2,668 อภิมหาเศรษฐีโลกประจำปี 2022 มีวิธีการในการสั่งสมความมั่งคั่งหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง การผลิตซอสถั่วเหลือง การขุดทองแดงและสังกะสี การผลิตแว่นตา การพัฒนาอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงการสานต่อมรดกจากบรรพบุรุษ
ทว่ามหาเศรษฐีกว่าร้อยละ 15 หรือ 393 รายกลับเลือกที่จะสร้างความมั่งคั่งในโลกของการเงินและการทุน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ ไพรเวทอิควิตี้ ธนาคาร ฟินเทค และการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ นำโดย Warren Buffet ซีอีโอกลุ่มบริษัทการลงทุน Berkshire Hathaway ที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 1.18 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 2.2 หมื่นล้านเหรียญ และครองอันดับที่ 5 ในทำเนียบมหาเศรษฐีโลก ตามมาด้วย Changpeng Zhao หรือที่รู้จักในชื่อ "CZ" ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 6.5 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Binance จนก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีการชะลอตัวของห่วงโซ่อุปทาน แต่อุตสาหกรรมการผลิตยังคงครองอันดับ 2 ในฐานะแหล่งที่มาทรัพย์สินของ 337 มหาเศรษฐี ซึ่งกว่า 36 รายเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่ อาทิ Isabella Seragnoli จากอิตาลี ทายาทบริษัท Coesia ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่บุหรี่ไปจนถึงเครื่องสำอาง และ Vivek Jain จากอินเดีย ผู้ซึ่งมีบริษัท Gujarat Fluorochemicals สำหรับผลิตสารเคมีและก๊าซที่ใช้ในอุตสาหกรรม ด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งขับเคลื่อนนวัตกรรมทั่วโลก สร้างมหาเศรษฐี 332 ราย นำโดยมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google, Oracle และ Microsoft ซึ่งเปิดให้บริการเป็นระยะเวลามากกว่า 1 ทศวรรษ ก่อนหน้านี้ Forbes ได้จัดหมวดหมู่มหาเศรษฐีโซเชียลมีเดียว่ามาจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่ในปีนี้ เราได้ย้ายผู้ก่อตั้ง Facebook, Instagram, Pinterest, Snapchat และ TikTok บริษัทลูกของ ByteDance ไปยังอุตสาหกรรมสื่อและความบันเทิง เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทได้ดีขึ้น สำหรับ 38 มหาเศรษฐีหน้าใหม่จากอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ประกอบด้วย Melanie Perkins และ Cliff Obrecht ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ออกแบบกราฟิก Canva ซึ่งมีทรัพย์สินสุทธิรายละ 6.5 พันล้านเหรียญ ขณะที่ Tang Xiaoou ศาสตราจารย์ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของจีน ก้าวเข้าสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีโลก หลังนำ SenseTime บริษัท AI ที่เขาร่วมก่อตั้งเมื่อ 7 ปีก่อน เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในเดือนธันวาคม 2021 ถัดมาคืออุตสาหกรรมค้าปลีกที่สร้างมหาเศรษฐี 250 รายจากการประกอบธุรกิจที่หลากหลาย ตั้งแต่แบรนด์สินค้าหรู บริษัทชุดกีฬา ไปจนถึงเชนร้านค้าปลีก ซึ่งในปีนี้ Bernard Arnault แห่ง LVMH ยังคงครองอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.58 แสนล้านเหรียญ และอันดับที่ 5 คือ อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ที่ประกอบด้วยมหาเศรษฐี 217 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ Jeff Tangney ผู้ก่อตั้ง Doximity แพลตฟอร์มโซเชียลสำหรับแพทย์ ที่เพิ่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่คู่พี่น้อง Dilip และ Anand Surana จากอินเดีย เจ้าของบริษัทยา Micro Labs ก็เพิ่งเข้าสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีในปีนี้เช่นเดียวกัน หลังจัดส่งยารักษาโรคหัวใจและแก้ปวดไปยังตลาดทั่วเอเชียแปซิฟิก พบกับ 10 อุตสาหกรรมที่สร้างความมั่งคั่งให้กับ อภิมหาเศรษฐีโลกประจำปี 2022









ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine