การระบาดของไวรัสโคโรนากลายเป็นนาทีทองสำหรับ "Sea Ltd." ของ Forrest Li เนื่องจากคนหันมาเล่นเกมออนไลน์ของ Sea ช็อปออนไลน์ทางเว็บไซต์ของ Sea และยังใช้บริการชำระเงินออนไลน์ของ Sea อีกต่างหาก
Sea Ltd. เป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประเทศสิงคโปร์ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดราว 6.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2563 ส่งผลให้ Forrest Li ประธานบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Sea มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 7.1 พันล้านเหรียญ พร้อมครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับที่ 7 ในการจัดอันดับ Singapore’s 50 Richest โดยขึ้นมาจากอันดับ 21 เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 คนคือ David Chen และ Gang Ye ก็ก้าวเข้าสู่สถานะเศรษฐีพันล้านเช่นกัน แม้ว่าโรคระบาดในครั้งนี้จะสร้างความพังพินาศให้กับบริษัทต่างๆ เป็นจำนวนมาก แต่ก็เป็นโอกาสให้กับบริษัทอีกหลายแห่ง ซึ่งบางแห่งทำผลงานได้ดีกว่า Sea เสียอีก ธุรกิจหลัก 3 อย่างของบริษัทได้รับความนิยมล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ เกมออนไลน์ และการชำระเงินออนไลน์ ซึ่ง Li บอกว่า เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการเติบโตเท่านั้น “คุณมองไม่เห็นจุดสูงสุดของธุรกิจทั้งสามอย่างนี้หรอก” นักลงทุนต่างเห็นด้วย หุ้นของ Sea ในปีนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวมาอยู่ที่ราว 146 เหรียญ (หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 1,000% นับตั้งแต่ต้นปีที่แล้วเป็นต้นมา) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม Sea รายงานรายรับประจำไตรมาส 2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีผลการดำเนินงานที่ดีมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวมาอยู่ที่ 1.3 พันล้านเหรียญ อานิสงส์จากรายได้ก้อนมหึมาจาก 2 ธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัทคือ เกมออนไลน์ทำรายได้เพิ่มขึ้นถึง 62% มาอยู่ที่ 716 ล้านเหรียญและร้านค้าออนไลน์ทำรายได้เพิ่มเกือบ 3 เท่าตัวมาอยู่ที่ 511 ล้าน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงไม่สามารถทำกำไรได้เนื่องจากผลขาดทุนในไตรมาส 2 กลับเพิ่มขึ้น 59% มาอยู่ที่ 373 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของ Sea ยังเป็นข้อพิสูจน์ความเชื่อมั่นของ Li ที่มีให้กับอนาคตวงการดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาบอกว่าโรคระบาดเป็นแค่ตัวเร่งความเร็วให้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว “อีกหลายปีข้างหน้าเมื่อเรามองย้อนกลับมายังเหตุการณ์นี้ เราจะเห็นว่าในช่วงเกิดโรคระบาด เราจึงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลทั้งในวงกว้างและเชิงลึก ซึ่งเรามองว่ามันย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว” Li ให้สัมภาษณ์ผ่านวิดีโอจากสำนักงานของ Sea ที่ Galaxis ศูนย์เศรษฐกิจสุดล้ำในประเทศสิงคโปร์
Li บอกว่า ในช่วงที่หลายๆ คนต้องอยู่บ้าน หรือรักษาระยะห่าง การเชื่อมต่อออนไลน์เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารธุรกิจเกมออนไลน์ของ Sea ซึ่งยังคงชื่อ Garena ไว้ เริ่มต้นปีนี้อย่างแข็งแกร่งมีจำนวนผู้ใช้งานที่ยังคงมีความเคลื่อนไหวในปัจจุบันราว 500 ล้านคนในไตรมาสที่ 2 สูงกว่าปีที่ผ่านมา 61% อานิสงส์จากคะแนนนิยมใน Free Fire เกมสไตล์ battle royale สำหรับผู้เล่นหลายคน บริษัทวิจัย App Annie บอกว่า เกมนี้มียอดดาวน์โหลดจาก Google Play สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกในไตรมาสที่ 2
ธุรกิจ Shopee ของ Sea เติบโตจากการระบาดของไวรัสโคโรนาในลักษณะคล้ายกัน เนื่องจากนักช็อปกักตุนสินค้า “ผู้บริโภคจะซื้อของจำเป็นก่อน” Li กล่าว โดยในไตรมาสที่ 2 Shopee มีมูลค่าสินค้ารวมเติบโตจากปีที่ผ่านมา 110% มาอยู่ที่ 8 พันล้านเหรียญ ขณะที่คำสั่งซื้อรวมอยู่ที่ 616 ล้านเหรียญ หรือเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 150% ข้อมูลจาก App Annie เผยว่า Shopee เป็นแอปพลิเคชันช็อปปิ้งที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาะกลุ่ม 3 อันดับแรกของโลกในหมวดหมู่เดียวกันในครึ่งปีแรก
อย่างไรก็ตาม Shopee ยังคงขาดทุน แม้จะดำเนินกิจการมาแล้ว 5 ปี ผลขาดทุนจากการประกอบการของฝ่ายอี-คอมเมิร์ซของ Sea เพิ่มขึ้นเป็น 345 ล้านเหรียญในไตรมาส 2 จาก 270 ล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา ต้นทุนของ Shopee มาจากสงครามราคาแพง เพื่อยึดและรักษาส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งหลายราย เช่น Lazada ของ Alibaba และ Tokopedia ของอินโดนีเซีย
ด้านธุรกิจลำดับที่ 3 ของ Sea คือ SeaMoney ซึ่งเป็นธุรกิจบริการทางการเงินดิจิทัล และเป็นหน่วยธุรกิจที่เล็กที่สุดของ Sea มีรายได้ 12 ล้านเหรียญในไตรมาสที่ 2 หรือราว 1% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท ปัจจุบัน SeaMoney ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่การดำเนินธุรกิจของหน่วยอื่นๆ
Li บอกด้วยว่า Sea กำลังก้าวเข้าสู่การพัฒนาในขั้นตอนต่อไปหลังจากที่เพิ่งผ่านพ้นวัยสตาร์ทอัพมาอย่างโชกโชน “เราไม่ได้เร่งมองหาของใหม่ ซึ่งต่างจากเมื่อ 6-7 ปีที่แล้วมาก ตอนนั้นเราต้องรีบแต่ในเวลานี้เราให้ความสำคัญกับธุรกิจทั้ง 3 สาย” อย่างไรก็ตาม Li บอกว่า เขาคอยสอดส่องหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอาหาร การเรียนรู้ผ่านอิเล็กทรอนิกส์ และการแพทย์ออนไลน์
ในระยะยาว Sea จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มย้ายออกไปนอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Li บอกว่า Garena มีคอเกมออนไลน์กว่าครึ่งหนึ่งอยู่นอกภูมิภาคนี้ ซึ่งก็รวมถึงอินเดีย อเมริกาใต้ตะวันออกกลาง และรัสเซีย “ถ้าเรามีโอกาสให้บริการแก่ผู้เล่นทั่วโลกได้มากกว่านี้ เราก็อยากทำ” อย่างไรก็ตามเขายืนยันว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะยังคงมีความสำคัญเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่าเขาอยากเปลี่ยนชื่อ Sea เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานในระดับโลกหรือไม่ Li กล่าวพร้อมหัวเราะว่า “ตอนนี้เรายังไม่มีแผนครับ”
คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine



