Bahubali ภาพยนตร์ที่มีต้นทุนการสร้างสูงที่สุด จากบริษัทผู้ผลิตเล็กๆ ในอินเดีย - Forbes Thailand

Bahubali ภาพยนตร์ที่มีต้นทุนการสร้างสูงที่สุด จากบริษัทผู้ผลิตเล็กๆ ในอินเดีย

FORBES THAILAND / ADMIN
15 Dec 2017 | 04:42 PM
READ 11958

บริษัทผู้ผลิตผลงานจอแก้ว กำลังเขย่าวงการจอเงินของประเทศอินเดียด้วยภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Bahubali

Bahubali ภาพยนตร์ที่มีต้นทุนการสร้างสูงที่สุดในอินเดียนั้น ทำอะไรต้องเล่นใหญ่ไว้ก่อน ทั้งฉากและสเปเชียลเอฟเฟคต์สุดอลังการจนเป็นที่เลื่องลือในวงการภาพยนตร์แอ็คชั่นตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา แม้จะมีงบประมาณสูงถึง 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่อันที่จริงแล้ว Bahubali เป็นผลงานการสร้างของบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์เล็กๆ ตั้งอยู่ใน Telangana ทางตอนใต้ของอินเดีย Shobu Yarlagadda วัย 46 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งและเจ้าของหุ้น 50%ของ Arka Mediaworks ลงมือสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยแนวคิดง่ายๆ ว่า “Bahubali จะทำให้คุณต้องทึ่งชนิดคิดไม่ถึงกันเลยทีเดียว” Arka Mediaworks ทำได้จริงดังว่า บริษัทแห่งนี้เนรมิตฉากในตำนานขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ในอาณาจักรสมมติ Mahismati โดยเรื่องราวหลักๆ เป็นการเผชิญหน้าระหว่าง 2 ลูกพี่ลูกน้องผู้น่าเกรงขามการลงทุนครั้งนี้สัมฤทธิ์ผล Bahubali: The Conclusion ซึ่งเป็นภาค 2 ของ Bahubali กลายเป็นภาพยนตร์ที่โกยรายได้รวมสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของวงการภาพยนตร์อินเดียด้วย โดย Bahubali เปิดตัวในหลายภาษาพร้อมออกฉายในโรงภาพยนตร์หลายแห่งทั่วโลกไปเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยตลาดต่างประเทศที่ทำเงินได้มากที่สุดคือสหรัฐฯ ซึ่งโกยรายได้เข้ากระเป๋าไปได้ 20 ล้านเหรียญ “เหมือนกับการทำหนัง 7-8 เรื่องในเวลาเดียวกันเลยล่ะ ครับ” Yarlagadda กล่าว เขาเป็นอดีตวิศวกรสิ่งแวดล้อมที่ผันตัวมาเป็นโปรดิวเซอร์ พร้อมบริหาร Arka ร่วมกับ Prasad Devineni ลูกพี่ลูกน้องของภรรยาซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทอีกครึ่งหนึ่งนั่นเองเดิมที ภาพยนตร์ 2 ภาคเรื่องนี้วางงบประมาณเบื้องต้นไว้ที่ 20 ล้านเหรียญ ก่อนจะบานปลายถึง 3 เท่าตัวในช่วงระยะเวลาการสร้างอันยาวนานถึง 5 ปี ความยิ่งใหญ่อลังการของ Bahubali สั่นสะเทือนตลาดภาพยนตร์อินเดีย มูลค่า 2,200 ล้านเหรียญได้อย่างแท้จริง นำโดยนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ยังคิดเป็นต้นทุนสูงถึง 20 ล้านเหรียญ ในแต่ละวันภาพยนตร์ภาค 2 ของ Arka เรื่องนี้จะมีผู้เข้าฉาก 600 คน รวมแล้วถ่ายทำกันนานกว่า 600 วันตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี ขณะที่ Arka เองก็ขยันปล่อยวิดีโอบอกใบ้ว่า บริษัทกำลังผลิตภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เพื่อปลุกกระแสไปพลางๆ อย่างไรก็ตาม เส้นทางในตลาดภาพยนตร์อินเดียไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เฉลี่ยแล้วประเทศแห่งนี้มีโรงภาพยนตร์เพียง 1 แห่งต่อประชากร 96,300 คน เมื่อเปรียบเทียบกับ 7,800 คนในสหรัฐฯ และ 35,000 คนในประเทศจีน ขณะที่ปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ยังระบาดอย่างรุนแรง พร้อมกับระบบภาษีที่ซับซ้อนยิ่งทำให้สถานการณ์ลำบากเข้าไปใหญ่แม้ว่าอินเดียจะสร้างหนังกันเป็นว่าเล่นถึงปีละ 1,500 เรื่อง แต่ใช่ว่าจะทำกำไรกันง่ายๆ แม้กระทั่ง Disney ซึ่งเข้าซื้อ UTV ค่ายหนังในท้องถิ่นเพื่อผลิตภาพยนตร์ภาษาอินเดียยังต้องยอมยุติธุรกิจผลิตหนังในอินเดียหลังประสบความล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง ไม่นับเราสตูดิโออย่าง Fox Star, Viacom 18 และ Eros Arka Mediaworks เป็นบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์เป็นหลัก ก่อตั้งขึ้นในปี 2001 ในแต่ละเดือนบริษัทจะผลิตเนื้อหาป้อนให้กับละครภาษาTelugu กับ Kannada เพื่อออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อหลายปีก่อน Arka เคยทำหนังทุนต่ำาเป็นภาษา Telugu 3 เรื่องก่อนจะกลับมาผลิตละครจนกระทั่งหันมาจับ Bahubali นั่นเอง ในตอนแรก Arka จัดทำคู่มือออกมาเล่มหนึ่งชื่อ “World of Bahubali” โดยอธิบายรายละเอียดของตัวละครทุกตัวพร้อมเรื่องราวของตัวละครทั้งหมดอีกทั้งยังบรรยายอาณาจักร ลำดับชั้นทางสังคม สถานการณ์ทางการเมือง ตลอดจนการแต่งกายและขนบธรรมเนียม ชนเผ่า Kalakeya ที่อ้างถึงในภาพยนตร์นั้นมีภาษาเป็นของตนเองเรียกว่า Kiliki (เหมือนภาษา Klingon ในเรื่อง Star Trek) ซึ่งมีการบัญญัติศัพท์ 750 คำ หลักไวยากรณ์ 40 ข้อ งานสร้างสรรค์ต่างๆ ขยายตัวมาจากที่นี่ Shobu Yarlagadda นั้นไม่มีการทุ่มงบประมาณก้อนโตเพื่อทำการตลาด แต่อาศัยช่องทางโซเชียลมีเดียในการสื่อสารกับแฟนๆ โดย Twitter ของ Bahubali มีผู้ติดตาม 300,000 บัญชี ขณะที่ Facebook มีผู้กดไลค์ถึง 4 ล้านบัญชี นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ตามกิจกรรมต่างๆ แม้ว่า Bahubali จะเป็นเรื่องแต่งแต่ดูเหมือนจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากมหากาพย์อินเดียเรื่อง Mahabharata ตลอดจนเรื่องราวในตำนานจากซีรีส์หนังสือการ์ตูนชื่อดังในอินเดียอย่าง Amar Chitra Katha สำหรับ Bahubali: The Beginning ซึ่งเป็นภาคแรกของ Bahubali นั้น Amarendra Bahubali ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นกษัตริย์ ก่อนจะโดนทาสที่ไว้ใจลอบปลงพระชนม์ ขณะที่ภรรยาของเขาโดนจับขังคุกภาพยนตร์ภาคแรกฝากปริศนาทิ้งท้ายไว้ในตอนจบ เหตุใด Kattapa ผู้เป็นทาสจึงต้องสังหาร Bahubali ใน Bahubali: The Conclusion ซึ่งเป็นภาค 2 นั้น Mahendra Bahubali บุตรชายของ Amarendra Bahubali ปรากฏตัวในอีกหลายปีให้หลังเพื่อช่วยมารดาออกจากคุกสำหรับภาพยนตร์ภาคนี้จะเฉลยเหตุผลและวิธีการที่บิดาของเขาถูกลอบปลงพระชนม์ Bahubali: The Conclusion ผลิตออกมาเป็นภาษาอินเดีย 2 ภาษาคือ Telugu และ Tamil ก่อนจะพากย์เสียงทับ ในเวลานี้มีการทำเวอร์ชั่นภาษาจีนกลางและภาษาญี่ปุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมชาวเอเชียส่วนใหญ่ด้วย นอกจากนี้ Bahubali ยังเป็นผู้ค้นพบเส้นทางใหม่ของการต่อยอดสร้างรายได้จากภาพยนตร์ อาทิ ผลิตซีรีส์ภาพยนตร์การ์ตูนร่วมกับ Amazon และ Colors TV เกมทางโทรศัพท์มือถือ จำหน่ายสินค้าต่างๆ นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการภาพยนตร์อินเดียเลยครับ "หากต้องการขยายกระแสรายได้ออกไปอีก คุณจะต้องประสบความสำเร็จในการฉายภาพยนตร์ในวงกว้างและมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นด้วย” Jehil Thakkar หุ้นส่วนที่ Deloitte ซึ่งทำงานร่วมกับลูกค้าวงการบันเทิงและสื่อสารมวลชนกล่าว สำหรับเป้าหมายต่อไป Bahubali จะจับมือเป็นพันธมิตรกับ AMD เพื่อผลิตภาพยนตร์เสมือนจริง (VR) โดยสามารถรับชมได้ทางตู้ที่ติดตั้งตามห้างสรรพสินค้า
คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม "เขย่าบอลลีวูด" ได้ในรูปแบบ e-Magazine