Masayoshi Son มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่น ผู้ก่อตั้งและประธาน SoftBank Group บริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นผู้ลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี กล่าวในการแถลงการณ์ผลประกอบการว่า บริษัทมีความตั้งใจที่จะผลักดันบริษัท หรือ “ไข่ทองคำ” ที่อยู่ในกองทุน Vision Funds เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ราว 10-20 บริษัทต่อปี
Masayoshi Son มักจะเปรียบเทียบ SoftBank Group เหมือนกับห่านที่กำลังกกไข่ทองคำ ด้วยการเร่งการเติบโตของธุรกิจจนกระทั่งมีศักยภาพมากพอ และสามารถเข้าระดมทุนจากสาธารณะในตลาดหลักทรัพย์ได้
“ห่านของเรามีไข่ทองคำประมาณ 160 ฟอง” Son กล่าวในงานแถลงข่าวของทางบริษัทถึง 164 บริษัทที่อยู่ในกองทุน Vision Funds ทั้ง 3 ประเภท พร้อมเสริมว่า “ขณะนี้หลายบริษัทได้อยู่ในจุดที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว”
โดยผลประกอบการประจำไตรมาส สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2020 มีกำไรสุทธิ 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุน Vision Fund 2 มากถึง 1.3 หมื่นล้านเหรียญ ขณะที่ Vision Fund 1 เป็นกองทุนที่สร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดีตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2017 อันเป็นผลมาจากความน่าสนใจของหุ้นเทคโนโลยี
การประกาศข้างต้นจึงเป็นการพิสูจน์ข้อกังหาในประเด็นที่ถูกตั้งคำถามว่า การลงทุนของ SoftBank และ Vision Fund คุ้มค่าจริงๆ หรือไม่ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาหลายบริษัทที่ลงทุนไปนั้นไม่สามารถทำกำไรได้หรือผลประกอบการไม่เป็นที่น่าพอใจ จนส่งผลให้ไตรมาสแรกของปี 2019 SoftBank ขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี คิดเป็นมูลค่า 1.7 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งนับเป็นการขาดทุนรายไตรมาสที่มากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทด้วย
“ปีที่ผ่านมา สื่อต่างๆ ต่างรายงานว่าเรากกแต่ไข่เน่า” Son กล่าว
ในที่นี้ SoftBank ได้เปิดเผยถึงทิศทางการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการลงทุนอย่างการตัดสินใจขายสินทรัพย์ส่วนหนึ่งของบริษัทมูลค่ารวมกันกว่า 4.1 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งหมายรวมถึงการถอนหุ้นบางส่วนของ Alibaba บริษัทที่ SoftBank ได้เข้าลงทุนเป็นระยะเวลามากถึง 14 ปี และสร้างผลตอบแทนให้บริษัทมหาศาล เพื่อนำเงินส่วนนั้นมาชำระหนี้ ไถ่ถอนหุ้นกู้ และเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัท
“ผมรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจ แต่ในเชิงกลยุทธ์ วิสัยทัศน์ของผมจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” Son กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Forbes ในเดือนมีนาคม 2020
สำหรับในปีนี้ SoftBank คาดว่าจะยังคงได้รับประโยชน์จากตลาดที่มีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตจากบริษัทที่อยู่ในกองทุน Vision Funds ที่มีมูลค่าระดับหลายพันล้านเหรียญ ที่เตรียมจะเข้าระดมทุนภายในปีนี้
ปัจจุบัน SoftBank ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก อาทิเช่น Grab บริการร่วมเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, Coupang ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ในเกาหลีใต้, ByteDance บริษัทแม่ของแอปพลิเคชัน TikTok และ Paytm ผู้ให้บริการธุรกรรมออนไลน์ในอินเดีย
ล่าสุด Forbes ประเมินมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ Son มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งอันดับ 1 ของญี่ปุ่นอยู่ที่ 4.55 หมื่นล้านเหรียญ
แปลและเรียบเรียงจากบทความ Japan’s Richest Person Promises More ‘Golden Eggs’ After Fund Posts Best Quarter Yet เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: Tadashi Yanai เผยรายงานด้านความยั่งยืน “ฟาสต์ รีเทลลิ่ง” ปี 64