'Hilmi Panigoro' เศรษฐีอินโดนีเซียแม้ต้องเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่ยังมุ่งขยายธุรกิจไม่หยุดยั้ง - Forbes Thailand

'Hilmi Panigoro' เศรษฐีอินโดนีเซียแม้ต้องเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่ยังมุ่งขยายธุรกิจไม่หยุดยั้ง

FORBES THAILAND / ADMIN
15 May 2024 | 09:00 AM
READ 1470

ท่ามกลางการเติบโตของธุรกิจ แต่ ‘Hilmi Panigoro’ มหาเศรษฐีจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการ Medco Energi Internasional กลับต้องสูญเสียทั้งพี่ชายและคู่คิดทางธุรกิจไปตลอดกาล แม้จะเสียใจมากเพียงใด แต่ธุรกิจต้องเดินหน้าต่อ Panigoro ในวัย 68 ปีบอกว่า เขาต้องการขับเคลื่อนกิจการของ Medco ไปให้กว้างไกลยิ่งกว่านี้


    Medco Energi Internasional บริษัทแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องกิจการน้ำมันและก๊าซ ขณะเดียวกันยังถือหุ้น 21% ใน Amman Mineral Internasional บริษัทเหมืองแร่ทองแดงและทองคำก็เพิ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย ซึ่งเสนอขายหุ้น IPO ด้วยมูลค่า 10.7 ล้านล้านรูเปียห์ (710 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ถือเป็นมูลค่า IPO สูงสุดของอินโดนีเซียในปีที่ผ่านมา

    ทั้งหมดนี้แสดงถึงอาณาจักรของ Medco ที่หยั่งฐานรากในอินโดนีเซียและเติบใหญ่เป็นมหาอำนาจด้านพลังงานและเหมืองแร่ที่มีความหลากหลายแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยฐานการดำเนินงานใน 9 ประเทศ
    แม้ว่า Panigoro จะดำรงตำแหน่งปัจจุบันและนำทัพบริษัทมากว่า 16 ปี แต่หลังจากที่ Arifin พี่ชายของเขาซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเสียชีวิตลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 เขาต้องบริหารบริษัทโดยไม่มีพี่ชายหนุนหลังอีกต่อไป Panigoro บอกอย่างตรงไปตรงมาว่า “ในช่วงเดือนแรกๆ หลังจากที่เขาเสียชีวิต ทุกครั้งที่ร่วมงานของครอบครัวหรือบริษัทผมซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงซึ่งทั้งเศร้าและเจ็บปวดเอาไว้ได้ยากมากๆ แต่ความกระตือรือร้นที่เขาเคยมีมาทั้งชีวิตได้กลายเป็นทั้งคำสั่งและแรงบันดาลใจอย่างไม่หยุดยั้งให้ผมดูแลบริษัทให้เติบโตต่อไป” 

    กระนั้น Panigoro ยอมรับว่า “จริงๆ แล้วผมยังคิดถึงเขาอยู่”

    ตอนที่ Arifin เสียชีวิตเขาดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาของ Medco แต่บทบาทที่แท้จริงของเขายิ่งใหญ่กว่านั้นมาก Panigoro บอกว่า Arifin คือ “ผู้ที่มีวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์” แห่ง Medco ในช่วงแรกหลังการก่อตั้งบริษัทขึ้นมาเมื่อปี 1980 ในชื่อ Meta Epsi Pribumi Drilling Company เวลานั้น Arifin ปั้น Medco ขึ้นมาเพียงลำพังก่อนที่ Panigoro จะเข้ามาร่วมทีมในอีกทศวรรษให้หลัง Panigoro เล่าว่า “ผมเคยทำงานในบริษัทต่างชาติมาก่อน Arifin จึงขอให้ผมมาร่วมงานและสร้างองค์กรที่มีโครงสร้าง มีความแข็งแกร่ง และยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ต่างๆ”

    นับจากวันนั้นมาสองพี่น้องทำงานให้กับ Medco ร่วมกันเป็นเวลา 32 ปี แต่เมื่อพี่ชายเสียชีวิตลง Panigoro บอกว่า เขาต้องรับบทบาทด้านกลยุทธ์ของ Arifin โดยที่ยังคงต้องทำหน้าที่บริหารการดำเนินการในแต่ละวันอย่างเต็มเวลา

Arifin Panigoro


    ท่ามกลางปัญหาต่างๆ Panigoro ยังต้องจัดการตัวเลขทางการเงินล่าสุดของบริษัทที่เพิ่งรายงานออกมาสำหรับรอบระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2023 ซึ่งสะท้อนให้เห็นทั้งอุปสรรคที่ไม่คาดคิดและความผันผวนตามวัฏจักรตลาด ในช่วงเวลาดังกล่าวบริษัทมีกำไรสุทธิ 242 ล้านเหรียญ ลดลง 39% จาก 401 ล้านเหรียญที่ทำได้ในช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า และมีรายได้ 1.7 พันล้านเหรียญ ลดลงจากปีก่อน 5% ซึ่งบริษัทกล่าวว่า เป็นเพราะราคาน้ำมันและก๊าซปรับตัวลดลง ประกอบกับปัญหาน้ำท่วมที่ Amman ซึ่งกระทบต่อการผลิต

    แม้ผลการดำเนินงานเต็มปีในปี 2023 อาจสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนบ้าง แต่ก็เป็นเพราะบริษัททำผลการดำเนินงานไว้สวยหรูเมื่อปี 2022 ซึ่งในปีนั้นเอง Medco ทำกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ได้ 1.6 พันล้านเหรียญจาก 667 ล้านเหรียญในปีก่อนหน้านั้นถึงกว่าเท่าตัวจากการผลิตน้ำมันและก๊าซสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกันกำไรสุทธิของ Medco เติบโตก้าวกระโดดถึง 11 เท่าจาก 47 ล้านเหรียญเมื่อปี 2022 เป็น 531 ล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา

    ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกล่าสุดไม่ได้ทำให้ Panigoro กังวลแม้แต่น้อย เขาบอกว่า Medco คือบริษัทที่ “ขับเคลื่อนด้วยโอกาส” นอกจากนี้ ยังมีทีมงานฝ่ายซื้อและควบรวมกิจการที่ “คอยมองหาโอกาสดีๆ ที่น่าจะเพิ่มมูลค่าได้” Panigoro บอกว่า การซื้อกิจการ Amman มีความ “ซับซ้อน” และเป็นตัวอย่างของการเพิ่มมูลค่า เพราะทองแดง “เป็นตัวเสริมพอร์ตที่ดีมาก”

Medco Power Indonesia

    นอกจากธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ธุรกิจเหมืองแร่และพลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต Panigoro ยังคงมีแผนที่จะขยายกิจการหลักคือเชื้อเพลิงฟอสซิลด้วย เขาให้คำมั่นว่า จะเพิ่มการผลิตน้ำมันและก๊าซให้ได้อีกเท่าตัวในอีก 5 ปีข้างหน้า จากที่ Medco เคยทำได้เทียบเท่ากับปริมาณน้ำมันวันละ 163,000 บาร์เรล เมื่อปี 2022 และยังคงแสวงหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ

    แม้ว่าในระยะยาวพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่จะเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์สันดาปเพิ่มขึ้น แต่ในปัจจุบันน้ำมันและก๊าซยังคงมองเห็นอนาคตจากการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี รวมถึงความต้องการพลังงานในรูปแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้า การบิน การเดินเรือ และยานยนต์ ในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานไฟฟ้า Panigoro บอกว่า “ในอีก 30 ปีข้างหน้าน้ำมันและก๊าซจะยังคงมีบทบาทสำคัญในระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย”



เรื่อง: Ardian Wibisono และ Gloria Haraito เรียบเรียง: รัน-รัน ภาพ: TOTO SANTIKO BUDI 



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ทำไม Cornel West จึงถังแตก ทั้งที่เคยมีรายได้ถึง 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2567 ในรูปแบบ e-magazine