Wiz ดาวโรจน์แห่งธุรกิจรักษาความปลอดภัยระบบคลาวด์เป็นสตาร์ทอัพด้านซอฟต์แวร์ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งที่เคยมีมา โดยมียอดขาย 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการประเมินมูลค่าบริษัท 1 หมื่นล้านเหรียญในระยะเวลาเพียง 3 ปี แต่ความดุดันไม่เกรงใจใครของซีอีโอ Assaf Rappaport เศรษฐีพันล้านหน้าใหม่กำลังทำให้หลายๆ คนระอา
ณ งาน Pride Parade ที่ Tel Aviv เมื่อเดือนมิถุนายน Assaf Rappaport ซีอีโอแห่ง Wiz เดินแทรกตัวไปกับขบวนพาเหรด เขาดูไม่สบายใจนัก Rappaport มีรูปร่างผอมเพรียว แต่งตัวเรียบๆ ในเสื้อยืดสีเทา กางเกงขายาว เขาอยู่กับเพื่อนสนิท Yinon Costica ผู้ร่วมก่อตั้ง และ Raaz Herzberg ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดรวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 1 คน
1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้มีผู้บุกรุกพยายามจะเข้าไปหา Rappaport ถึงห้องทำงาน ก่อนจะรอซุ่มโจมตีในลานด้านล่างโดยไม่ทราบเหตุจูงใจ แม้ในขณะที่Rappaport กำลังนำทางฝูงชนอยู่ในเวลานี้ก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบพกอาวุธเดินตามอยู่ด้านหลังจู่ๆ ก็มีเสียงเรียกชื่อของเขา Rappaport ตกใจ แต่คนแปลกหน้าเพียงต้องการถ่ายรูปด้วย
เขาบอกกับ Rappaport เป็นภาษาฮิบรูว่า แม่ของเขาเป็นแฟนตัวยง Rappaport โล่งใจ เขายอมถ่ายรูปด้วยก่อนจะกลับมาเข้าขบวน กระนั้นก็ตาม Rappaport ยังคงหายใจได้ไม่ทั่วท้องจนกระทั่งเขากับ Costica ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Wiz เดินมาจนถึงตรอกที่เงียบสงบใกล้ๆ พวกเขาแวะกิน “Jachnun” ขนมอบของยิวเยเมน “ผมอยากให้แฟนคลับไม่ได้มีแค่พวกแม่ๆ” Rappaport วัย 39 ปีกล่าวติดตลก
ที่ประเทศอิสราเอล สถานที่ก่อตั้ง Wiz คนกึ่งๆ คนดังแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เกือบ 10 ปีที่แล้ว Rappaport พร้อมด้วย Costica และเพื่อนอีก 2 คนขาย Adallom ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านระบบรักษาความปลอดภัยไปให้กับ Microsoft ในราคา 320 ล้านเหรียญ ที่ Microsoft นี้เองที่ Rappaport เคยมีส่วนร่วมในการนำบริษัทโค่น Google ขึ้นครองตำแหน่ง “สถานที่ทำงานที่ดีที่สุด” ในอิสราเอลจากการจัดอันดับของ Dun & Bradstreet มาแล้ว
แต่เพียง 3 ปีหลังจากที่เขาลาออกจากงานนั้นเพื่อกลับมารวมตัวสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพรายใหม่ เขาก็กลายเป็นผู้เล่นระดับโลกในสายเทคโนโลยีในฐานะซีอีโอของบริษัทซอฟต์แวร์ระดับยูนิคอร์นที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่ง เขาได้รับเชิญให้ไปกระทบไหล่กับ Sam Altman แห่ง OpenAI ในการพบปะกันในวาระสุดพิเศษระหว่างบรรดาผู้ทรงอิทธิพลที่ Sun Valley และเข้าร่วมชมการแข่งขัน Formula 1 ในฐานะแขก VIP ของ Amazon ทั้งยังโดดประชุมซีอีโอของ Sequoia บริษัทร่วมลงทุนชื่อดังเพื่อไปขลุกอยู่หลังเวทีกับ Chainsmokers ใน Las Vegas
นับเป็นช่วงชีวิตรูปแบบใหม่อย่างสิ้นเชิงสำหรับ Rappaport เขาเป็นหนุ่มเก็บเนื้อเก็บตัว มีนิสัยการกินเหมือนเด็ก 5 ขวบ (ไม่ดื่มกาแฟ ไม่กินผัก ไม่กินอาหารรสจัด) นอกจากการพาเจ้า Mika สุนัขเรดบอร์เดอร์คอลลี่ไปเดินเล่นแล้ว เขายังมีงานอดิเรกอื่นๆ อีกไม่กี่อย่าง สำหรับ “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลสุนัข” ของ Wiz ที่มีผู้ติดตามทาง LinkedIn ประมาณ 2,000 คนแล้วนั้น Mika จะคอยอยู่เป็นเพื่อนเวลาที่เขายังคงทำงานดึกดื่นอยู่ที่สำนักงานใน Tel Aviv เขาเป็นกำลังสำคัญ เพราะกำลังโต้คลื่นถึง 2 ลูกคือ คลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยเครื่องมือรักษาความปลอดภัยของตัวเอง และยังทำได้เร็วกว่าใครๆ
บริษัทต่างพากันย้ายแอปพลิเคชันและข้อมูลเข้าสู่ระบบคลาวด์ข้อมูลจาก Gartner แสดงให้เห็นว่าคลาวด์เป็นตลาดด้านการบริการและเครื่องมือต่างๆ ที่มีมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านเหรียญ มีอัตราการเติบโตอย่างแข็งแกร่งอยู่ที่ 20% ความต้องการระบบการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นทั้งปัจจัยอันดับ 1 และความท้าทาย การผลักดัน AI ให้กลายเป็นเครื่องมือกระแสหลักยิ่งขับเคลื่อนความต้องการดังกล่าว เมื่อบริษัทต่างแข่งกันใช้ประโยชน์จากเครื่องมือ AI ไม่ว่าจะเป็น OpenAI และ ChatGPT พวกเขาก็ยิ่งอัปโหลดชุดข้อมูลมหาศาลที่จำเป็นสำหรับการฝึกการเรียนรู้ของ AI อย่างไรก็ตามในโลกยุคใหม่นี้แฮกเกอร์ที่ประสงค์ร้ายก็มีเครื่องมือ AI เป็นของตัวเองเช่นกัน
ทันใดนั้น Wiz ก็ก้าวเข้ามา เขาเชื่อมต่อเข้ากับผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บอย่าง Amazon Web Services และ Microsoft Azure และลงมือสแกนทุกอย่างที่เก็บอยู่ในระบบคลาวด์ มีการปักธงทำเครื่องหมายและจัดลำดับความเสี่ยง แต่ Wiz ไม่ใช่ผู้เล่นเพียงรายแรกหรือรายเดียวที่คว้าโอกาสจากกระแสความต้องการความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ พวกเขาต้องเผชิญกับ Palo Alto Networks (มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 7.5 หมื่นล้านเหรียญ) บริษัทมหาชนยักษ์ใหญ่ที่กำลังฟื้นคืนชีพ รวมถึงคู่แข่งที่เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพทุนหนารายต่างๆ กระนั้น Wiz ก็ยังคงเป็นผู้เล่นแห่งยุคอย่างไร้ข้อกังขา
Rappaport กับบรรดาผู้ร่วมก่อตั้งมีแผนการที่พวกเขาเรียกว่า “แผนพลีชีพ” เพื่อเร่งเครื่องการเติบโตของบริษัท โดยจะเร่งจ้างงาน ระดมทุนมหาศาล และเลือกเป้าหมายอันดับต้นๆ เป็นบริษัทชั้นนำในตลาด ความเคลื่อนไหวของ Wiz สั่นสะเทือนทั้งอุตสาหกรรม ลูกค้าของ Wiz มีทั้ง Fox, Morgan Stanley และ LVMH โดย Bernard Arnault ซีอีโอ LVMH ที่ครองตำแหน่งชายที่รวยที่สุดในโลกเป็นบางครั้งนั้นประทับใจความทะเยอทะยานของ Rappaport มากเสียจนกระทั่งเขาลงทุนเขียนเช็คส่วนตัวให้ Wiz ด้วยตนเอง
Wiz ทำรายได้ที่เกิดขึ้นซ้ำต่อปีได้เกินว่า 100 ล้านเหรียญในรอบ 18 เดือนที่ผ่านมา นับว่าเร็วที่สุดที่บริษัทซอฟต์แวร์เคยทำได้ ถัดมาอีกเพียง 9 เดือนพวกเขาทำรายได้แตะหลัก 200 ล้านเหรียญ ทะยานขึ้นสู่อันดับ 15 ของทำเนียบ Cloud 100 ประจำปีของ Forbes
