นักกอล์ฟเอเชียก้าวไกลสู่เวทีโลก - Forbes Thailand

นักกอล์ฟเอเชียก้าวไกลสู่เวทีโลก

FORBES THAILAND / ADMIN
24 Jan 2018 | 02:35 PM
READ 11251

Si Woo Kim และเพื่อนร่วมชาติกรุยทางเข้าไปโลดแล่นบนเวทีโลกในยุคที่เอเชียกำลังรุ่งโรจน์ในวงการกอล์ฟอาชีพอย่างไม่เคยมีมาก่อน

Si Woo Kim นักกอล์ฟชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปีเจ้าของรูปร่างความสูง 180 เซนติเมตร หนักราว 80 กิโลกรัม เพิ่งได้รับชัยชนะอันเลื่องชื่อด้วยการขึ้นครองแชมป์รายการ Players Championship ประจำปี 2017 ซึ่งถือได้ว่าเป็นรายการใหญ่ของ PGA Tour ตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งที่เมื่อราว 3 เดือนครึ่งก่อนหน้านั้นชื่อเสียงของเขายังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก การทุบสถิติเอาชนะด้วยการทิ้งห่างผู้ตาม 3 สโตรกทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ครองถ้วยรายการ Players พร้อมคว้ารางวัลมูลค่า 1.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เล่นรายที่ 4 ในวงการกอล์ฟยุคใหม่ที่สามารถคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ 2 รายการตั้งแต่อายุยังไม่ครบ 22 ปี (Kim ชนะรายการ Wyndham Championship ในปี 2016) แต่ประเด็นที่สำคัญกว่านั้นคือ ชัยชนะของ Kim ส่งสัญญาณว่าการยกระดับของเหล่านักหวดวงสวิงจากเอเชียที่ได้ไปโลดแล่นบนเวที PGA Tour อย่างเต็มภาคภูมิอาจเริ่มต้นขึ้นแล้ว จากปี 2009 ที่รายการ PGA Tour มีนักกอล์ฟเอเชียเข้าร่วมเพียง 3 คน ฤดูกาลล่าสุดในปี 2017 ตัวเลขนี้เพิ่มเป็น 13 คน Si Woo Kim โปรกอล์ฟดาวรุ่งชาวเกาหลีใต้ ปัจจุบันเป็นมือวางอันดับที่ 39 ของโลก โปรกอล์ฟมากความสามารถจากเอเชียที่พากันตบเท้าก้าวขึ้นมาแข่งขันในรายการระดับโลกไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ ในช่วง2-3 ปีที่ผ่านมารายการ PGA Tour เดินหน้ารุกตลาดในเอเชียโดยขยายการแข่งขันในประเทศจีน ก่อตั้งสำนักงานใน Beijing และ Tokyo พร้อมทั้งเปิดรายการแข่งขันใหม่ที่เกาหลีใต้ การเพิ่มขึ้นของกลุ่มชนชั้นกลางเป็นแรงหนุนให้ความนิยมกีฬากอล์ฟมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้มีฐานชนชั้นกลางขนาดใหญ่และสัดส่วนคงที่มานานหลายทศวรรษ ขณะที่ประเทศขนาดเล็กกว่าอย่างไทยและเวียดนามมีการขยายตัวของคนระดับกลางในอัตราสูง ส่วนชนชั้นกลางในประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดของโลกอย่างจีนและอินเดียขยายตัวถึง 330% และ 150% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปี 2000 “อุตสาหกรรมกอล์ฟมักจะเติบโตตามการขยายตัวของชนชั้นกลางและการบริโภคนิยมของคนกลุ่มนี้” Giles Morgan ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนเชิงธุรกิจและงานอีเวนต์ทั่วโลกของ HSBC กล่าว การแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการใหญ่เป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดงบใช้จ่ายมหาศาล ทำให้ European