หลังจากรัฐบาลจีนตัดสินใจเลิกหยุดการออกใบอนุญาตเกมออนไลน์ซึ่งเป็นมาตรการแก้ปัญหาเยาวชนติดเกม William Ding ซีอีโอของบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ NetEase ก็กลายเป็นผู้ชนะคนสำคัญ ทรัพย์สินสุทธิของ Ding พุ่งขึ้น 2 ใน 3 เป็น 3.2 หมื่นล้านเหรียญ และเขาได้เลื่อนขึ้น 3 อันดับมาอยู่ในอันดับ 5
เกม Eggy Party ซึ่งได้ใบอนุญาตมาไม่นานก่อนจะเริ่มมีมาตรการจำกัดเกมออนไลน์เปิดตัวเมื่อปี 2022 และกลายเป็นหนึ่งในเกมยอดนิยมที่สุดของบริษัท โดยมีผู้เล่นประจำเข้ามาเดือนละ 100 ล้านคนเมื่อนับถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และบริษัทก็ได้ผู้เล่นกว่า 40 ล้านคนเข้ามาลงทะเบียนเล่นเกม Justice Mobile เวอร์ชั่นทดสอบเมื่อเดือนมิถุนายน
เกมนี้เป็นเกมแนว RPG กำลังภายในที่ใช้ generative AI สร้างบทสนทนาโต้ตอบสำหรับตัวละครในเกมโดยอิงจากวรรณกรรมจีนยุคราชวงศ์ซ่ง (NetEase เริ่มตั้งห้องปฏิบัติการด้าน AI ในปี 2017)
Shi Jialong หัวหน้าฝ่ายวิจัยการใช้อินเทอร์เน็ตของจีนจาก Nomura สำนักงานฮ่องกงกล่าวว่า ผลประกอบการของ 2 เกมนี้ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก และตั้งข้อสังเกตว่า ผู้บริโภคโหยหาเกมใหม่ๆ มาตั้งแต่รัฐบาลระงับการออกใบอนุญาตจนทำให้นักพัฒนารายเล็กที่มีทรัพยากรจำกัดหยุดพัฒนาเกมใหม่
เมื่อเดือนมกราคม ปี 2023 หลังจากมีรายงานกล่าวถึงความเห็นที่ไม่ตรงกันในเรื่องเงื่อนไขการต่อสัญญา NetEase ได้ยุติความเป็นหุ้นส่วน 14 ปีกับ Activision Blizzard (เมื่อ Microsoft เข้าซื้อกิจการ) ซึ่งช่วยให้ NetEase นำเกมที่ได้รับความนิยมมหาศาลอย่าง World of Warcraft ของยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมสหรัฐฯ รายนี้เข้าไปจำหน่ายในจีนได้
ถึงกระนั้น NetEase ก็ยังรายงานว่า มีรายได้เพิ่มขึ้น 5% เป็น 6.8 พันล้านเหรียญในครึ่งแรกของปี 2023 โดยเกือบ 80% มาจากเกม และกำไรจากการดำเนินงานโดดขึ้น 27% เป็น 1.8 พันล้านเหรียญ
Ding เริ่มก่อตั้ง NetEase เมื่อปี 1997 เป็นบริษัทให้บริการอีเมลแล้วจึงเติบโตมาเป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมที่ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพลง การศึกษา และสื่อด้วย บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งยอดขายในต่างประเทศจากเกือบ 10% ในปัจจุบันให้กลายเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งหมด และปัจจุบันได้ก่อตั้งสตูดิโอในญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ และยุโรปแล้ว
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Jack Ma กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Alibaba