ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภาคเศรษฐกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวของไทยหดตัวลงมากที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษมากถึงร้อยละ 6.1 ในปี 2563 ประกอบกับจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันในปีนี้ แต่รัฐบาลก็ได้ให้คำมั่นที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมจัดตั้งศูนย์รับวัคซีนโควิดสำหรับชาวต่างชาติภายในเดือนตุลาคม โดยเริ่มที่จังหวัดภูเก็ตในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ขณะที่แนวโน้มการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจและภาคการส่งออก ได้ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 43 นับตั้งแต่มีการประเมินมูลค่าทรัพย์สินครั้งล่าสุดเมื่อ 15 เดือนที่แล้ว ซึ่งมีส่วนในการเพิ่มทรัพย์สินรวมของบุคคลร่ำรวยที่สุดจากการจัดอันดับของ
Forbes ประจำปี 2564 กว่าร้อยละ 20 เป็น 1.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในปีนี้
พี่น้องตระกูลเจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังครองตำแหน่งอันดับ 1 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น 2.9 พันล้านเหรียญ เป็น 3.02 หมื่นล้านเหรียญ
ตามมาด้วย เฉลิม อยู่วิทยา ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังระดับโลกอย่างกระทิงแดง ร่วมกับตระกูลของเขา โดยเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ รวมมูลค่าสุทธิ 2.45 หมื่นล้านเหรียญ
ด้าน
สารัชถ์ รัตนาวะดี มหาเศรษฐีด้านพลังงาน คือ อีกหนึ่งรายที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ใน 3 เป็น 8.9 พันล้านเหรียญ และล่าสุดในเดือนเมษายน ได้นำบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ยื่นคำเสนอซื้อหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ที่ราคา 1.7 หมื่นล้านเหรียญเป็นที่เรียบร้อย
จาก 38 รายชื่อที่มีมูลมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น มีเพียง 8 รายเท่านั้นที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 พันล้านเหรียญ นำโดย
เสถียร เศรษฐสิทธิ์ และ ณัชไมย ถนอมบุญเจริญ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มคาราบาว ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ด้วยผลกำไรที่มากที่สุดในรอบปีได้ส่งผลให้ทั้งคู่มีมูลค่าทรัพย์สินส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นรายละมากกว่า 2 เท่า
เช่นเดียวกับความมั่งคั่งของผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพทั้ง 5 รายในทำเนียบที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรวมไปถึง
พงษ์ศักดิ์ วิทยากร หลังจากที่
สาธิต วิทยากร บุตรชายได้เข้าซื้อหุ้นในโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ที่มูลค่าเกือบ 600 ล้านเหรียญ
นอกจากนี้ ยังมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่อีก 3 รายจาก 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
สมชาย รัตนภูมิภิญโญ ผู้ก่อตั้งธุรกิจอาหาร บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย
สมหวัง และ ไวยวุฒิ สินเจริญกุล คู่พ่อลูกผู้อยู่เบื้องหลัง บมจ.ศรีตรังแอโกรฯ
อุตสาหกรรมยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และ
อดิศักดิ์ และ นาตยา ตั้งมิตรประชา ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน Dohome
ด้าน 1 ใน 3 รายชื่อที่หวนคืนสู่ทำเนียบในปีนี้อีกครั้ง ได้แก่
บัญชา องค์โฆษิต จากการที่บริษัทเคซีอี อีเลคโทรนิคส์ ผู้ผลิตแผงวงจรพิมพ์สำหรับภาคยานยนต์ ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
ขณะที่ 6 มหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินลดลง ได้แก่
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา แห่งคิง เพาเวอร์ ที่ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว และอีก 6 รายชื่อที่หลุดออกจากทำเนียบ เนื่องจากเกณฑ์การจัดอันดับได้ปรับจาก 460 ล้านเหรียญในปี 2020 มาอยู่ที่ 737 ล้านเหรียญในปีนี้
รายชื่อตระกูลและอภิมหาเศรษฐี 10 อันดับแรกของไทย
อันดับ 1
พี่น้องเจียรวนนท์
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: อาหาร
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.02 หมื่นล้านเหรียญฯ / 9.48 แสนล้านบาท
อันดับ 2
เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: เครื่องดื่ม
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.45 หมื่นล้านเหรียญฯ / 7.69 แสนล้านบาท
อันดับ 3
เจริญ สิริวัฒนภักดี
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: เครื่องดื่มและอสังหาริมทรัพย์
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.27 หมื่นล้านเหรียญฯ / 3.98 แสนล้านบาท
อันดับ 4
ตระกูลจิราธิวัฒน์
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: ค้าปลีก
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.16 หมื่นล้านเหรียญฯ / 3.64 แสนล้านบาท
อันดับ 5
สารัชถ์ รัตนาวะดี
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: พลังงาน
มูลค่าทรัพย์สิน: 8.9 พันล้านเหรียญฯ / 2.79 แสนล้านบาท
อันดับ 6
ตระกูลโอสถานุเคราะห์
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: เครื่องดื่ม
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.5 พันล้านเหรียญฯ / 1.09 แสนล้านบาท
อันดับ 7
สมโภชน์ อาหุนัย และครอบครัว
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: พลังงาน
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.3 พันล้านเหรียญฯ / 1.03 แสนล้านบาท
อันดับ 8
ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: การแพทย์
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.25 พันล้านเหรียญฯ / 1.02 แสนล้านบาท
อันดับ 9
ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ และครอบครัว
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: สีทาอาคาร
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.2 พันล้านเหรียญฯ / 1 แสนล้านบาท
อันดับ 10
ชูชาติ เพ็ชรอำไพ และ ดาวนภา เพชรอำไพ
แหล่งที่มาทรัพย์สิน: การเงิน
มูลค่าทรัพย์สิน: 3 พันล้านเหรียญฯ / 9.42 หมื่นล้านบาท
*การจัดอันดับนี้ใช้ข้อมูลการเงินและการถือครองหุ้นที่ได้รับจากทางครอบครัวและปัจเจกบุคคล ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ นักวิเคราะห์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง อันดับนี้ต่างจากอันดับอภิมหาเศรษฐีตรงที่มีการรวมถึงทรัพย์สินของครอบครัวและทรัพย์สินที่ถือครองโดยสมาชิกครอบครัวหลายรุ่น ทั้งนี้ มูลค่าทรัพย์สินในบริษัทมหาชนเป็นการคำนวณจากราคาหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 18 มิถุนายน ทรัพย์สินในบริษัทที่ถือครองส่วนตัวประเมินค่าโดยเปรียบเทียบกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเดียวกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
**การคำนวณทรัพย์สินจากเหรียญสหรัฐฯ มาเป็นสกุลเงินไทย ใช้อัตราแลกเปลี่ยนจากธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 31.40 บาทต่อเหรียญ ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564
แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Thailand’s 50 Richest 2021: Collective Wealth Rises To $160 Billion Amid Pandemic Challenges เผยแพร่บน Forbes.com
เผยโฉม 10 อันดับแรก #อภิมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2564 จากการจัดอันดับโดย Forbes
หมายเหตุ: อภิมหาเศรษฐี อันดับที่ 2, 7 และ 9 มีการอัปเดตข้อมูลโดยเพิ่ม "และครอบครัว" ซึ่งเป็นไปตามการนำเสนอข้อมูลจาก Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม:
การจัดอันดับ อภิมหาเศรษฐีโลก ประจำปี 2021