Tourคือรายแรกที่เดินเกมรุกเพื่อช่วงชิงโอกาสในภูมิภาคเอเชีย โดยจัดการแข่งขัน Dubai Desert Classic ขึ้นเมื่อปี 1989 ตามมาด้วยศึก Johnnie Walker Classic ที่กรุงเทพฯ ในอีก 3 ปีให้หลัง และเมื่อปี 2005 European Tour ได้ดำเนินการครั้งประวัติศาสตร์ด้วยการจัดการแข่งขัน HSBC Champions ขึ้นที่ Shanghai ในปี 2007 HSBC ได้จับมือกับ China Golf Association ในการจัดการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนขึ้นเพื่อเติมเต็มสีสัน โดยเปิดรับทั้งนักกีฬาอาชีพและผู้เริ่มต้นจวบจนปัจจุบันมีเยาวชนกว่า 80,000 คนเข้ามาร่วมการแข่งขัน กีฬากอล์ฟมีแนวโน้มเติบโตได้ดีเมื่อชนชั้นกลางขยายตัวพร้อมๆ กับลักษณะบริโภคนิยม ซึ่งจากปี 2000-2017 ประเทศจีนมีการขยายตัวของชนชั้นกลางสูงถึง 330% จากนั้นไม่นาน PGA Tour เดินเกมตามรอย European Tour และได้กระตุ้นให้เกิดกระแสความนิยมกีฬากอล์ฟในเอเชียครั้งสำคัญ โดยประกาศว่ากีฬากอล์ฟจะหวนกลับเข้ามาให้ชิงชัยได้ในศึกโอลิมปิคฤดูร้อนปี 2016 อีกครั้ง (หลังจากเว้นไป 112 ปี) ผู้รับหน้าที่เป็นตัวตั้งตัวตีในแผนดำเนินการของ PGA Tour คือ Ty Votaw รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ PGA Tour “เมื่อกีฬาประเภทใดได้รับการบรรจุในการแข่งขันโอลิมปิคประเทศต่างๆ อย่างเช่น จีน จะทุ่มลงทุนในกีฬาชนิดนั้นและเป็นไปในลักษณะเดียวกันสำหรับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก” เขากล่าว “ดังนั้นเรารู้ดีว่าถ้ากอล์ฟได้กลับมาบรรจุในการแข่งขันโอลิมปิค แหล่งเงินทุนต่างๆ จะหลั่งไหลเข้ามา และสำหรับหลายๆ ประเทศอาจมีการเริ่มต้นควักเงินเพื่อลงทุนสนับสนุนกีฬาชนิดนี้” การขยายตลาดสู่ประเทศฝั่งตะวันออกเป็นกลยุทธ์ที่มีเหตุมีผลในแง่ธุรกิจสำหรับทั้งสมาคมนักกอล์ฟอาชีพอย่าง PGA และ European Tour ตลาดกอล์ฟในยุโรปเริ่มซบเซา เกือบทุกปี European Tour ยังมีผลดำเนินงานขาดทุน ส่วนในสหรัฐฯ ธุรกิจกอล์ฟเต็มไปด้วยข่าวร้าย Nike เพิ่งยุติไลน์สินค้ากีฬากอล์ฟ Adidas กำลังเจรจาขายธุรกิจกอล์ฟ (TaylorMade) และร้านค้าปลีกอุปกรณ์กอล์ฟรายใหญ่ Golfsmith ประกาศล้มละลาย Golfsmith ร้านค้าปลีกอุปกรณ์กอล์ฟรายใหญ่ ประกาศล้มละลายไปตั้งแต่ช่วงปี 2016 หลังจากจำนวนการออกรอบในสหรัฐฯ ลดลง รวมถึงสนามกอล์ฟที่ปิดตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2005 (Photo Credit: New York Post) จำนวนการออกรอบในสหรัฐฯ ลดลง 11% นับจากปี 2000 ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาด Pellucid ระบุว่าในปี 2016 มีสนามกอล์ฟเปิดใหม่ในสหรัฐฯ 22 แห่ง แต่ก็มีสนามปิดตัวลง 176 แห่ง นับเป็นปีที่ 11 ติดต่อกันที่มีจำนวนสนามกอล์ฟม้วนเสื่อปิดกิจการมากกว่าสนามเปิดใหม่ ขณะที่รายได้จากการจัดการแข่งขัน PGA Tour เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ไม่สูงนัก ในทางตรงกันข้าม กระแสนิยมกีฬากอล์ฟกำลังมาแรงในกลุ่มประเทศแถบเอเชีย โดย Golf Datatechองค์กรด้านการวิจัยตลาดเผยข้อมูลว่าญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มีส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกผลิตภัณฑ์กอล์ฟเป็นอันดับ 2 และ 3 ของโลก (สหรัฐฯ รั้งอันดับ 1) และในภูมิภาคเอเชียมีแผนเปิดสนามกอล์ฟแห่งใหม่ 109 สนามและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 67 แห่ง ญี่ปุ่น คือประเทศที่มีส่วนแบ่งอันดับ 2 ของโลกในตลาดค้าปลีกผลิตภัณฑ์กอล์ฟ เป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกา (Photo Credit: taiheiyoclub.com) อย่างไรก็ตาม เส้นทางดังกล่าวไม่ได้ดำเนินไปอย่างไร้อุปสรรค ในปี 2004 ปรากฏข่าวในทำนองรัฐบาลจีนสั่งห้ามสร้างสนามกอล์ฟใหม่เนื่องด้วยเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อม ต่อมาในปี 2015 ประธานาธิบดี Xi Jinping ออกกฎหมายห้ามเล่นกอล์ฟซึ่งมองว่าเป็นวัฒนธรรมทุนนิยมและกีฬาของชนชั้นสูงเพื่อต่อต้านการคอร์รัปชัน ทว่าการบังคับใช้กฎหมายไม่ค่อยได้ผลนัก ยังคงมีการดำเนินการก่อสร้างสนามกอล์ฟแม้จะขัดต่อกฎหมาย โดยจำนวนสนามแห่งใหม่เพิ่มขึ้น 3 เท่านับจากปี 2004 PGA Tour เปิดสำนักงานที่ Beijing ในปี 2013 และเซ็นสัญญากับ iQIYI บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสัญชาติจีนเพื่อถ่ายทอดสดการแข่งขันทุกรายการผ่านช่องทางออนไลน์ เมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนี้ PGA Tour ยังมุ่งความสนใจไปยังตลาดเกาหลีใต้ ในปี 2015 รายการแข่งขันชิงถ้วย Presidents Cup ภายใต้การดูแลของ PGA Tour ซึ่งเป็นการประชันฝีมือระหว่างทีมจากอเมริกาและทีมนานาชาติยกเว้นยุโรปได้จัดขึ้นที่เมือง Incheon และในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา PGA Tour ได้จัดการแข่งขันรายการใหญ่ขึ้นที่เกาหลีใต้ภายใต้ชื่อ CJ Cup ที่เกาะ Jeju Hideki Matsuyama โปรกอล์ฟชาวญี่ปุ่นวัย 25 ปี มือวางอันดับ 3 ของโลก คือขวัญใจและฮีโร่แห่งเอเชีย ในหมู่นักกอล์ฟ “ขวัญใจ” แห่งเอเชียนั้น Hideki Matsuyama โปรกอล์ฟชาวญี่ปุ่นมือวางอันดับ 3 ของโลก คือสุดยอดโปรกอล์ฟระดับแถวหน้าของโลกและรายแรกของญี่ปุ่น หลังจากนั้นตามมาด้วยการแจ้งเกิดของหนุ่มดาวรุ่งอย่าง Kim David Leadbetter โค้ชกอล์ฟผู้โด่งดังและเป็นเจ้าของสถาบันสอนกอล์ฟในจีน 3 แห่ง และอินเดีย บังกลาเทศ อินโดนีเซีย ไทย ประเทศละ 1 แห่ง กล่าวว่า Kim มีคุณสมบัติแบบเดียวกับที่เขาพบเห็นในผู้เล่นเอเชียรุ่นใหม่อีกหลายคน “เขามีทักษะด้านกีฬา ขยันฝึกซ้อม และสุขุมใจเย็น” Leadbetter ยืนยันว่าในอีกไม่ช้าจะเป็นยุคของคลื่นนักกอล์ฟชาวเอเชียลูกใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม “ผมยังมีลูกศิษย์วัย 8-9 ปีอีกหลายคนในจีนที่มีเทคนิคการตีถูกต้องและมุ่งเน้นกับการฝึกกอล์ฟเพียงอย่างเดียว” เขากล่าว “ผมคิดว่าเรายังเห็นเอเชียเพียงผิวๆ เท่านั้น”   เรื่อง: Monte Burke เรียบเรียง: นวตา สันติวัฒนา
อ่านฉบับเต็ม "นักกอล์ฟเอเชียก้าวไกลสู่เวทีโลก" ได้ใน นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ ธันวาคม 2560 ในรูปแบบ E-Magazine