Kumar Mangalam Birla มหาเศรษฐีพันล้าน เผยถึงวิกฤตทางการเงินใน Vodafone Idea - Forbes Thailand

Kumar Mangalam Birla มหาเศรษฐีพันล้าน เผยถึงวิกฤตทางการเงินใน Vodafone Idea

FORBES THAILAND / ADMIN
10 Aug 2021 | 06:30 PM
READ 2061

มหาเศรษฐีพันล้าน Kumar Mangalam Birla ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานและคณะกรรมการบริหาร Vodafone Idea หลังบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศประสบวิกฤตทางการเงินสะสม

Kumar Mangalam Birla Vodafone Idea ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Vodafone Group ของสหราชอาณาจักรและ Idea Cellular ของ Birla เผยว่า บริษัทมีภาระหนี้สะสมมากถึง 2.42 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ  โดยส่วนหนึ่งสะสมมาจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงซึ่ง Vodafone Idea สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับ Reliance Jio ของ Mukesh Ambani นอกจากนี้ยังเป็นหนี้รัฐบาลจำนวน 2.12 หมื่นล้านเหรียญที่จะต้องจ่ายในอีก 10 ปีข้างหน้า Kumar Mangalam Birla ซึ่งเป็นประธานรุ่นที่สี่ของ Aditya Birla Group ได้เขียนจดหมายถึงรัฐบาลในเดือนมิถุนายนเพื่อเสนอขายหุ้นของกลุ่มใน Vodafone Idea ให้กับหน่วยงานที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล โดยในจดหมายของเขาเน้นย้ำว่า ในปีที่ผ่านมา Vodafone Idea ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แม้ว่าสถานะทางการเงินของบริษัทจะถดถอยเรื่อยมา โดยกิจการดังกล่าวขาดทุน 11 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งในปีงบประมาณล่าสุดที่สิ้นสุด ณ เดือนมีนาคม ขาดทุนอยู่ที่ 4.423 แสนล้านรูปีจากรายได้ 419.5 พันล้านรูปี ขณะที่หุ้นของบริษัทร่วงลงมากถึงร้อยละ 45 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะปรับขึ้นมาบางส่วน และปิดสัปดาห์ที่ร้อยละ 14 ล่าสุด บริษัทพยายามหาทางระดมทุนเพิ่มอีก 2.5  แสนล้านรูปี ผ่านกองทุนรวมผสมทั้งในหุ้นและตราสารหนี้ เพื่อรักษาระดับการดำเนินงาน แต่ Birla กล่าวว่า นักลงทุนต้องการเห็นความตั้งใจที่ชัดเจนของรัฐบาลในการสนับสนุนตลาดโทรคมนาคมที่มีผู้เล่น 3 ราย อย่างไรก็ดี ในบรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ดูเหมือนว่า Vodafone Idea จะเป็นผู้ที่เสียเปรียบที่สุด เพราะเมื่อปีที่แล้ว Reliance Jio ของ Ambani สามารถระดมทุน 2 หมื่นล้านเหรียญจากนักลงทุนทั่วโลก ในขณะที่ Bharti Airtel ของ Sunil Mittal เพิ่งรายงานตัวเลขผู้ใช้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมผลกำไรที่ปรับตัวขึ้นตามลำดับ ด้านเว็บไซต์ของ Vodafone Idea ระบุว่า หนี้สินรวมของบริษัท (ไม่รวมหนี้สินตามสัญญาเช่า) ณ วันที่ 31 มีนาคม อยู่ที่ 1.8 ล้านล้านรูปี ประกอบด้วยมูลค่าการจ่ายคลื่นความถี่ที่รอตัดบัญชีจำนวน 9.627 แสนล้านรูปี หนี้สิน AGR จำนวน 6.096 แสนล้านรูปีที่เป็นหนี้รัฐบาล และหนี้จากธนาคารและสถาบันการเงินอยู่ที่ 2.308 แสนล้านรูปี ด้าน Nick Read ซีอีโอ Vodafone Group ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นใน Vodafone India ร้อยละ 45 กล่าวกับนักวิเคราะห์ว่า บริษัทจะไม่เพิ่มทุนในธุรกิจอินเดีย หลังจากรับทราบผลประกอบการของบริษัทในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของ Vodafone Idea จึงอยู่ที่ร่างกฎหมายฉบับแก้ไขการเก็บภาษีย้อนหลังที่ประกาศใช้ในปี 2012 โดยในที่นี้ Lok Sabha สภาล่างของประเทศ ออกมาประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า จะไม่มีการเรียกเก็บภาษีการโอนทรัพย์สินทางอ้อมเพิ่ม หากการทำธุรกรรมเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 28 พฤษภาคม 2012 ทั้งนี้ สถานะทางการเงินที่ย่ำแย่ลงของ Vodafone ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อศาลฎีกาตีความคำจำกัดความของ AGR ของกรมโทรคมนาคม ซึ่งรวมถึงรายได้ที่ได้รับจากแหล่งที่ไม่ใช่โทรคมนาคม เช่น รายได้ดอกเบี้ยและกำไรจากเงินทุน ทำให้ทั้ง Vodafone Idea และ Airtel ต่างยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสิน แต่ในที่สุดศาลสูงสุดก็ได้เพิกถอนการอุทธรณ์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ด้าน Birla Group เข้าสู่ธุรกิจโทรคมนาคมครั้งแรกในปี 1995 ด้วยการจัดตั้งบริษัทเพื่อให้บริการโทรคมนาคมแบบ GSM และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง AT&T และ Tata Cellular แต่หลังจากนั้น Tata Cellular ก็ได้ออกจากการเป็นธุรกิจร่วมทุน และเข้าเป็นบริษัทโทรคมนาคมในเครือของกลุ่ม Aditya Birla พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น Idea Cellular บริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2007 และระดมทุนได้ประมาณ 2.5 หมื่นล้านรูปี โดยการจดทะเบียนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ต่อมาในเดือนมีนาคม 2017 Idea Cellular และ Vodafone Group ประกาศว่า พวกเขากำลังควบรวมการดำเนินงานภายในประเทศ แปลและเรียบเรียงจากบทความ How Billionaire Kumar Birla’s Telecom Dream Unraveled โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: Larry Page ผู้ร่วมก่อตั้ง Google ได้รับสิทธิ์พำนักในนิวซีแลนด์ ขณะลูกชายรับการรักษาพยาบาล