JetSetGo นิยามการบินบทใหม่ - Forbes Thailand

JetSetGo นิยามการบินบทใหม่

FORBES THAILAND / ADMIN
21 Jul 2017 | 02:08 PM
READ 2810

JetSetGo ได้รับการขนานนามว่าเป็น Uber แห่งน่านฟ้าอินเดีย บริษัทแห่งนี้ให้บริการเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์เช่าเหมาลำที่เจาะตลาดภูมิภาคที่ยังมีความล้าหลังในการใช้อากาศยานเพื่อการเดินทางส่วนบุคคล

Kanika Tekriwal วัย 28 ปี เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าวขึ้นในปี 2014 และเธอยังคงมีบทบาทในการบริหารกิจการซึ่งเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป Tekriwal เป็นชาวเมือง Bhopal โดยกำเนิด เธอสำเร็จการศึกษาในระดับชั้นปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัย Coventry ในกรุง London และมุ่งมั่นกลับมาสานต่อความสนใจส่วนตัวตั้งแต่เยาว์วัยในเรื่องการบิน โดยเธอมีเป้าหมายที่จะสร้างความโปร่งใส ความมีประสิทธิภาพ และความประหยัดให้เกิดขึ้นในธุรกิจการบินส่วนบุคคลของประเทศอินเดีย กลุ่มลูกค้าของบริษัทเธอครอบคลุมกลุ่มคนทุกระดับชั้น ตั้งแต่ผู้บริหารบริษัทที่ต้องเดินทางไปดูโรงงานในเขตพื้นที่ห่างไกล นักการเมืองที่ต้องลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนตามสถานที่ต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 5 แห่งต่อวันในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ไปจนถึงนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่สวยงามแปลกตาซึ่งอยู่นอกเขตเส้นทางการบินพาณิชย์ทั่วไป
Kanika Tekriwal ติดอันดับลิสต์ผู้บุกเบิกธุรกิจอายุต่ำกว่า 30 ปีที่น่าจับตามองของภูมิภาคเอเชียประจำปี 2016 จัดโดยนิตยสาร Forbes
รายได้ของบริษัทสัญชาติอินเดียซึ่งตั้งอยู่ที่กรุง Delhi แห่งนี้เพิ่มขึ้นจาก 64,200 เหรียญสหรัฐฯ ในปี 2015 เป็น 3.2 ล้านเหรียญในปี 2016 ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ ณ เดือนมีนาคมปี 2017 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 17 ล้านเหรียญ โดยมีกำไรที่ประมาณร้อยละ 10 ของรายได้ JetSetGo มีอากาศยานจำนวนทั้งสิ้น 16 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินรุ่น Falcon เครื่องบินรุ่น Hawkerและเครื่องบินรุ่น Challengers ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 7-18 ที่นั่ง ปัจจุบันฝูงบินของบริษัทถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย โดยมีเที่ยวบินไว้คอยให้บริการประมาณ 4 ถึง 20 เที่ยวบินต่อวันแบบครอบคลุมทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของบริษัทยังถือว่าอยู่ในวงจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าตลาดรวมของธุรกิจการบินที่ประมาณ 450 ล้านเหรียญ โดยประเทศอินเดียมีเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินโดยสารแบบใบพัด และเครื่องบินเจ็ทรวมทั้งสิ้นประมาณ 500 ลำ เปรียบเทียบกับจำนวนอากาศยานประมาณ 30,000 ลำในประเทศสหรัฐอเมริกา (ประเทศอินเดียยังคงครองส่วนแบ่งตลาดในภูมิภาคเอเชียเป็นลำดับต้น ดูข้อมูลได้ในตาราง) ธุรกิจการบินในภูมิภาคนี้ยังไม่ก้าวไกลเนื่องจากรัฐบาลจัดเก็บภาษีในอัตราสูง การบังคับใช้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวด และความไร้ประสิทธิภาพของระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ ผู้คนยังมีความคิดว่าเครื่องบินเจ็ทเป็นของหรูหราฟุ่มเฟือยทำให้ธุรกิจการบินส่วนบุคคลไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่เปิดใจยอมรับเครื่องบินเจ็ทว่าช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทาง ดังกรณีของ Harry Dhaul วัย 62 ปีซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสของบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งในเมือง Gurgaon และมีภารกิจต้องเดินทางข้ามไปมาระหว่างรัฐ Karnakata และรัฐ Maharashtra อยู่เป็นประจำในแต่ละเดือน รวมถึงต้องเดินทางไปยังพื้นที่นอกเมืองและตามหัวเมืองต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ Dhaul พูดถึงความสะดวกสบายที่ได้รับจากการเดินทางโดยเครื่องบินเจ็ทว่า “เครื่องบินทำให้เรามีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับการทำงานและการพูดคุยเพื่อปรึกษางาน” เขายังกล่าวอีกว่า เครื่องบินเจ็ททำให้ไม่เสียเวลาต่อแถวขึ้นเครื่อง สามารถทำงานบนเครื่องอย่างผ่อนคลาย และบริการยังน่าพึงพอใจ เพราะมีเมนูรายการอาหารพิมพ์ชื่อของ Dhaul ไว้โดยเฉพาะพร้อมกับพนักงานต้อนรับที่จะคอยดูแลเสิร์ฟเครื่องดื่มสุดโปรดของเขาเป็นพิเศษ
เครื่องบินรุ่น Falcon 2000 LX ที่ Harry Dhaul ใช้ในการเดินทาง (Photo Credit: dassaultfalcon.com)
เครื่องบินรุ่น Falcon ที่ Dhaul ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางมีการกรุผนังห้องโดยสารด้วยไม้อย่างหรูหรามีระดับ มีพื้นที่โอ่โถงสำหรับให้ผู้โดยสารวางขาได้อย่างสบาย เบาะที่นั่งบุด้วยหนังอย่างดีและสามารถหมุนไปมาได้รอบทิศ เครื่องบินลำนี้ยังมีห้องอาบน้ำที่มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของห้องอาบน้ำบนเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไป เบาะนั่งจำนวนทั้งหมด 5 ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงนอนสำหรับงีบหลับโดยไม่มีเสียงรบกวนของเครื่องยนต์ให้รำคาญใจ แล้วสนนราคาเท่าไหร่ที่คุณต้องจ่าย? อัตราค่าบริการรายชั่วโมงสำหรับเครื่องบินรุ่น TurboProp ขนาด 6 ที่นั่งอยู่ที่ประมาณ 900 เหรียญ และสำหรับเครื่องบินรุ่น Challenger ขนาด 14 ที่นั่งอยู่ที่ประมาณ 6,000 เหรียญ และสำหรับเครื่องบินรุ่น Falcon 7X ที่ให้ บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 10,500 เหรียญ ปัจจุบันตลาดนี้แข่งขันกันอย่างรุนแรงโดยมีบริษัทนายหน้านับสิบราย แต่แต่ละเจ้ามีเครื่องบินให้บริการอยู่แค่ 1-2 ลำเท่านั้น ซึ่ง Puneet Dalmia กรรมการผู้จัดการของ Dalmia Bharat Group ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตน้ำตาล ปูนซีเมนต์ พลังงาน และวัสดุทนไฟ และหุ้นส่วนของ JetSetGo กล่าวว่า “การมีนายหน้าทำให้ธุรกิจการบินขาดความโปร่งใสและบั่นทอนความน่าเชื่อถือ รวมถึงการที่ลูกค้าต้องรับภาระค่าใช้จ่ายแฝง หากเปรียบเทียบกับบริษัทผู้ให้บริการเครื่องบินเจ็ทรายอื่น บริษัท JetSetGo มีความได้เปรียบในเรื่องต้นทุนการบริหารงานที่ต่ำกว่า โดยอาศัยการประหยัดจากขนาดและการปรับปรุงการใช้ประโยชน์จากเครื่องบินต่อลำให้คุ้มค่ามากขึ้น”
หน้าแรกเว็บไซต์ Bookmycharters.com หนึ่งในคู่แข่งรายสำคัญที่เปิดบริการให้ลูกค้าจองที่นั่งผ่านเว็บไซต์ด้วยตนเองได้
Kanika Tekriwal เกิดในครอบครัวที่สืบเชื้อสายจากชนเผ่า Marwari โบราณ บิดาของเธอประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเคมีภัณฑ์ เธอถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำทางตอนใต้ของประเทศอินเดียตั้งแต่ยังเด็ก จากนั้นจึงไปเรียนต่อระดับชั้นอุดมศึกษาที่เมือง Mumbai จนจบปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์และประกาศนียบัตรด้านการออกแบบ ช่วงที่อายุได้ 17 ปี เธอได้ไปทำงานพาร์ทไทม์ที่บริษัท Indiabulls ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในแวดวงอสังหาฯ โดยเธออยู่ในส่วนงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบการจัดตั้งแผนกการบิน หลังจากนั้นเธอจึงได้เดินทางไปศึกษาต่อในระดับชั้นปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัย Coventry ในกรุง London ในระหว่างเรียนเธอทำงานไปด้วยที่ Aerospace Resources ในฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ซึ่งที่นั่นทำให้เธอมองเห็นโอกาสที่จะทำธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำในประเทศอินเดีย ในปี 2011 เธอเดินทางกลับบ้านเกิดในเมือง Bhopal และพำนักอยู่ที่นั่นหลังจากหมอตรวจพบว่าเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กินระยะที่ 2 หลังจากต่อสู้จนเอาชนะโรคร้ายดังกล่าวได้สำเร็จ เธอก็พาบริษัท JetSetGo โตวันโตคืน โดยมี Sudheer Perla หนุ่มใหญ่วัย 38 ปี ซึ่งมีดีกรีปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัย Oxford และมีประสบการณ์ด้านการปรับโครงสร้างหนี้กิจการการระดมทุน และการควบรวมกิจการเข้าร่วมก่อตั้ง เขามีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการวางกลยุทธ์ การซื้อเครื่องบินลำใหม่ และการระดมทุน
Sudheer Perla ผู้ร่วมก่อตั้ง JetSetGo
Perla พูดถึงเพื่อนร่วมงานของเขาว่า “Kanika ทำงานเฉลี่ยวันละประมาณ 18-20 ชั่วโมง เธอเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงและคอยตรวจตรางานที่เธอมอบหมายให้ลูกน้องทำแบบเกาะติด” สำหรับหญิงสาวอายุน้อยที่ต้องบริหารบริษัทที่มีพนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย สิ่งที่เธอต้องทำคือการเรียนรู้ทุกสิ่งอย่างด้วยตัวเอง เธอเล่าให้ฟังว่า “เคยมีนักบินในบริษัทที่ฉันบริหารงานพูดกับฉันว่า ‘เธอควรจะแต่งงานได้แล้ว ที่ของเธอคือในครัว ผมยินดีจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการแต่งงานให้คุณ’” จนถึงตอนนี้ แผนธุรกิจของเธอได้ต่อยอดกว้างไกลเสียจนยากที่ Tekriwal จะแลนดิ้งพักจากงานในขณะนี้   เรื่อง: Anuradha Raghunathan เรียบเรียง: ชนกานต์ อนันตคุณากร
คลิกอ่าน "นิยามการบินบทใหม่" ฉบับเต็ม ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ มิถุนายน 2560 ในรูปแบบ e-Magazine