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Wiz ได้รับการประเมินมูลค่าไว้สูงถึง 1 หมื่นล้านเหรียญในการระดมทุน 300 ล้านเหรียญรอบซีรี่ส์ D ซึ่งนำโดย Lightspeed Venture Partners และ Greenoaks Capital Partners แจ้งเกิดเศรษฐีพันล้านหน้าใหม่จากสมาชิกหลัก 4 รายคือ Rappaport, Costica, Ami Luttwak และ Roy Reznik ซึ่งทุกคนถือหุ้น 10% แต่ก็ยังไม่ใช่ข่าวใหญ่ที่สุดของวัน Rappaport ใช้โอกาสนี้ประกาศจุดยืนทางการเมือง เขาบอกว่า Wiz จะไม่เก็บเงินไว้ในอิสราเอล แต่จะเก็บไว้ในสหรัฐฯ เพื่อประท้วงนายกรัฐมนตรี Benjamin Netanyahu ที่เพิ่งผ่านแผนยกเครื่องระบบตุลาการ
Rappaport คือผู้นำด้านเทคโนโลยีของอิสราเอลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่ออกมายืนหยัดเคียงข้างกลุ่มผู้ประท้วงและสหภาพแรงงานบางแห่ง จนทำให้ใบหน้าของเขาปรากฏตามข่าวต่างๆ ทั่วอิสราเอลในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ การตกเป็นที่รู้จักทำเขาต้องปรับตัวให้ชินกับสถานการณ์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าขอถ่ายรูปด้วย หรือแม้กระทั่งคนซุ่มตามตัวถึงสำนักงาน
“เขาเป็นคนเปิดเผยและรักชาติ” Howard Schultz อดีตซีอีโอของ Starbucks และเศรษฐีพันล้านนักลงทุนของ Wiz กล่าว “เขามีพลังพิเศษคือ แม้ว่าจะมีความมั่นใจและประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เขาก็มีความอ่อนน้อมถ่อมตน”
แต่ใช่ว่าทุกคนจะประทับใจการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Rappaport ทั้งนี้ Wiz มีการจ้างงาน (มีลูกจ้าง 750 คนและยังจะเพิ่มขึ้นอีกมาก) และการระดมทุนเป็นจำนวนมาก (กว่า 900 ล้านเหรียญนับจนถึงเวลานี้) ทำให้นึกถึงสมัยที่แวดวงเทคโนโลยีมีการใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายในช่วงทศวรรษก่อนหน้านี้ บรรดาคู่แข่งของ Wiz ต่างเฝ้ารอการซ้ำรอยการพังทลายครั้งรุนแรงที่สุดในยุคนั้น แต่ครั้งนี้นำโดยผู้ร่วมก่อตั้งช่างฝันชาวอิสราเอล
แต่ข้อมูลดังกล่าวก็เป็นเพียงข้อมูลผิวเผิน Adam Neumann นั้นไม่เหมือนกับ Rappaport เพราะเมื่อตอน Neumann เริ่มงานกับ WeWork เขายังไม่ใช่วิศวกรที่เคยมีประวัติการลาออกครั้งใหญ่ด้วยซ้ำ การเดิมพันครั้งใหญ่เช่น Wiz นำมาซึ่งความกดดัน ผู้เล่นบางรายในอุตสาหกรรมมองว่า พวกเขาใช้กลยุทธ์เชิงรุกที่ดุดันเกินกว่าเหตุ Orca Security คู่แข่งรายหนึ่งยื่นฟ้อง Wiz ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่า Wiz พร้อมที่จะทำทุกอย่างตั้งแต่การละเมิดสิทธิบัตรไปจนถึงการลอกถ้อยคำอุปมาอุปไมยทางการตลาด แต่ Tamar Harel โฆษกของ Wiz บอกว่า ข้อกล่าวหาในคำฟ้องนี้ “ไม่มีมูลความจริง”
Rappaport รู้ตัวว่าเขากำลังเดินสวนทางภูมิปัญญาการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน แต่เขาบอกว่า สุสานธุรกิจสตาร์ทอัพเวลานี้เป็นที่ฝังเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่เปิดตัวสู่ตลาดช้าเกินไป และยังกล่าวเสริมด้วยว่า ในการแข่งขันด้านการรักษาความปลอดภัยระบบคลาวด์นั้นผู้ชนะจะเป็นบริษัทที่มีมูลค่า 1 แสนล้านเหรียญ ดังนั้น ในขณะที่ผู้เล่นรายอื่นเลือกเดินเกมช้าๆ และล่าถอย Wiz กลับเปิดเกมรุกเป็น 2 เท่า “เมื่อเทียบกับสถานะของเราในเวลานี้ความเป็นไปได้มันยิ่งใหญ่มาก” Rappaport กล่าว “แต่ถ้าถามว่า ปลอดภัยไหมน่ะหรือ? แน่นอนว่าไม่มีเลย”
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : นำพล มลิชัย ผนึกกำลังติดปีก SCGD