เป็นประจำทุกปีที่ในช่วงใกล้ถึงเทศกาลหยุดยาว มหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง Bill Gates มักจะมาแนะนำหนังสือน่าอ่านที่เหมาะกับการจะใช้เวลาในช่วงวันหยุดให้มีค่าด้วยการเติมอาหารสมอง
ปีนี้ก็อีกเช่นเคย Bill Gates มาแนะนำกิจกรรมที่น่าสนใจ และไม่ใช่เพียงแค่การอ่านหนังสือดีๆ แต่ปีนี้เขายังแนะนำกิจกรรมอื่นๆ ด้วย เช่น ซีรีส์ เพลย์ลิสต์เพลง ไปจนถึงคอร์สเรียน โดย Gates ระบุว่า
"เมื่อถึงสิ้นปี ผมมักสนุกกับการมองย้อนกลับไปยังหนังสือดีๆ ที่ผมได้อ่าน สำหรับปี 2023 มี 3 เล่มแวบเข้ามาในหัวผมทันที แต่ละเล่มเต็มไปด้วยสาระและเขียนออกมาได้ดีมากนอกจากนี้ยังมีคอร์สเรียนเศรษฐศาสตร์โดยอาจารย์คนเก่งที่ผมเคยดูมากว่าสิบปีแล้วแต่ยังคงแนะนำเพื่อนๆ และครอบครัวให้ดูจนทุกวันนี้
โดยไม่ลืมความสนุกสนาน ผมใส่เพลย์ลิสต์เพลงประจำเทศกาลสุดไพเราะตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ทั้งในสหรัฐอเมริกาและจากทั่วโลก
ผมไม่มีเวลาเขียนรีวิวเรื่องนี้เต็มๆ แต่ผมควรบอกด้วยว่าเพิ่งได้ดูซีรีส์ All the Light We Cannot See ทาง Netflix ซึ่งผมอ่านหนังสือมาแล้ว มันยอดเยี่ยมมาก บางครั้งคุณอาจผิดหวังเมื่อหนังสือเล่มโปรดถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ แต่ไม่ใช่สำหรับเรื่องนี้ ซีรีส์ทำออกมาดีพอกัน นักแสดงที่รับบท von Rumpel นักล่าอัญมณีแห่งนาซีที่เป็นตัวร้ายของเรื่องแสดงออกมาได้น่าจดจำอย่างมาก
ผมหวังว่าคุณจะได้เรื่องดีๆ ไปอ่าน ดู หรือฟัง จากตรงนี้ สุขสันต์วันหยุดครับ!
หนังสือ: The Song of the Cell โดย Siddhartha Mukherjee
ถึงจุดหนึ่งเราทุกคนล้วนต้องป่วย และคนที่เรารักสักคนก็ต้องป่วยเช่นกัน เพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานั้น และเพื่อให้มีกำลังใจว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น การรู้เรื่องเกี่ยวกับเซลล์อันเป็นหน่วยย่อยสุดของสิ่งมีชีวิตนั้นช่วยได้มากทีเดียว
หนังสือเล่มล่าสุดของ Mukherjee จะให้ความรู้เหล่านั้นแก่คุณ เขาเริ่มต้นจากการเล่าว่าชีวิตวิวัฒนาการจากสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวได้อย่างไร จากนั้นจึงอธิบายความเจ็บป่วยของมนุษย์ และผลพวงจากอายุที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย
Mukherjee ผู้เป็นทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งและนักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์ใช้ทักษะความรู้ความสามารถทั้งหมดที่มีเพื่อหนังสือสุดอัศจรรย์เล่มนี้
หนังสือ: Not the End of the World โดย Hannah Ritchie
Hannah Ritchie เคยเชื่อดุจเดียวกับนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมคนอื่นๆ ว่าเธอ “กำลังอยู่ในยุคที่น่าโศกสลดที่สุดของมนุษยชาติ” แต่เมื่อเธอลองพิจารณาข้อมูลจึงตระหนักว่าไม่ใช่เลย หลายสิ่งย่ำแย่และเลวร้ายกว่าในอดีตกาลอันยาวไกล แต่จากการตรวจวัดทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างกำลังค่อยๆ ดีขึ้น
ตอนนี้ Ritchie เป็นหัวหน้านักวิจัยที่ Our World in Data และในหนังสือ Not the End of the World เธอนำข้อมูลต่างๆ มาเล่าเรื่องค้านความคิดเกี่ยวกับวันหายนะด้านสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนหัวข้อว่าด้วยสิ่งแวดล้อมอื่นๆ โดยมิได้บิดเบือนปัญหาความท้าทาย
ใครก็ตามที่อยากสนทนาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีความรู้ควรอ่านหนังสือเล่มนี้
หนังสือ: Invention and Innovation โดย Vaclav Smil
เรากำลังอยู่ในยุคสมัยแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่รุ่งโรจน์ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติหรือเปล่า? หลายคนอาจตอบว่าใช่ แต่ Smil กลับพูดอีกอย่างหนึ่ง
อันที่จริงเขาเขียนว่ายุคปัจจุบันแสดงให้เห็นถึง “สัญญาณของการชะลอตัวทางเทคนิคและความก้าวหน้าที่ช้าลงอย่างชัดเจน” ซึ่งผมเห็นด้วย แต่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หลังอ่านหนังสือทั้งหมด 44 เล่มของเขาและได้พูดคุยกับเขามาหลายครั้ง ทำให้ผมรู้ว่าเขาไม่ได้มีมุมมองเรื่องนวัตกรรมในแง่ดีมากเท่าผม
กระนั้นก็ตาม แม้เราไม่ได้มีความคิดเห็นเกี่ยวกับอนาคตที่ตรงกัน ก็ไม่มีใครเก่งเรื่องอธิบายอดีตเท่า Smil หากคุณอยากรู้ว่าความเฉลียวฉลาดของมนุษย์พาเรามาไกลถึงขนาดนี้ได้อย่างไร ผมขอแนะนำว่าห้ามพลาด Invention and Innovation
คอร์สเรียน: เลกเชอร์เศรษฐศาสตร์ออนไลน์ โดย Timothy Taylor
ผมเคยดูซีรีส์เลกเชอร์ออนไลน์มามาก ซึ่ง Taylor เป็นหนึ่งในศาสตราจารย์คนโปรดของผมเลย ทั้งสามซีรีส์ของเขาบน Wondrium ยอดเยี่ยมมาก
The New Global Economy สอนคุณเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เศรษฐกิจพื้นฐานของแต่ละภูมิภาคและอธิบายการทำงานของตลาดต่างๆ
Economics เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยากเข้าใจหลักการสำคัญของเศรษฐศาสตร์ในเชิงลึก
Unexpected Economics อาจมีผู้ชมกว้างขวางที่สุด เพราะ Taylor ประยุกต์หลักการเหล่านั้นกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การให้ของขวัญ การจราจร ภัยธรรมชาติ กีฬา และอื่นๆ อีกมากมาย
คุณต้องถูกใจบทเรียนของ Taylor แน่นอน
เพลง: เพลย์ลิสต์เพลงวันหยุด
สุดท้ายนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย ผมรักเพลงประจำเทศกาลและได้รวบรวมทำลิสต์เพลงโปรดมาจำนวนหนึ่ง ทั้งคลาสสิกและโมเดิร์น จากสหรัฐฯ และรอบโลก"
แปลและเรียบเรียงจาก Great books, courses, and music for the holidays
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : All I Want for Christmas Is You เพลงใช้เวลาแต่งแค่ 15 นาที สู่รายได้ 30 ปีของ Mariah Carey
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
