3 เคล็ดลับในการประกาศ 'หางาน' ผ่าน LinkedIn - Forbes Thailand

3 เคล็ดลับในการประกาศ 'หางาน' ผ่าน LinkedIn

ผู้คนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันต่างเลือกหางานด้วยการค้นหาตำแหน่งที่ตรงใจผ่านออนไลน์กันมากขึ้น แพลตฟอร์มของ LinkedIn ถือเป็นอีก 1 ตัวเลือกที่หลายคนนิยมใช้ แต่การหางานด้วยการตั้งค่าฟีเจอร์ Open To Work อาจจะยังไม่โดดเด่นพอให้ได้งานใหม่ Forbes จึงได้สรุป 3 เคล็ดลับในการประกาศหางานสร้างโปรไฟล์ให้ดึงดูดใจ


    ทุกครั้งที่คุณได้ Log in เข้าสู่ระบบ LinkedIn คุณคงได้เห็นโพสต์ของหลายๆ คนที่กำลังมองหางานแต่สิ่งที่พวกเขาโพสต์ดูจะไม่ช่วยให้หางานได้ง่ายขึ้นเท่าไรนัก

    และในบางครั้งคุณอาจจะเคยเห็นโพสต์เช่นนี้ด้วย นั่นก็คือ การที่รูปโปรไฟล์ของบุคคลนั้นมีแบนเนอร์ Open To Work สีเขียวและเขียนข้อความว่า “เฮ้ เพื่อนๆ ฉันกำลังมองหาความท้าทายใหม่ๆ และอยากจะขอขอบคุณล่วงหน้าเลยสำหรับใครที่ช่วยสนับสนุนหรือให้คำแนะนำต่างๆ ว่าควรจะติดต่อใคร หรือมีงานไหนที่น่าจะเป็นโอกาสอันดีให้กับฉันบ้าง” Sarah Doody ซึ่งเป็นซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Career Strategy Lab กล่าวพร้อมแสดงให้เห็นตัวอย่างการโพสต์หางานผ่าน LinkedIn

    ทั้งนี้ กฎหลักในการค้นหางานเพื่อให้ได้รับการว่าจ้าง คุณจำเป็นจะต้องเรียนรู้กลยุทธ์อื่นๆ เพิ่มเติมจากบทความนี้ เพื่อปรับปรุงโปรไฟล์ของคุณให้มีความโดดเด่นดึงดูดความสนใจมากขึ้นผ่าน newsfeed นอกเหนือจากการเปิดตั้งค่าการใช้งาน Open To Work 

    หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้ในการค้นหางาน ก็คือ การแจ้งให้ผู้คนจำนวนมากรู้ว่าคุณกำลังมองหางานอะไรอยู่ ซึ่งจากสถิติการศึกษาข้อมูลของกระทรวงแรงงานในสหรัฐอเมริกาจะเห็นได้ว่า 85% ของงานที่ถูกพบและได้รับการว่าจ้างมักมาจากเครือข่ายความสัมพันธ์หรือกลุ่มคนที่โยงใยรู้จักกัน และหนึ่งในสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงพลังของเครือข่ายหรือความสัมพันธ์ดังกล่าวก็คือ บนแพลตฟอร์มของ LinkedIn

การใช้ฟีเจอร์ Open To Work ของ LinkedIn

    เพื่อช่วยให้ผู้ทำหน้าที่ Recruiter หรือเหล่าบรรดาผู้สรรหาพนักงานใหม่รับรู้ได้ว่าคุณกำลังมองหางานในอนาคต LinkedIn จึงได้เปิดตัวฟีเจอร์ Open To Work ที่จะเพิ่มแบนเนอร์สีเขียวพร้อมแฮชแท็ก #opentowork แสดงบนรูปโปรไฟล์ของคุณ 

    นอกจากนี้ ยังช่วยแสดงโปรไฟล์ของคุณในผลการค้นหาเมื่อนายหน้าผู้สรรหาพนักงานและผู้จัดการด้านการจ้างงานได้ค้นหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับประสบการณ์การทํางานที่คุณมีอยู่ 

    ซึ่งในทางทฤษฎีแล้ว ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์ต่อผู้หางานเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม คุณจะได้รับโอกาสเพียงครั้งเดียวในการสร้างความประทับใจแรกพบท่ามกลางโปรไฟล์ของผู้หางานคนอื่นๆ อีกมากมายที่พยายามประกาศตนให้โดดเด่นในการหางานใหม่เช่นเดียวกัน

    ซึ่งถ้ามีคนเห็นโพสต์นี้หลังจากได้เลื่อนดูฟีดต่างๆ ผ่าน LinkedIn พวกเขาอาจจะไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะช่วยฉันค้นหางานใหม่ได้อย่างแท้จริง โพสต์นี้ได้ทิ้งคําถามไว้มากมายรวมถึงยอดการกดไลค์และการอวยพรให้ได้งานแต่ไม่ได้รับคําตอบที่จะส่งผลให้เกิดความหมายที่ดีสำหรับการสนทนาการที่เชื่อมต่อบุคคลที่เป็นประโยชน์ต่อการหางานแต่อย่างใด

    และนี่คือ เคล็ดลับ 3 ข้อที่จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์โพสต์ที่ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการประกาศหางานผ่าน LinkedIn และการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายมืออาชีพให้ได้ประโยชน์สูงสุด


1. ตอกย้ำให้โลกรู้ศักยภาพในตัวคุณ

    หลายคนโฟกัสผิดไปที่ขนาดหรือจำนวนคนที่พวกเขารู้จักผ่านเครือข่าย LinkedIn ซึ่งภารกิจในการเชื่อมต่อผู้คนให้ได้มากๆ จำนวน 500 คน ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลเหล่านั้นจะมีคุณภาพในการช่วยแนะนำหรือหางานให้คุณได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย เพราะพวกเขาอาจจะไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วคุณมีศักยภาพเฉพาะทางหรือมีทักษะความเชี่ยวชาญในการทำงานอย่างไรบ้าง

    นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ว่า เมื่อคุณโพสต์ข้อความผ่านฟีเจอร์ Open To Work ทำไมถึงจำเป็นต้องใส่ข้อมูลเพิ่มเติมอีกสัก 1-2 ประโยค เพื่อตอกย้ำให้ผู้คนได้เข้าใจอย่างชัดเจนและรับรู้ถึงความสามารถการทำงานด้านต่างๆ ของคุณ

2. มองหางานตำแหน่งไหนอธิบายให้ชัดเจน

    คุณจำเป็นต้องระบุให้แน่ชัดหรืออธิบายแบบเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับรูปแบบตำแหน่งงานที่คุณกําลังมองหา ซึ่งการโพสต์เพียงสั้นๆ ว่า "ฉันกําลังมองหางานตำแหน่งใหม่" ก็น่าจะไม่ช่วยให้คุณได้คำตอบหรือคำแนะนำที่ง่ายขึ้น 

    ดังนั้นการคำนึงถึงคำถามด้านล่างต่อไปนี้แล้วเขียนอธิบายถึงรายละเอียดของงานที่ต้องการก็น่าจะช่วยสร้างโอกาสให้ผู้คนในเครือข่ายของคุณเข้ามาให้คำตอบหรือคำแนะนำที่ดีรวมถึงอาจจะแนะนำบุคคลอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับสายงานดังกล่าวได้ตามต้องการ

• คุณกําลังมองหางานหรือตําแหน่งงานประเภทใด
• คุณสนใจงานในเฉพาะกลุ่มหรืออุตสาหกรรมหรือไม่
• ขนาดขององค์กรหรือระยะทางมีผลต่อการเลือกสมัครงานหรือไม่

3. ระบุข้อตกลงเพื่อผลประโยชน์ที่เหมาะสม

    หากคุณมีข้อมูลในใจแน่ชัดแล้วว่ารายละเอียดเรื่องใดในการทำงานที่ไม่สามารถเจรจาต่อรองเพื่อการประนีประนอมได้ก็ควรจะสื่อสารถึงข้อมูลดังกล่าวให้ชัด ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการทำงานแบบ Remote Working คือทำงานจากระยะไกลที่บ้านหรือที่ไหนๆ ก็ได้ โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ

    หรือคุณมีความยืดหยุ่นในการทำงานที่สามารถย้ายไปประจำการยังจังหวัดต่างๆ ได้ รวมถึงระบุความต้องการเรื่องสวัสดิการที่จะบริษัทจะมีให้แก่พนักงานหรือไม่? เช่น เรื่องสิทธิประโยชน์ในการดูแลสุขภาพหรือแผนเกษียณอายุที่น่าจะสอดคล้องกับความต้องการของคุณ

   อย่างไรก็ตาม แม้คุณลักษณะพิเศษของฟีเจอร์ Open To Work จะเป็นมีประสิทธิภาพในการทำให้โปรไฟล์ของคุณใน LinkedIn ดูน่าสนใจมากขึ้น แต่จาก 3 เคล็ดลับที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยทำให้โปรไฟล์ของคุณดูโดดเด่นยิ่งขึ้นกว่าเดิมพร้อมทั้งเพิ่มโอกาสที่ผู้คนในเครือข่ายของคุณจะช่วยเหลือสนับสนุนให้ตรงเป้าหมาย เมื่อคุณสามารถสื่อสารถึงประสบการณ์ที่มีและสิ่งที่คุณกําลังมองหาได้อย่างชัดเจน


แปลและเรียบเรียงจากบทความ 3 Tips To Announce You’re ‘Open To Work’ On LinkedIn ซึ่งเผยแพร่บน forbes.com


อ่านเพิ่มเติม: 10 มหาเศรษฐีโสด น่าครองคู่ที่สุดแห่งอเมริกา


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine