การสร้างชื่อเสียงโด่งดังคับฟ้าผ่านผลงานบันเทิงมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬากอล์ฟ การร้องเพลงแร็พหรือแม้กระทั่งด้วยกลการ์ดมหัศจรรย์ และไม่มีใครจะสร้างผลงานบันเทิงได้ประสบความสำเร็จยิ่งไปกว่า 20 คนดังจากหลากหลายวงการในการจัดอันดับของเราซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการรวบรวมรายชื่อคนดังที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศเข้าไว้ด้วยกัน โดยเรามีเกณฑ์คุณสมบัติเพียงข้อเดียวเท่านั้น คือ บุคคลนั้นจะต้องร่ำรวยจากชื่อเสียง พบรายชื่อ 10 อันดับแรกจากการจัดอันดับ "ท็อป 20 คนดังมหาเศรษฐีสหรัฐฯ"
อันดับที่ 1: George Lucas
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 4.6 พันล้านเหรียญ
แหล่งรายได้สำคัญ: ขาย Lucasfilm ไปให้กับ Disney ในราคา 4.1 พันล้านเหรียญในปี 2012
โอกาสเติบโตในอนาคต: ผู้สร้าง Star Wars วางมือจากงานผลิตภาพยนตร์แล้วและมีบทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นนอกจากนี้ มูลค่าทรัพย์สินยังมีแนวโน้มลดลงจากการบริจาคเพื่อการกุศล
ทรัพย์สินระดับซูเปอร์สตาร์: รายงานระบุว่าเขามี Skywalker Ranch ขนาด 6 พันเอเคอร์อยู่ที่ Marin Country รัฐ California
อันดับที่ 2: Steven Spielberg
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.7 พันล้านเหรียญ
แหล่งรายได้สำคัญ: Dreamworks
โอกาสเติบโตในอนาคต: ลงทุน 325 ล้านเหรียญเพื่อเปิดตัวธุรกิจผลิตคอนเทนต์ขึ้นมาอีกครั้งในชื่อ Amblin Partners นอกจากนี้ยังเซ็นสัญญากับ Alibaba Pictures ของ Jack Ma เพื่อผลิตภาพยนตร์ร่วมกัน
ทรัพย์สินระดับซูเปอร์สตาร์: ส่วนแบ่งรายได้จากสวนสนุก Universal มาตั้งแต่ปี 1987
อันดับที่ 3: Oprah Winfrey
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.8 พันล้านเหรียญ
แหล่งรายได้สำคัญ: Harpo Productions
โอกาสเติบโตในอนาคต: ในที่สุด คะแนนความนิยมของสถานี OWN ของอดีตเจ้าแม่ทอล์คโชว์ก็ขยับตัวเพิ่มขึ้นเสียทีในปีนี้ แต่หุ้นของ Weight Watchers ซึ่งเธอถืออยู่ 10% นั้นยังวิกฤตหนัก
ทรัพย์สินระดับซูเปอร์สตาร์: อสังหาริมทรัพย์กว่า 565 เอเคอร์ในเทือกเขา Maui
อันดับที่ 4: Michael Jordan
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.2 พันล้านเหรียญ
แหล่งรายได้สำคัญ: แบรนด์ Jordan
โอกาสเติบโตในอนาคต: Nike ประเมินว่า รายได้ประจำปีของแบรนด์จะทะยาน 61% แตะ 4.5 พันล้านเหรียญไม่เกินปี 2020
ทรัพย์สินระดับซูเปอร์สตาร์: ทีม Charlotte Hornets ในศึกบาสเก็ตบอล NBA
อันดับที่ 5: David Copperfield
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 850 ล้านเหรียญ
แหล่งรายได้สำคัญ: หลังจากที่โกยรายได้จากการแสดงมายากลมายาวนานหลายทศวรรษ เขาก็นำเงินมาลงทุนในพิพิธภัณฑ์มายากลซึ่งเป็นคอลเล็คชั่นอุปกรณ์มายากลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
โอกาสเติบโตในอนาคต: งานแสดงที่ Las Vegas ยังคงทำเงินได้มหาศาล โดยปี 2016 ที่ผ่านมานับเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาเลยทีเดียว
ทรัพย์สินระดับซูเปอร์สตาร์: หมู่เกาะส่วนตัวที่ The Bahamas ประกอบ ไปด้วยเกาะ 11 แห่ง
อันดับที่ 6: Diddy
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 750 ล้านเหรียญ
แหล่งรายได้สำคัญ: ต่อยอดชื่อเสียงในวงการเพลงฮิปฮอปช่วงยุค 1990 สู่การสร้างอาณาจักรที่ครอบคลุมหลายธุรกิจ เช่น จับมือเป็นพันธมิตรกับวอดก้า Ciroc ของ Diageo
โอกาสเติบโตในอนาคต: ตลาดวอดก้าเริ่มทรงตัวไปมากแล้ว แต่เตกีล่าDeleon ซึ่ง Diddy เป็นเจ้าของร่วมกับ Diageoน่าจะชดเชยกันได้
ทรัพย์สินระดับซูเปอร์สตาร์: ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Revolt TV
อันดับที่ 7: Tiger Woods
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 740 ล้านเหรียญ
แหล่งรายได้สำคัญ: กอล์ฟและสัญญาผู้สนับสนุน
โอกาสเติบโตในอนาคต: ดูท่าจะหมดหวังซ้ำรอยปีที่ทำรายได้สูงสุด (115ล้านเหรียญเมื่อปี 2008) เสียแล้ว แต่ก็ยังทำเงินได้มหาศาลอยู่ดี
ทรัพย์สินระดับซูเปอร์สตาร์: บ้านราคา 60 ล้านเหรียญที่ Jupiter Island รัฐ Florida
อันดับที่ 8: Dr. Dre
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 710 ล้านเหรียญ
แหล่งรายได้สำคัญ: Apple ซื้อกิจการ Beats ในราคา 3 พันล้านเหรียญเมื่อปี 2014
โอกาสเติบโตในอนาคต: ส่วนที่เหลือจากการชำระค่าซื้อกิจการ Beats จ่ายเป็นหุ้นของ Apple ซึ่งน่าจะการันตีกำไรอีกมหาศาล
ทรัพย์สินระดับซูเปอร์สตาร์: ผลงานดนตรีฮิปฮอปสุดฮิต เช่น เพลง “Nuthin’ But a ‘G’ Thang”
อันดับที่ 9: James Patterson
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 700 ล้านเหรียญ
แหล่งรายได้สำคัญ: หนังสือ
โอกาสเติบโตในอนาคต: ผลงานอันเฟื่องฟูช่วยให้เขาทำรายได้สูงสุดในชีวิตนักเขียนที่ 95 ล้านเหรียญเมื่อปี 2016 เสียงเรียกร้องจากนักอ่านยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วลงเลย
ทรัพย์สินระดับซูเปอร์สตาร์: บ้านราคา 23 ล้านเหรียญใน Palm Beach รัฐ Florida
อันดับที่ 10: Jerry Seinfeld
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 670 ล้านเหรียญ
แหล่งรายได้สำคัญ: รายได้รวมจากละครซิทคอมที่มีชื่อเดียวกันกับเขา บวกกับรายได้จากการตระเวนทัวร์ทอล์คโชว์
โอกาสเติบโตในอนาคต: ทัวร์ทอล์คโชว์ยังคงทำเงินได้ดี แม้จำนวนผู้ชม Seinfeld ที่เหลืออยู่จะเริ่มลดลงไปทุกที
ทรัพย์สินระดับซูเปอร์สตาร์: รถยนต์สะสมจำนวนมาก
คลิกอ่านฉบับเต็ม "ท็อป 20 คนดังมหาเศรษฐีสหรัฐฯ" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ เมษายน 2560 ในรูปแบบ e-Magazine