Lee Seung-gun จากทันตแพทย์สู่มหาเศรษฐีฟินเทค Viva Republica - Forbes Thailand

Lee Seung-gun จากทันตแพทย์สู่มหาเศรษฐีฟินเทค Viva Republica

Lee Seung-gun ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Viva Republica สตาร์ทอัพด้านฟินเทค ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีคนล่าสุดที่สะสมความมั่งคั่งด้วยตนเอง ซึ่งนับเป็นส่วนน้อยในเกาหลีใต้ หนึ่งในประเทศที่กลุ่มบริษัทใหญ่หลายแห่งมักจะครอบงำเศรษฐกิจ โดยมีหุ้นส่วนใหญ่ถือครองโดยคนในครอบครัว

Lee Seung-gun
Toss แอปพลิเคชันทางการเงิน
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Viva Republica ผู้ให้บริการ Toss แอปพลิเคชันทางการเงิน ประกาศว่า บริษัทสามารถระดมทุน 410 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการระดมทุนรอบล่าสุด ส่งผลให้บริษัทซึ่งก่อตั้งมาเป็นระยะเวลา 8 ปี มีมูลค่าอยู่ที่ 7.4 พันล้านเหรียญ  โดยมีนักลงทุนรายใหญ่ที่ให้ความสนใจ อาทิ Alkeon Capital Management จากมหานครนิวยอร์ก และ Altos Ventures ใน Silicon Valley  ขณะที่นักลงทุนรายอื่นๆ ในรอบก่อนหน้า ได้แก่ PayPal, GIC กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของสิงคโปร์ และบริษัทร่วมทุน Kleiner Perkins ในที่นี้ โฆษกของ Toss ยืนยันว่าสัดส่วนการถือหุ้นของ Lee Seung-gun ใน Viva Republica มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญหลังจากการระดมทุนในรอบสัปดาห์นี้ ด้าน Forbes ประมาณการว่า Lee มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทน้อยกว่าร้อยละ 18 เพียงเล็กน้อย ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1.2 พันล้านเหรียญ Viva Republica ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 ในย่าน Gangnam ของกรุงโซล และหลังจากนั้น 2 ปีต่อมาก็ได้เปิดตัว Toss บริการโอนเงิน แล้วจึงขยายไปสู่การให้บริการสินเชื่อ ตรวจสอบคะแนนเครดิต การลงทุนในหุ้น และอื่นๆ ปัจจุบัน Toss มีผู้ใช้ 20 ล้านคน หรือมากกว่า 1 ใน 3 ของประชากรเกาหลีใต้ สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าเป็น 390 พันล้านวอน (ประมาณ 330 ล้านเหรียญ) ในปี 2020 จากปีก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าการขาดทุนลดลงเหลือ 7.25 หมื่นล้านวอนจาก 1.15 แสนล้านวอน ก่อนที่จะเริ่มก่อตั้ง Viva Republica Lee สำเร็จการศึกษาจาก Seoul National University และเคยเป็นทันตแพทย์ที่โรงพยาบาลในเครือบริษัทซัมซุง โดยเขามีความคิดที่จะสร้าง Toss หลังจากผิดหวังกับการพยายามโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ “Toss คือ สิ่งที่เทคโนโลยีการเงินควรจะเป็น” เขาให้สัมภาษณ์กับ Forbes ในปี 2017 “เราออกแบบประสบการณ์และการเข้าถึงบริการทางการเงินบนมือถือใหม่ทั้งหมด และเราหวังว่าเราจะสามารถให้บริการแก่ผู้ใช้มือถือทุกคนในเกาหลีได้” Lee วัย 39 ปี เป็นผู้ประกอบการเกาหลีรายล่าสุดที่เข้าสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีต่อจาก Bom Kim ผู้ก่อตั้ง Coupang, Bang Shi-hyuk ผู้ก่อตั้งเอเจนซี่ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ BTS บอยแบนด์แนวเค-ป๊อประดับโลก และ Chang Byung-gyu ประธานบริษัทเกมออนไลน์ Krafton สำหรับทำเนียบมหาเศรษฐีเกาหลีใต้นำโดย Seo Jung-jin ผู้ร่วมก่อตั้ง Celltrion ครองตำแหน่งอันดับ 1 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ Forbes เริ่มประเมินมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของมหาเศรษฐีเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในปี 2005 โดยก่อนหน้านี้ตำแหน่งดังกล่าวมักตกเป็นของทายาทรุ่นที่ 2 ของ Samsung หรือ Hyundai ที่เข้ามาสืบทอดธุรกิจ