
Masayoshi Son ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ SoftBank เผยขาดทุนหนักกว่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
Masayoshi Son ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ SoftBank บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีและการลงทุนของญี่ปุ่น แถลงรายงานผลประกอบการในช่วงเดือนเมษายน–กันยายน 2020 ว่า บริษัทขาดทุน 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ “จากการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ”
ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา The Wall Steet Journal และ The Financial Times รายงานว่า SoftBank ได้ใช้เงินราว 4 พันล้านเหรียญเข้าซื้อหุ้นใน Amazon (AMZN), Microsoft (MSFT) และ Netflix (NFLX) ซึ่งล้วนเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นอยู่แล้ว จากเดิมที่ SoftBank มักลงทุนในสตาร์ทอัพที่ยังไม่เข้าตลาดหุ้น อย่างไรก็ดี กลยุทธ์การลงทุนในครั้งนี้ได้สร้างมูลค่าให้กับบริษัทมากถึง 5 หมื่นล้านเหรียญ
ด้วยเหตุนี้ SoftBank จึงเป็นที่กล่าวขานในหมู่นักวิเคราะห์ว่าเป็น “Nasdaq whale” ซึ่งในที่นี้ หมายถึง ผู้เล่นรายใหญ่มากๆ ที่การซื้อขายของผู้เล่นคนนี้เพียงคนเดียวก็สามารถขยับตลาดทั้งหมดได้
อย่างไรก็ดี ในการแถลงการณ์ครั้งนี้ Son ไม่ได้เปิดเผยถึงกลยุทธ์ล่าสุดของ SoftBank ที่จะเข้าลงทุนในหุ้นบลูชิพ (Blue Chip Stock) หรือหุ้นที่มีมูลค่าสูงในช่วงนี้
“เมื่อพูดถึงการทำสัญญาทางการเงินเพื่อตกลงซื้อขายมักจะตามมาด้วยความเสี่ยง แต่ด้วยการเข้าถือครองที่ร้อยละ 1 ของธุรกิจนั้นๆ ย่อมส่งผลกระทบต่อบริษัทเพียงแค่ร้อยละ 1-2 ของมูลค่าหุ้นที่ถือทั้งหมดของ SoftBank หากเกิดความผันผวนขึ้นในอนาคต เพราะฉะนั้นจึงเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนเดียวของภาพใหญ่เท่านั้น” Son กล่าว
ทั้งนี้ Vision Funds กองทุนสายเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกของ SoftBank ที่เน้นลงทุนในสตาร์ทอัพชื่อดังมากมาย โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากรัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้กลับมาสร้างผลตอบแทนอีกครั้ง จากการลงทุนใน 83 บริษัท ที่มีมูลค่ารวมกันถึง 7.5 หมื่นล้านเหรียญ และสร้างรายได้ให้กับบริษัทกว่า 7.64 หมื่นล้านเหรียญจากการรายงาน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2020
โดยรายได้ส่วนหนึ่งของกองทุนดังกล่าวจากการขายหุ้นใน 4 บริษัทในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ที่ทาง SoftBank ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อ ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1.41 แสนล้านเหรียญ
ในที่นี้ Yoshio Ando นักวิเคราะห์จาก Daiwa มองว่า “ขณะนี้ทางบริษัทกำลังมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทที่สร้างผลตอบแทนที่ดีและสามารถแข่งขันได้ในปัจจุบัน ซึ่งก็อยู่ที่ว่า SoftBank จะสามารถหาอุตสาหกรรมประเภทใหม่ที่เหมาะกับการลงทุน หรือว่าจะอาศัยบริษัทที่ Vision Funds กำลังลงทุนอยู่เป็นในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเดิม”
ในทำนองเดียวกัน กองทุน Vision Fund 2 ที่เน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีพื้นฐานในด้านปัญญาประดิษฐ์ ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 5.2 พันล้านเหรียญ ภายหลังจากนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
โดยสรุป ผลประกอบการของ SoftBank ในเดือนกรกฎาคม–กันยายนประจำปี 2020 นี้ มีรายได้สุทธิอยู่ที่ 6 พันล้านเหรียญ แม้ว่ากำไรของบริษัทอาจน้อยลงจากการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่ผลประกอบการในปีนี้นับว่าแตกต่างจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ขาดทุนถึง 6.8 พันล้านเหรียญ
ทั้งนี้ ณ เวลาปิดตลาดของวันที่ 8 พฤศจิกายน 2020 SoftBank มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 1.43 แสนล้านเหรียญ
SoftBank ขายหุ้นที่ถืออยู่เกือบ 1 แสนล้านเหรียญ
ในปีงบประมาณ 2020 นี้ SoftBank ได้ขายหุ้นมูลค่ากว่า 9.65 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าที่เคยประกาศไว้ในเดือนมีนาคมว่าจะขายเพียง 4.34 หมื่นล้านเหรียญ เพื่อบริหารกระแสเงินสดของบริษัท
โดยหุ้นที่ได้ตัดสินใจขายในครั้งนี้ ได้แก่ หุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทโทรคมนาคมของญี่ปุ่น และการขาย ARM ผู้ผลิตชิปสัญชาติอังกฤษให้กับ Nvidia (NVDA) บริษัทผลิตการ์ดจอเกมคอมพิวเตอร์และรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการอนุมัติจากหน่วยงาน
ในที่นี้ Son ผู้ก่อตั้งและซีอีโอวางแผนว่ากระแสเงินสดที่ได้รับมาในครั้งนี้ จะถูกนำไปใช้ลงทุนในบริษัทลงทุน เพื่อการควบรวมธุรกิจสตาร์ทอัพที่อยู่ในระดับยูนิคอร์น แต่ในขณะเดียวกัน Son ก็ยังยืนยันว่าจะต้องทำการพิจารณาหลายๆ ทางเลือกเสียก่อน เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจได้ว่า SoftBank ได้ตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง และมีกระแสเงินสดสำรองเหลือมากพอที่จะลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงกลยุทธ์การลงทุนที่ผิดพลาดในอดีต ที่ทำให้กองทุนขาดทุนอย่างยับเยิน
การเปลี่ยนแปลงด้านการบริหาร
ในวันเดียวกัน SoftBank ยังประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงในบอร์ดบริหารที่เหลือเพียง 9 คน จากการลาออกของ Marcelo Claure ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ, Katsunori Sago ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์, Rajeev Misra รองประธานกรรมการบริหาร และ Yasir Al-Rumayyan ผู้กำหนดนโยบายและสมาชิกกองทุนการลงทุนในธุรกิจเอกชนของ Saudi Arabia
อย่างไรก็ดี การลาออกของ Claure, Sago และ Misra “เป็นไปเพื่อแบ่งแยกฝ่ายบริหารและฝ่ายปฏิบัติงานออกจากกันอย่างชัดเจน” ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งใหม่ใน SoftBank เพื่อทำงานร่วมกับ Son
แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ SoftBank’s big bet on listed tech stocks cost it $1.3 billion เผยแพร่บน cnn.com
อ่านเพิ่มเติม: 10 อันดับ มหาเศรษฐีจีนหน้าใหม่ ประจำปี 2020