10 ผู้หญิงหน้าใหม่ในทำเนียบ ‘สตรีผู้ทรงอิทธิพล’ ที่สุดในโลก ปี 2017 - Forbes Thailand

10 ผู้หญิงหน้าใหม่ในทำเนียบ ‘สตรีผู้ทรงอิทธิพล’ ที่สุดในโลก ปี 2017

FORBES THAILAND / ADMIN
14 Mar 2018 | 01:59 PM
READ 11248

รายชื่อปีนี้ของ 100 อันดับสตรี ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ประจำปี 2017 ประกอบด้วยเหล่าคนดังที่คุณรู้จักชื่อกันอยู่แล้ว เช่น Angela, Melinda, Oprah, Beyoncé แต่เราขอแนะนำคนรุ่นใหม่ที่เป็นผู้บริหารประเทศ ซีอีโอ ผู้ก่อตั้งธุรกิจ ผู้มีวิสัยทัศน์ และผู้นำ โดยปีนี้มีผู้หญิงทรงอิทธิพลหน้าใหม่เข้ามาในการจัดอันดับ 25 คน ซึ่งForbes Thailand ขอนำเสนอ 10 คนเหล่านี้

อันดับ 2 Theresa May อายุ 61 ปี นายกรัฐมนตรี • สหราชอาณาจักร มีผู้นำน้อยคนนักที่ถูกยัดอำนาจใส่มือพร้อมๆ กับภาระอันใหญ่หลวงบนบ่าในแบบเดียวกับที่ May ได้รับ หลังจากการโหวตเพื่อลาออกจากสหภาพยุโรปเมื่อปีก่อนหน้าซึ่งส่งผลให้ David Cameron อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรตัดสินใจลาออก May จึงกลายเป็นผู้นำคนถัดไปที่ต้องนำพาประเทศผ่านพ้นการ Brexit ที่แสนขรุขระนี้ให้ได้ การเลือกตั้งเมื่อเดือนมิถุนายน 2017 เป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเมืองให้กับเธอ แต่มันกลับไม่ได้ผล และเธอต้องบริหารประเทศภายใต้รัฐบาลผสม อย่างไรก็ตาม May ไม่มีเวลาอีกต่อไปแล้ว เพราะเส้นตายของการแยกตัวของสหราชอาณาจักรคือเดือนเมษายน 2019   อันดับ 19 Ivanka Trump  อายุ 36 ปี ที่ปรึกษาประธานาธิบดี • ทำเนียบขาว • สหรัฐฯ ลูกสาวคนโตและที่ปรึกษาคนสนิทของประธานาธิบดี Trump เธอกลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งในทางพฤตินัย เนื่องจากแม่เลี้ยงของเธอ Melania เลือกที่จะเก็บเนื้อเก็บตัวเป็นส่วนมาก ก่อนที่พ่อของ Ivanka จะได้เป็นประธานาธิบดี Ivanka เป็นที่รู้จักมากที่สุดจากแบรนด์รองเท้าของเธอเอง แต่ปัจจุบัน Ivanka มักจะเป็นตัวแทนของพ่อในการประชุมต่างๆ เช่น การประชุมสุดยอดผู้นำ G20 เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าคำปรึกษาของเธอถูกนำไปใช้มากแค่ไหน แต่เราจะเห็นว่า Ivanka เน้นหนักเรื่องเชิงนโยบายต่างๆ เช่น การสนับสนุนสตรีในวงการวิทยาศาสตร์หรือผู้ประกอบการธุรกิจ เธอมีส่วนร่วมในการสร้างโครงการฝึกงานให้กับแรงงาน และเน้นต่อต้านการค้ามนุษย์เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างพอร์ตของเธอเองโดยเรียกมันว่า “ประเด็นสิทธิมนุษยชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงเวลาของเรา” ระหว่างการปาฐกถาครั้งหนึ่งที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ อันดับ 23 Isabelle Kocher  อายุ 51 ปี ซีอีโอ • Engie • ฝรั่งเศส Kocher คือหน้าใหม่ในการจัดอันดับสตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก เมื่อเดือนพฤษภาคม 2016 เธอได้ขึ้นเป็นซีอีโอของ Engie บริษัทด้านพลังงานไฟฟ้าที่ไม่ใช่ของรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นจากการควบรวมกิจการระหว่าง Gaz de France และ Suez เมื่อปี 2008 เมื่อปี 2015 บริษัทเพิ่งสูญเสียรายได้นับหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ทิศทางของ Engie เปลี่ยนจากการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหิน มาวางวิสัยทัศน์กับการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมแทน Kocher คือผู้นำที่ผลักดัน Engie ไปสู่แผนระยะ 3 ปีในการลดสินทรัพย์ ซึ่งรวมไปถึงดีลขายสัดส่วนหุ้นส่วนใหญ่ในธุรกิจผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมูลค่า 3.9 พันล้านเหรียญให้กับ Neptune Energy เมื่อเดือนพฤษภาคม 2017 ในขณะเดียวกัน Engie หันไปลงทุนกับพลังงานทดแทน โดยเมื่อเดือนมีนาคม 2017 บริษัทเข้าซื้อกิจการ EV-Box บริษัทสัญชาติดัชต์ผู้ให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 4 หมื่นแห่ง หลังจากที่รายได้ของ Engie เริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2017 Kocher จึงได้โมเมนตัมที่เธอต้องการในการปฏิรูปบริษัท อันดับ 29 Emma Walmsley  อายุ 49 ปี ซีอีโอ • GlaxoSmithKline • สหราชอาณาจักร Walmsley ขึ้นเป็นซีอีโอของบริษัท GlaxoSmithKline เมื่อเดือนเมษายน 2017 ทำให้เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เป็นผู้นำบริษัทยายักษ์ใหญ่ของโลก ก่อนหน้านั้น เธอเป็นผู้นำบริษัทร่วมลงทุนระหว่าง GlaxoSmithKline กับ Novartis ซึ่งผลิตสินค้าสุขภาพสำหรับผู้บริโภคทั่วไป ด้วยราคายาที่ถูกกดทำให้อุตสาหกรรมยามีการแข่งขันสูง Walmsley จึงจัดระเบียบการทำงานของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัทเสียใหม่ โดยยุติโครงการคิดค้นยา 30 โครงการ และหยุดการจำหน่ายแบรนด์ยา 130 แบรนด์ เป้าหมายของกลยุทธ์นี้คือการโยกเม็ดเงินมาลงทุนในโครงการเพื่อรักษาระบบทางเดินหายใจ ยาสำหรับรักษาเชื้อเอชไอวีรวมถึงโรคติดต่ออื่นๆ ยาเกี่ยวกับเนื้องอก และการรักษาด้านระบบภูมิคุ้มกัน อันดับ 31 Beata Maria Szydlo  อายุ 54 ปี นายกรัฐมนตรี • โปแลนด์ นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สามของโปแลนด์ Szydlo กำลังดำเนินภารกิจที่จะทำให้นโยบายปฏิรูปสังคมของเธอเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะที่เกี่ยวกับการเคหะ การศึกษา สาธารณสุข การเกษียณอายุ เศรษฐกิจ ธุรกิจ และระบบภาษี นโยบายหนึ่งของเธอที่ได้รับความนิยมมากคือ “Family 500 plus” ซึ่งจะให้เงินจำนวน 500 ซโลตีโปแลนด์ (ประมาณ 4,500 บาท) ต่อเดือน หากครอบครัวนั้นๆ มีลูกคนที่สองเป็นต้นไป ขณะนี้มีครอบครัวมากกว่า 2.5 ล้านครอบครัวแล้วที่ได้รับเงินจากโครงการดังกล่าว ความหวังของโครงการคือการเพิ่มการเกิดเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรประเทศโปแลนด์ ซึ่งที่ผ่านมาสำนักสถิติกลางแห่งโปแลนด์รายงานว่าประชากรโปแลนด์จะลดลงจาก 38.5 ล้านคนเหลือต่ำกว่า 34 ล้านคนภายในปี 2050 หากไม่มีมาตรการใดๆ ออกมา อันดับ 38 Jacinda Ardern อายุ 38 ปี นายกรัฐมนตรี • นิวซีแลนด์ เธอพุ่งขึ้นสู่ตำแหน่งบนกระแสความนิยมที่เรียกกันว่า “Jacindamania” นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของนิวซีแลนด์อายุเพียง 37 ปี เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์ 150 ปีของการมีนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ และถือเป็นผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลกด้วย Jacinda Ardern เติบโตขึ้นในครอบครัวที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายมอร์มอน แต่เธอละจากศาสนาของครอบครัวเนื่องจากมอร์มอนต่อต้านการแต่งงานของเพศเดียวกัน เธอเคยเป็นประธานของ International Union of Socialist Youth และปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคแรงงานนิวซีแลนด์ เธอสัญญาว่าจะจัดตั้งรัฐบาลที่มี “ความเห็นอกเห็นใจ” และวางแผนมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาโลกร้อนรวมถึงแก้ปัญหาเด็กยากไร้ ในยามว่าง Ardern ชื่นชอบการเป็นดีเจ อันดับ 40 Jean Liu อายุ 40 ปี ประธาน • Didi Chuxing • จีน สตาร์ทอัพบริการร่วมโดยสาร Didi Chuxing ให้บริการอยู่ใน 400 เมืองของประเทศจีนและได้รับการประเมินมูลค่าสูงถึง 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ Didi กลายเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงสุดของโลก สำหรับ Jean Liu อดีตพนักงานจาก Goldman Sachs เข้าร่วมกับ Didi เมื่อปี 2014 Liu ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นศัตรูขั้วตรงข้ามกับ Travis Kalanick ผู้ก่อตั้ง Uber เธอกับ Cheng Wei ประธานกรรมการของของ Didi ได้รับชัยชนะอย่างสวยงามต่อ Uber เมื่อในที่สุดก็สามารถบีบให้ Uber ขายกิจการสาขาประเทศจีนสำเร็จ ขณะนี้บริษัทกำลังเริ่มต้นวางรากฐานบุกทวีปอื่นๆ นอกจากจีน ผ่านการลงทุนกับบริษัทคู่แข่งอย่าง Taxify (อ่านเรื่องราวชัยชนะของ Didi ต่อ Uber ในแดนมังกรได้ที่นี่) อันดับ 43 Nikki Haley อายุ 46 ปี เอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) • สหรัฐฯ หน้าใหม่ในรายชื่อสตรีผู้ทรงอิทธิพลของ Forbes เธอคือผู้หญิงอเมริกันเชื้อสายอินเดียคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าการรัฐ (แห่งรัฐ South Carolina) แต่ขณะนี้ Haley กำลังก้าวเดินอย่างระมัดระวังที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในฐานะเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติในยุคสมัยประธานาธิบดี Trump งานของเธอคือการหาหนทางร่วมงานกับประเทศอื่นๆ ในการสนับสนุนความมั่นคงและสันติภาพ และขณะเดียวกันก็ต้องดำเนินตามนโยบาย America First ของ Trump ด้วย เธอได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ Trump หลายครั้งต่อประเด็นการสะสมนิวเคลียร์ของอิหร่าน และผลักดันยูเอ็นให้คิดหามาตรการคว่ำบาตรใหม่ๆ ต่อเกาหลีเหนือ อันดับ 46 Erna Solberg  อายุ 57 ปี นายกรัฐมนตรี • นอร์เวย์ เธอถูกเรียกว่า Angela Markel แห่งนอร์เวย์ Solberg เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคอนุรักษ์นิยมคนแรกที่ได้รับการเลือกตั้งสองสมัยซ้อนนับตั้งแต่ปี 1985 เธอได้ปรับเปลี่ยนจุดยืนนโยบายทางการเงินที่ค่อนข้างหัวเก่าของพรรคให้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้นและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ปัจจุบันเธอกำลังดำเนินนโยบายลดภาษีในประเทศเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต อันดับ 47 Stacey Snider อายุ 56 ปี ซีอีโอ • 20th Century Fox Film • สหรัฐฯ Snider ขึ้นเป็นซีอีโอของ 20th Century Fox เมื่อเดือนกันยายน 2016 แทนที่ Jim Gianopulos ปีแรกที่เธอขึ้นกุมบังเหียนสร้างผลงานที่ค่อนข้างน่าพอใจออกมา ด้วยรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2017 จากภาพยนตร์สุดฮิตอย่าง Logan และ The Boss Baby และปีที่ผ่านมา Fox ยังได้เซอร์ไพรส์กันอีกครั้งเมื่อ Deadpool กลายเป็นภาพยนตร์เรทอาร์ที่โกยรายได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทำให้ Deadpool จะมีภาคต่อออกฉายในปี 2018 นี้ Snider เปรียบเหมือนทหารผ่านศึกผู้โชกโชนในวงการสตูดิโอ Hollywood ก่อนหน้าที่เธอจะร่วมงานกับ Fox เธอเคยเป็นซีอีโอและประธานกรรมการร่วมที่ DreamWorks ประธานกรรมการที่ Universal Pictures และประธานของ TriStar   อ่านเพิ่มเติม: 10 อันดับสตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ปี 2017  
อ่านทำเนียบ "100 อันดับสตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ กุมภาพันธ์ 2561 ในรูปแบบ e-Magazine