ท่ามกลางสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก Yanolja ซูเปอร์แอปด้านการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ ประกาศรายได้ในไตรมาสแรกอย่างแข็งแกร่ง ในที่นี้ยังเผยให้เห็นถึงสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ก่อตั้ง Lee Su-jin ในบริษัท ซึ่งปัจจุบันก้าวขึ้นเป็น “มหาเศรษฐีผู้สร้างฐานะด้วยตัวเอง” อย่างเป็นทางการ
ปัจจุบัน Lee Su-jin วัย 44 ปี ดำรงตำแหน่งซีอีโอและผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของบริษัทที่ร้อยละ 16.54 รองจากกองทุน Vision Fund 2 ของ SoftBank ซึ่งเข้าถือหุ้นร้อยละ 25.23 นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2021 ที่มูลค่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ภรรยาและบุตรสาวของ Lee มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 5.18 ต่อคน
Yanolji ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2005 มีความหมายในภาษาเกาหลีว่า “มาเล่นกันเถอะ” ได้ขยายจากการให้บริการจองที่พักระยะสั้น ไปสู่การคมนาคมขนส่ง และซอฟต์แวร์คลาวด์คอมพิวติ้ง ที่ช่วยให้โรงแรมและบริษัทท่องเที่ยวแปลงกระบวนการทางธุรกิจให้เป็นดิจิทัล
บริษัทรายงานว่า รายได้ในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มาอยู่ที่ 1 แสนล้านวอน (8 หมื่นล้านเหรียญ) ขณะที่รายได้สุทธิลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 8.8 พันล้านวอนจาก 9 พันล้านวอน โดยรายได้หลักของ Yanolji มาจากการเรียกเก็บเงินโรงแรมและบริษัทท่องเที่ยวที่ต้องการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม ขณะที่อีกร้อยละ 20.5 มาจากธุรกิจคลาวด์ ที่ทางบริษัทให้บริการระบบการจัดการ ช่วยโรงแรมจัดการการจองและการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าที่คาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้า
ด้านสื่อท้องถิ่นรายงานเมื่อเดือนเมษายนว่า Yanolja กำลังวางแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ขณะที่ในปัจจุบันบริษัทได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่นอกจาก SoftBank อาทิ กองทุนความมั่งคั่งแห่งสิงคโปร์ GIC ไปจนถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการท่องเที่ยวออนไลน์อย่าง Booking.com และบริษัทไพรเวทอิควิตี้ SkyLake Investment ของ Chin Dae-je อดีตผู้บริหาร Samsung Electronics
เช่นเดียวกับ Kim Beom-su ผู้ก่อตั้ง Kakao ที่ครองตำแหน่งมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเกาหลีใต้ ประจำปี 2022 เนื่องจากเบื้องหลังความสำเร็จของทั้งคู่นั้น ไม่ได้ต่างไปจากสำนวนที่ว่า “จากยาจกกลายเป็นมหาเศรษฐี" เท่าไรนัก เพราะนอกจาก Lee เริ่มต้นชีวิตในฐานะเด็กกำพร้า Bloomberg รายงานว่า เขาเคยทำงานในตำแหน่งพนักงานทำความสะอาดในโรงแรม ก่อนที่จะเริ่มบทใหม่ของชีวิตด้วยการก่อตั้ง Yanolji โดยอาศัยคอนเน็กชั่นที่มีกับซัพพลายเออร์กระดาษชำระและเจ้าของโรงแรม ผนวกเข้ากับศาสตร์ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนในระดับปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์จาก Kongju National University
ล่าสุด Forbes ประเมินมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ Lee และครอบครัวอยู่ที่ 2 พันล้านเหรียญ
แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Ex-Janitor Becomes A Billionaire, Pandemic Recovery Boosts His Korean Travel Superapp เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: Masatoshi Ito ประธานกิตติมศักดิ์แห่งเชนร้านสะดวกซื้อ 7-Elevenไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine