Samantha Du เป็นบุคคลสำคัญมากในตลาดเภสัชกรรมของจีนที่กำลังเติบโต และความสำเร็จของเธอก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความต้องการยาในช่วงโควิด-19 ระบาด ผู้ประกอบการวัย 56 ปีคนนี้เป็นผู้นำของบริษัทยา Zai Lab แห่งเมือง Shanghai ซึ่งมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 6 พันล้านเหรียญ
มูลค่าของ Zai Lab เพิ่มขึ้น 3 เท่านับจากมูลค่าประเมินตอนนำหุ้นไอพีโอเข้าตลาด Nasdaq เมื่อปี 2017 และบริษัทที่ยื่นขอจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดที่ 2 ในฮ่องกงแล้ว แต่ยังไม่ประกาศขนาดหรือราคาหลักทรัพย์ที่วางแผนจะเสนอขาย Samantha Du ก่อตั้ง Zai Lab เมื่อปี 2014 ในช่วงที่รัฐบาลจีนกำลังเตรียมปฏิรูปอุตสาหกรรมสาธารณสุขของประเทศด้วยการหั่นกฎระเบียบที่ยุ่งยาก และเร่งขั้นตอนการอนุมัติยาให้เร็วขึ้น เธอนำหน้าคู่แข่งด้วยโมเดลธุรกิจขอสิทธิ์นำยาของบริษัทต่างชาติมาจัดจำหน่ายในจีนโดยมักจะเป็นผู้ได้สิทธิเพียงรายเดียว ตัวอย่างเช่น Zejula ยารักษามะเร็งรังไข่ ซึ่งเป็นยาขายดีของ Zai Lab เป็นยาที่ได้สิทธิ์มาจาก GlaxoSmithKline ซึ่งหลังจากได้รับอนุมัติเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วให้เริ่มขาย Zejula ในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ รายได้ของบริษัทช่วงครึ่งแรกของปีนี้ก็พุ่งขึ้นเกือบ 6 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ประมาณ 19 ล้านเหรียญ สินค้าที่ยอดขายพุ่งอีกตัวคือ Optune เครื่องฆ่าเซลล์มะเร็งที่ Zai Lab นำมาเปิดตัวในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยได้สิทธิ์จากบริษัท Novocure ที่มีฐานอยู่บนเกาะ Jersey นักลงทุนชอบ Zai Lab แม้บริษัทจะยังไปไม่ถึงจุดคุ้มทุนก็ตามยอดขายของตลาดชีวเภสัชภัณฑ์ในจีนแตะ 1.37 แสนล้านเหรียญเมื่อปี 2018 ทำให้ตลาดจีนเป็นรองแค่ตลาดสหรัฐฯ Iqvia บริษัทข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลในสหรัฐฯ คาดว่ามูลค่าตลาดจีนจะโตไปถึง 1.7 แสนล้านเหรียญได้ภายในปี 2023 “Dr. Du สนใจศักยภาพการทำตลาดของผลิตภัณฑ์ประเภทให้สิทธิ์จัดจำหน่ายอย่างมาก” Zhao Bing นักวิเคราะห์ของ China Renaissance ในเมือง Shanghai กล่าว “และเธอก็รู้วิธีการขายในตลาดจีน” Samantha Du มีประสบการณ์ที่ลึกซึ้งในการมองหาสินค้านำเข้าที่น่าจะขายดีหลังจากเรียนจบปริญญาเอกสาขาชีวเคมีจาก University of Cincinnati เมื่อปี 1994 เธอได้งานที่ Pfizer ต่อมาเมื่อปี 2001 เธอได้เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์ที่ Chi-Med บริษัทผู้พัฒนายารักษามะเร็งในฮ่องกง ซึ่งมีมหาเศรษฐี Li Ka-shing เป็นผู้สนับสนุนระหว่างที่เธอทำงานที่นั่น Chi-Med พัฒนายา Fruquintinib ซึ่งต่อมากลายเป็นยารักษามะเร็งที่ผลิตในประเทศตัวแรกที่ได้รับอนุมัติจากจีนในปี 2018 และเมื่อปี 2011 Du เข้าทำงานกับ Sequoia China เพื่อไล่ล่าการลงทุนด้านสาธารณสุข หลังจากนั้นเธอจึงก่อตั้ง Zai Lab ในอีก 3 ปีต่อมา Du รับมือคู่แข่งในธุรกิจสิทธิ์จัดจำหน่ายยาอย่าง BeiGene ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาด Nasdaq และ Innovent Biologics ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดฮ่องกง ด้วยการเร่งเพิ่มความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาของ Zai Lab โดยยา 2 ตัวจาก 15 ตัวที่บริษัทพัฒนาขึ้นเองคือ ยารักษาเนื้องอกและยารักษาโรคภูมิคุ้มกัน ซึ่งทั้งสองตัวกำลังอยู่ในขั้นทดลองทางคลินิกช่วงแรก Du กล่าวว่า ยังมียาอีกมากให้ Zai Lab นำเข้ามาขายได้ “ในช่วง 3 ปีข้างหน้า” เธอกล่าวกับนักวิเคราะห์ในการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้ว “เราคาดว่าจะมีการอนุมัติและเปิดขายผลิตภัณฑ์เพิ่มอีกหลายตัว สำหรับการบำบัดรักษาหลายอย่างทั่วพื้นที่เขต Greater China” - YUE WANG รายงาน อ่านเพิ่มเติม: นักธุรกิจหญิงแกร่งแห่งเอเชีย ประจำปี 2020คลิกอ่านฉบับเต็มการจัดลำดับ “Power Businesswomen ของ Forbes Asia ปี 2020” และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine