Eduardo Saverin ผู้ร่วมก่อตั้ง Meta ขึ้นแท่นอันดับ 1 เศรษฐีสิงคโปร์ - Forbes Thailand

Eduardo Saverin ผู้ร่วมก่อตั้ง Meta ขึ้นแท่นอันดับ 1 เศรษฐีสิงคโปร์

FORBES THAILAND / ADMIN
01 Dec 2023 | 09:00 AM
READ 1956

อันดับ 1 ของเศรษฐีผู้มีความมั่งคั่งมากที่สุดของสิงคโปร์ได้เปลี่ยนไปแล้ว โดย Eduardo Saverin ผู้ร่วมก่อตั้ง Meta ขึ้นแท่นครองอันดับ 1 หลังมูลค่าหุ้นของบริษัทที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาทวีคูณมากขึ้นตามไปด้วย


    มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของหุ้น Meta ทำให้ Eduardo Saverin ผู้ร่วมก่อตั้ง Meta ผงาดขึ้นมาเป็นเศรษฐีพันล้านครองอันดับ 1 ในทำเนียบของสิงคโปร์ โดยที่มูลค่าทรัพย์สินรวมของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 1.77 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ 

    ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศสิงคโปร์ยังคงติดอันดับต้นๆ ของทำเนียบผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในสิงคโปร์ โดย Eduardo Saverin ผู้ร่วมก่อตั้ง Meta Platforms (เดิมคือ Facebook) ชาวบราซิลซึ่งมีถิ่นพำนักในสิงคโปร์มานานกว่า 10 ปีแล้วได้ก้าวขึ้นมาเป็นคนร่ำรวยที่สุดอันดับ 1 โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.6 หมื่นล้านเหรียญ มูลค่าทรัพย์สินของเขาในแง่เม็ดเงินเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นถึง 6.4 พันล้านเหรียญ เนื่องจากราคาหุ้น Meta ซึ่งเพิ่งคลอด Threads มาชนกับ Twitter ไปหมาดๆ พุ่งกระฉูดถึงเกือบ 70% นับจากที่เราทำการประเมินมูลค่าสินทรัพย์มหาเศรษฐีสิงคโปร์รอบที่แล้ว 

    Saverin ซึ่งเป็นเจ้าของร่วมของ B Capital Group ธุรกิจเงินร่วมลงทุน (VC) ที่มีสินทรัพย์ภายใต้บริหารถึง 6.3 พันล้านเหรียญ ขึ้นมานั่งแท่นแทนที่ Li Xiting ประธานกรรมการ Shenzhen Mindray Bio-Medical Electronics บริษัทเครื่องมือแพทย์ซึ่งครองอันดับ 1 ในทำเนียบติดต่อกันมา 2 ปี ก่อนที่จะหลุดไปอยู่อันดับ 3 ในปีนี้ เนื่องจากหุ้นในกลุ่มการดูแลสุขภาพถูกกระทบจากการที่จีนดำเนินนโยบายกวาดล้างคอร์รัปชันในธุรกิจยา

    การสลับตำแหน่งของมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ในปีนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเหลือ 3.6% ในปีที่แล้ว และคาดว่าจะแผ่วลงไปอีกเหลือเพียง 0.5%-1.5% ในปีนี้ เนื่องจากการส่งออกซบเซาและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง อย่างไรก็ตามแม้ว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่มูลค่าสินทรัพย์รวมของ 50 คนที่ร่ำรวยที่สุดในสิงคโปร์ยังคงเพิ่มขึ้น 8% เป็น 1.77 แสนล้านเหรียญ

Robert และ Philip Ng สองพี่น้องขาใหญ่วงการอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของ Far East Organization ยังเหนียวแน่นอยู่ที่อันดับ 2 เหมือนเดิม โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลงเล็กน้อยเหลือ 1.48 หมื่นล้านเหรียญ ในขณะที่ Kwek Leng Beng เศรษฐีพันล้านอีกรายจากแวดวงอสังหาริมทรัพย์ก็เกาะแน่นอยู่ที่อันดับ 5 โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้น 18% เป็น 1.1 หมื่นล้านเหรียญที่มากเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้หลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดผ่านพ้นไป City Developments ของ Kwek ก็กลับมามองหาการซื้อกิจการอสังหาริมทรัพย์ดีๆ ในตลาดโลกอีกครั้ง และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็ได้เข้าไปซื้อ St. Katharine Docks ใจกลาง London ที่ราคา 500 ล้านเหรียญ

ทั้งนี้ กว่าครึ่งของคนร่ำรวยที่สุดในทำเนียบปีนี้ของเรามีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น โดยมี 6 รายที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 พันล้านเหรียญ ซึ่งในจำนวนนี้มี 2 รายที่มาจากตระกูลเศรษฐีเก่าซึ่งทรัพย์สินหลักผูกอยู่กับธุรกิจธนาคาร ได้แก่ ตระกูล Lee ซึ่งถือหุ้นใน OCBC และตระกูล Lien ซึ่งถือหุ้นใน United Overseas Bank โดยมูลค่าทรัพย์สินของสองตระกูลนี้เพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ เพราะเราได้รับข้อมูลใหม่เกี่ยวกับทรัพย์สินที่พวกเขาถือครองอยู่

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มี 3 รายจากปีที่แล้วที่หลุดโผไป ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ David Chen อดีตเศรษฐีพันล้านผู้ร่วมก่อตั้ง Sea ที่ทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซและบริษัทผลิตเกม ซึ่งราคาหุ้นร่วงลงไปแรงหลังจากที่ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ออกมาน่าผิดหวัง ส่วนผู้ร่วมก่อตั้ง Sea อีก 2 รายคือ Forrest Li และ Gang Ye ยังติดอยู่ในทำเนียบปีนี้ แต่มูลค่าทรัพย์สินของทั้งสองลดลงมากที่สุดในทำเนียบปีนี้เมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้มูลค่าทรัพย์สินต่ำสุดของรายชื่อในทำเนียบปีนี้ของเราอยู่ที่ 750 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจาก 705 ล้านเหรียญ

รายงานโดย Jonathan Burgos, Grace Chung, Gloria Haraito, Anuradha Raghunathan, Yessar Rosendar, Jessica Tan, Giacomo Tognini และ Yue Wang

เรื่อง: NAAZNEEN KARMALI และ JANE HO เรียบเรียง: พิษณุ พรหมจรรยา และ รัน-รัน



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Syed Azman Syed Ibrahim พา Weststar Group บินขึ้นเหนือขอบฟ้า

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2566 ในรูปแบบ e-magazine