เจาะลึกการตลาดฉบับ Taylor Swift - Forbes Thailand

เจาะลึกการตลาดฉบับ Taylor Swift

นับตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าสู่วงการดนตรีในฐานะสาวน้อยผู้มาพร้อมสุนทรียภาพแห่งเพลงคันทรี จวบจนปัจจุบันในฐานะดาวเด่นบัลลังก์ป๊อป Taylor Swift ไม่เพียงครอบครองหัวใจของผู้คนนับล้านด้วยท่วงทำนองของเธอเท่านั้น แต่ยังจรัสแสงเจิดจ้าด้วยอัจฉริยภาพด้านการตลาดทรงประสิทธิภาพ


    ด้วยการเล่าเรื่องอันเฉียบคม ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับแฟนๆ และความร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ อย่างมีกลยุทธ์ Swift จารึกวิถีทางที่ไม่เหมือนใครในอุตสาหกรรมดนตรี ซึ่งในบทความนี้ เราจะไปค้นหาเหตุผลเบื้องหลังความสำเร็จด้านการตลาดของ Taylor Swift รวมถึงวิธีการที่เธอใช้เพื่อปักหลักอย่างมั่นคง ณ จุดสูงสุดในเส้นทางอาชีพของเธอ


จุดเริ่มต้นของสาวน้อยผู้รักเสียงเพลง

    เส้นทางอาชีพของ Taylor Swift เริ่มต้นเมื่อครั้งเยาว์วัย เธอปล่อยอัลบั้มเปิดตัวตอนอายุเพียง 16 ปี และสร้างชื่อในวงการเพลงคันทรีอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการแต่งเพียงเกี่ยวกับความรัก อกหัก และการเติบโตที่เข้าถึงได้ง่ายจับใจผู้ฟังทุกช่วงอายุ ทักษะในฐานะนักร้องและนักแต่งเพลงในระดับมืออาชีพ กอปรกับความสามารถในการเข้าถึงคนฟังพาเธอโผนทะยานสู่จุดสูงสุดของชาร์ตเพลงระดับประเทศ


Taylor Swift สมัยยังเป็นหน้าใหม่ในวงการเพลง


    ข้อมูลจาก Billboard เผยว่าอัลบั้มเปิดตัวของ Taylor Swift ที่ปล่อยออกมาในปี 2006 ขายได้กว่า 7.75 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก เพลงฮิตช่วงแรกๆ ของเธออย่าง “Love Story” และ “You Belong with Me” กลายเป็นเพลงชาติของผู้คนในยุคนั้น และอัลบั้มอื่นๆ ของเธอก็ยังติดอันดับต้นๆ ของชาร์ตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เธอคว้ารางวัลต่างๆ มากมาย


กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ฉบับ Taylor Swift

    หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ขับเน้นความชาญฉลาดด้านการตลาดของ Taylor Swift ให้โดดเด่นกว่าใคร คือกลยุทธ์การสร้างแบรนด์อันแข็งแกร่ง เธอมีความเชี่ยวชาญในด้านศิลปะการเล่าเรื่องโดยใช้ดนตรีและตัวตนที่คนส่วนใหญ่รู้จักทำให้แฟนๆ เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงได้ไม่ยาก

    ไม่ว่าจะเป็นการบอกเล่าประสบการณ์ของตัวเธอ หรือจินตนาการตัวละครขึ้นมา เพลงต่างๆ ของ Swift ต่างกลายมาเป็นเสมือนเพลงประกอบชีวิตของผู้ฟัง การทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวเองอันจริงแท้เหล่านี้เองที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการสร้างฐานแฟนคลับแสนละเอียดอ่อน

    ความสามารถในการสื่อใจกับผู้ฟังผ่านการเล่าเรื่องเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนในอัลบั้ม “Fearless (2008)” ที่ได้รับรางวัลอัลบั้มแห่งปีจากเวที Grammy Award โดย Nielsen Music เผยตัวเลขจนถึงปี 2020 ว่าอัลบั้มดังกล่าวขายได้กว่า 10.2 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก

    เนื้อเพลงของ Swift ผสานกับการแสดงอันจับใจก้องกังวานในหัวใจของแฟนๆ ทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในศิลปินทรงอิทธิพลสูงสุดในรุ่นเลยก็ว่าได้

อัลบั้ม Fearless


ใช้โซเชียลมีเดียเป็นพลัง

    ปัจจุบันคือโลกแห่งยุคดิจิทัล โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญยิ่งในกลยุทธ์การตลาด และ Taylor Swift ก็ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเกินใคร เธอมีจำนวนผู้ติดตามหลายล้านคนบนแพลตฟอร์มต่างๆ

    การปรากฎตัวและมีส่วนร่วมสร้างปฏิสัมพันธ์อันดีกับเหล่าแฟนๆ ในระดับส่วนตัวพร้อมแบ่งปันคอนเทนต์สุดพิเศษ ด้วยชีวิตหลังกล้องเล็กๆ น้อยๆ และเข้าถึงได้ ก่อให้เกิดความรู้สึกเหนียวแน่นของความเป็นชุมชน ทั้งยังทำให้แฟนคลับสัมผัสได้ถึงคุณค่าอันลึกซึ้งเหล่านี้

    ณ เดือนมิถุนายน 2023 เธอมีผู้ติดตามกว่า 265 ล้านคนบน Instagram โพสต์ต่างๆ ของเธอมักมีแฟนๆ มาแสดงความมีส่วนร่วมกันอย่างล้นหลามด้วยยอดคอมเมนต์และไลค์จำนวนนับหมื่น กลยุทธ์การใช้โซเชียลมีเดียทำให้ Swift สามารถติดต่อสื่อสารกับแฟนคลับได้ในระดับโลกจนกลายเป็นชุมชนอันแข็งแกร่งและเปี่ยมด้วยความหลงใหล


สานสัมพันธ์กับแฟนคลับ

    ความสัมพันธ์ระหว่าง Taylor Swift กับแฟนๆ ของเธอนั้น นับได้ว่าไม่เคยมีใครทำมาก่อน เธอจัดเต็มได้มากกว่าใครในการแสดงความซาบซึ้งและขอบคุณการสนับสนุนขอเหล่าบรรดาแฟนคลับ เห็นได้จากการจัดกิจกรรมลับๆ เพื่อทำการเซอร์ไพรส์พวกเขาด้วยของขวัญส่วนตัว ความทุ่มเทที่เธอมีให้แฟนๆ นั้นถือเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง


Taylor Swift พบปะแฟนคลับใน Secret Sessions


    ในการเปิดตัวอัลบั้ม “1989” เมื่อปี 2014 เธอได้จัดช่วง “Secret Sessions” แก่แฟนคลับตามเมืองต่างๆ ด้วยการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ฟังเพลงจากอัลบั้มก่อนปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ สร้างความรู้สึกพิเศษและตื่นเต้น การมีปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นกันเองกับแฟนๆ ของ Swift ได้สร้างสายสัมพันธ์อันบริสุทธิ์ ทำให้พวกเขารู้สึกมีค่าและซาบซึ้งใจ


ศิลปินต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเอง

    ความสามารถในการพัฒนาตัวเองในฐานะศิลปินคืออีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ Taylor Swift ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เธอก้าวจากการเป็นนักร้องสไตล์คันทรีสู่วงการเพลงป๊อปได้อย่างแข็งแกร่ง เผยให้เห็นความเก่งกาจรอบด้านควบคู่กับเจตจำนงอันแรงกล้าในการทดลองสไตล์ใหม่ๆ

    การพัฒนาตัวเองเช่นนี้ทำให้เธอเข้าถึงผู้ชมที่กว้างขวางขึ้น พิสูจน์ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับเทรนด์ที่ไม่หยุดนิ่งในอุตสาหกรรมดนตรี ความกล้ายอมรับความเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการตัวเองทำให้ผลงานของเธอยังคงสดใหม่และเปี่ยมด้วยเสน่ห์ไม่เคยจาง

    Nielsen Music เผยยอดขายอัลบั้ม “1989” มากกว่า 10 ล้านก็อปปี้ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวเลขในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ผลงานชิ้นนี้ของเธอจึงกลายเป็นอัลบั้มขายดีประจำปี 2014 ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้เองเป็นดั่งสัญลักษณ์ที่บ่งบอกการพลิกบทบาทจากนักร้องสาวสไตล์คันทรีกลายมาเป็นโฉมใหม่ของ Swift ที่มาเขย่าทั้งวงการเพลงป๊อปให้โลกต้องสะเทือน


บนเวที The Eras Tour


    ท้ายสุดนี้ คงต้องบอกว่า Taylor Swift มาไกลจากจุดเริ่มต้นอย่างมาก เธอไม่เพียงทำการตลาดได้ดีเยี่ยม และประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นบุคคลทรงอิทธิพลแห่งยุคเลยก็ว่าได้ The Eras Tour ของเธอสร้างรายได้มหาศาลเข้าสู่ทุกเมืองที่จัดคอนเสิร์ตตั้งแต่ปีที่ผ่านมา กลายเป็นผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจที่สำคัญยิ่ง และยังสามารถคาดการณ์ได้ว่าแนวทางดังกล่าวจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปจนกว่าทัวร์คอนเสิร์ตรอบนี้จะสิ้นสุดลง


แปลและเรียบเรียงจาก Dissecting the marketing brilliance of Taylor Swift


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อีเวนต์ระดับชาติ! Marina Bay Sands จัดเต็มโชว์แสงสีเสียง รับคอนเสิร์ต Taylor Swift ที่สิงคโปร์

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine