTs มีพลังที่จะจำกัดความคอนเซ็ปต์ของศิลปะและวัฒนธรรมปัจจุบันของเราใหม่”
ผลกระทบต่อศิลปิน
ข้ออ้างที่ว่า NFTs ไม่ใช่ศิลปะส่งผลกระทบแง่ลบต่อกลุ่มศิลปินที่ค้นพบโอกาสที่จะแผ่ปีกกว้างในระบบนิเวศ NFT เป็นพิเศษ
![](https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/01/Crypto-Lady-Gang.jpg)
“ศิลปิน NFT หลายๆ คนคือศิลปินแบบดั้งเดิมที่โยกย้ายงานศิลปะของพวกเขาเข้ามาในโลก Metaverse และ นับเป็นครั้งแรกในชีวิตพวกเขาที่พวกเขาสามารถเลี่ยงตัวเองด้วยงานศิลป์เหล่านั้นได้” Samantha Hume ศิลปิน NFT และผู้ก่อตั้ง Crypto Lady Gang เปิดอก
“NFTs กำลังฆ่าตัวละคร ‘ศิลปินไส้แห้ง’ และสร้างศิลปินยุคใหม่ที่มีความมั่นคงทางการเงินขึ้นมาแทน ยุคเก่าของโลกศิลปะมันเป็นเรื่องของเอกสิทธิ์ล้วนๆ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์และเงินทอง ยุคใหม่ของโลกศิลปะ NFT นี้สามารถผลักดันศิลปินที่มีความสามารถคนไหนก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงพื้นเพของบุคคลนั้นๆ นั่นมันเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว” เธอกล่าว
Michael Gold ศาสตราจารย์ด้านศิลปะผู้สอน Generative Art อธิบายเพิ่มเติมว่า “หากเราคิดดูว่าการเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ เป็นตัวขัดขาไม่ให้ศิลปินหลายคนสามารถสร้างและเผยแพร่งานศิลปะของพวกเขาได้ในอดีต NFTs ก็ได้เข้ามาพลิกบทนั้นไปเลย” เขากล่าว
“ศิลปิน NFT ที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากได้ก้าวเข้าสู่พื้นที่ตรงนี้ผ่านการเรียนรู้เทคนิคที่จำเป็นต่างๆ ผ่านการใช้ทรัพยากรที่ใครก็ตามที่มีคอมพิวเตอร์และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้สามารถเข้าถึงได้แบบฟรีๆ ด้วตัวของพวกเขาเอง เมื่อโลกอินเตอร์เน็ตมักจะมองว่าวิกิพีเดียเป็นแหล่งความจริง หากผู้เรียบเรียงวิกิพีเดียกลุ่มหนึ่งตัดสินใจว่าอะไรใช่และไม่ใช่ศิลปะ การตัดสินใจนั้นก็จะส่งผลกระทบแบบระลอกคลื่น ตัดโอกาสของศิลปินที่สอนตัวเองในอนาคต และอาจจะตัดโอกาสที่โลกศิลปะจะเติบโตไปได้อีกด้วย” Gold ทิ้งท้าย
แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ How Wikipedia’s Classification Of NFTs As ‘Not Art’ Impacts Equity In The Art World เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: Balmain X Barbie: อนาคตของ NFT ในโลกแฟชั่นและตุ๊กตา
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine