คนในสายการเงินดั้งเดิมส่วนใหญ่เห็นเงินคริปโตเป็นเรื่องตลกมานานแล้ว แต่นักเทรดเหรียญมีมรุ่นใหม่เป็นกองทัพกำลังวิ่งเข้าใส่เรื่องเหลวไหลนี้ และแปลงแนวคิดสุญนิยมทางการเงินให้กลายเป็นตลาดที่กำลังเฟื่องฟู แต่อันตรายอย่างร้ายกาจซึ่งมีมูลค่านับแสนล้านเหรียญสหรัฐ
“เราไป Miami กัน! งานนี้ซื้อ Lambo ได้แน่!” Oliver Szmul นักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 16 ปี จาก London แทบเก็บอาการไม่อยู่ เสียงเขาแตกพร่าด้วยความตื่นเต้น
ตอนนั้นเป็นช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเขาเพิ่งได้เห็นมูลค่าประเมินของเงินคริปโตชื่อ Jail Cat ที่เขากับเพื่อนๆ ช่วยกันสร้างขึ้นมาปุบปับในช่วงที่แรงบันดาลใจกำลังพลุ่งพล่านเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนพุ่งทะยานไปถึง 1.9 ล้านเหรียญในเกือบชั่วข้ามคืน และวันรุ่งขึ้นโทเคนธีมแมวที่มีภาพแมวลายสลิดถูกตำรวจจับยืนถือป้ายเขียนว่า “ผมเคี้ยวเช็ค 3,000 เหรียญ” ก็ราคาพุ่งทะลุ 2.5 ล้านเหรียญ แต่ความตื่นเต้นก็จางหายไปเร็วพอๆ กับตอนที่มันเกิดขึ้น แล้วราคาเหรียญ Jail Cat ก็ดิ่งพรวดจนตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 87,000 เหรียญ
Jail Cat ไม่ได้สร้างมาเพื่อวัตถุประสงค์หรือประโยชน์ในทางทฤษฎีใดๆ มันเป็นแค่เหรียญที่สร้างมาขำๆ เป็นมุกเสียดสีและเป็นเครื่องมือเก็งกำไร ในฐานะ “เหรียญมีม” (meme coin) โทเคนนี้ไม่มีมูลค่าในตัวเอง แต่มีมูลค่าเท่ากับที่ใครสักคนอยากจะจ่ายเงินซื้อ ซึ่งอาจจะแพงก็ได้ เหรียญมีมชื่อ Dogecoin ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากสุนัขพันธุ์ชิบะกลายเป็นสกุลเงินคริปโตที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับที่ 6 ของโลก ในปัจจุบันด้วยมูลค่าตามราคาตลาด 4.7 หมื่นล้านเหรียญ
Szmul ซึ่งอพยพตามครอบครัวจากโปแลนด์มาอยู่อังกฤษตัดสินใจแล้วว่า เหรียญมีมคืออนาคตของเขา เมื่อเดือนเมษายน ปี 2024 ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่เหรียญ Jail Cat จะออกสู่ตลาด เขาโพสต์วิดีโอแรกทางช่อง YouTube ที่เขาเปิดใหม่ชื่อ ZoomWealth เพื่อนำเคล็ดลับของเขามาสอนคนอื่น Szmul อ้างว่า เขาหาเงินได้ประมาณ 100,000 เหรียญในไม่กี่เดือนจากการซื้อและขายเหรียญตลกไร้สาระที่สร้างบนบล็อกเชน เหรียญขายดีที่สุดของเขาส่วนหนึ่งคือ “Cat Poop Joystick”, “Livemom” และ “Sigma” ซึ่งเป็นคำสแลงของคนรุ่นเจน Z ที่เรียกร้อง “วัฒนธรรมชายแกร่งผู้มั่นใจในตนเองอย่างไม่สั่นคลอน”
“วงการนี้ไม่เหมาะกับคนใจเสาะ” นักเทรดเหรียญมีมชื่อ Rachael Sacks วัย 31 ปีกล่าว เธอทำงานด้านการสื่อสารให้เอเจนซี่การตลาดบน Web3 ชื่อ Hype ใน Berlin จากบ้านของเธอในเมือง Charleston รัฐ South Carolina เธอเองก็เข้าวงการเหรียญมีมเต็มตัวเหมือน Szmul โดยที่เธอมีเหรียญมีมมูลค่า 110,000 เหรียญกระจายอยู่ในกระเป๋า MetaMask และ Phantom ของเธอ “มีบางช่วงที่ฉันนั่งเทรดทั้งวันเลยจริงๆ” Sacks กล่าว และเธอยอมรับว่าการขาดทุน 10,000 เหรียญในวันเดียวไม่ใช่เรื่องแปลก
ข้ามไปอีกซีกโลกหนึ่งในเมือง Dubai อินฟลูเอนเซอร์ทาง YouTube วัย 23 ปี ซึ่งใช้ชื่อว่า “K Crypto” อ้างว่า เขาเคยทำเงินได้กว่า 1 ล้านเหรียญจากเหรียญมีม เหรียญแพงที่สุดที่เขาเคยสร้างขึ้นคือ “BrianWifHair” ซึ่งเป็นโทเคนล้อทรงผมโกนเกลี้ยงของ Brian Armstrong ซีอีโอเศรษฐีพันล้านของ Coinbase ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินคริปโตรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ “มูลค่ามันวิ่งไปถึง 1 ล้านเหรียญอยู่ 3 หรือ 4 ชั่วโมง” เขากล่าว “แล้วก็ค่อยๆ แผ่วไปเองอย่างที่เหรียญมีมเป็นกัน”
ขอต้อนรับสู่กระแสอันหวือหวา บ้าคลั่ง และงี่เง่าที่สุดในวงการปั่นเงินด้วยเหรียญคริปโต เมื่อก่อนนี้ ถ้าคุณจะสร้างเหรียญคริปโตสกุลใหม่ คุณต้องมีความสามารถด้านคณิตศาสตร์อยู่บ้างและมีฝีมือการเขียนโปรแกรมพอตัว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้ว เพราะใครๆ ก็สร้างเหรียญมีมได้โดยการคลิกเมาส์ไม่กี่ทีด้วยซอฟต์แวร์สำเร็จรูปที่เปิดให้ใช้งานฟรี
ข้อมูลจาก BDC บริษัทที่ปรึกษาด้านบล็อกเชนจากประเทศเอสโตเนียชี้ว่า ทุกๆ วันจะมีเหรียญมีมถูกสร้างขึ้นใหม่ 40,000-50,000 เหรียญ และในปี 2024 มีเหรียญถูกสร้างขึ้นเกือบ 13 ล้านเหรียญ โดยมีมูลค่าตลาดรวมกันประมาณ 1 แสนล้านเหรียญ ดัชนี Meme Coin Index ของ MarketVector ซึ่งติดตามราคาของเหรียญมีมสกุลใหญ่ที่สุดในโลก 6 สกุลพุ่งขึ้น 215% นับตั้งแต่ต้นปี 2024 มากกว่าราคา Bitcoin ที่วิ่งขึ้น 100% เป็นเท่าตัว
จะว่าไปเหรียญมีมก็เหมือนการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มาในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล แถมยังฉีดสเตียรอยด์เข้าไปอีก เพราะถ้าเหรียญดังเป็นไวรัลก็จะมีกลุ่มผู้ติดตามเหนียวแน่นจนมูลค่าตามราคาตลาดพุ่งทะลุฟ้าในชั่วข้ามคืน ตัวอย่างเช่น “Dogwifhat” โทเคนที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2023 ก่อนบนบล็อกเชน Solana เหรียญนี้มีแค่ภาพสุนัขสวมหมวกไหมพรม ไม่มีแผนธุรกิจหรือเอกสารนำเสนอข้อมูลเชิงเทคนิค มีแค่เว็บไซต์ต้นทุนต่ำที่โชว์ไฟล์ภาพและมิวสิกวิดีโอน้องหมาสวมหมวกสารพัดแบบเท่านั้น
แต่เมื่อ Binance ตัดสินใจนำโทเคนนี้เข้าจดทะเบียนในเดือนมีนาคม ปี 2024 ก็ทำให้ราคาเหรียญพุ่ง ข้อมูลของ Solscan แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลในสิงคโปร์ชี้ว่า ปัจจุบันนี้ Dogwifhat มีผู้ถือเหรียญกว่า 190,000 ราย มีมูลค่าตามราคาตลาด 3.1 พันล้านเหรียญ และมีปริมาณการซื้อขายประมาณ 3 พันล้านเหรียญต่อวัน
การเล่นเหรียญมีมเก็งกำไรไม่เหมาะกับคนขี้กลัว BDC ชี้ว่า เหรียญมีมมีความผันผวนมากกว่า Bitcoin ถึง 50 เท่า และยังเป็นแหล่งรวมการฉ้อโกงด้วย โครงการเหรียญมีมประมาณ 40% เป็นกลยุทธ์ปั่นแล้วทุบ และอีก 30% เป็นแค่แผน “กระชากพรม” ซึ่งในภาษาคริปโตหมายถึงการที่ผู้สร้างเหรียญเชิดเงินลงทุนหนีไป การกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎระเบียบส่วนใหญ่ไม่มีจริง แถมยังมีบอท AI มาช่วยซ้ำเติมสถานการณ์ด้วยการปั่นตลาดให้ราคาแกว่งจนคาดเดาไม่ได้ และถึงคุณจะไม่กลัวความผันผวน แต่ระวังเรื่องอายุขัยของเหรียญไว้บ้างก็ดี เพราะ BDC ประเมินว่า เหรียญมีมนั้นมีอายุขัยเฉลี่ยแค่ 78 นาทีก่อนที่มันจะหมดความหมายไร้ค่าไม่ต่างจากล็อตเตอรี่หลายล้านใบที่ไม่ถูกรางวัล
“ผมรู้ว่าวงการนี้เหมือนกาสิโนขนาดยักษ์” K Crypto กล่าว “แต่ผมเสียเวลาเปล่าไป 3 ปีเพื่อปริญญาที่ไร้ประโยชน์ (สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์) เพราะเอเจนต์ AI ทำงานแทนนักเขียนโค้ดได้แล้ว”
เรื่อง: NINA BAMBYSHEYA และ STEVEN EHRLICH, เรียบเรียง: ธรรดร โสตถิอำรุง, ภาพประกอบ: NICOLAS ORTEGA
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : กลไกและบทบาท P2P ในตลาดคริปโต
