15 อันดับมหาเศรษฐีฮ่องกง จาก Hong Kong’s 50 Richest - Forbes Thailand

15 อันดับมหาเศรษฐีฮ่องกง จาก Hong Kong’s 50 Richest

FORBES THAILAND / ADMIN
12 May 2017 | 12:19 PM
READ 7886

สำหรับการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีฮ่องกง Hong Kong’s 50 Richest นี้ โดยรวมแล้วสินทรัพย์ความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีฮ่องกงในปีนี้อยู่ในภาวะร่วง มากกว่ารุ่ง โดยจำนวนมหาเศรษฐีที่อันดับความมั่งคั่งลดลงมี 20 คน ในขณะที่จำนวน มหาเศรษฐีที่อันดับความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมีเพียง แค่ 18 คน สำหรับในปีนี้อันดับที่ 19 เป็น ของ Patrick Lee เจ้าพ่อธุรกิจบรรจุภัณฑ์โดยสินทรัพย์ความมั่งคั่งของเขาเติบโตแบบพุ่งกระฉูด (ประมาณร้อยละ 43) จากการขายกิจการ Lee & Man Handbags ในเดือนพฤษภาคม

แม้ว่าความมั่งคั่งสุทธิของมหาเศรษฐีบางคนอยู่ในภาวะทรงตัว แต่อีกหลายคนเพิ่งจะมีชื่อติดอันดับบุคคลร่ำรวยเป็นครั้งแรกในรอบนี้หรือมีชื่อกลับมาติดอันดับใหม่อีกครั้งหลังจากหลุดโผในช่วง เวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้มีผู้ที่มีชื่อติดอันดับเป็นครั้งแรกซึ่งสมควรกล่าวถึง คือ Jean Salata อันดับที่ 43 ชาวชิลีที่เข้ามาอาศัยและทำางานในฮ่องกง เขาเป็นผู้นำทีมผู้บริหารเข้าเจรจาขอซื้อกิจการ Baring Private Equity Asia จากบริษัทแม่ซึ่งเขาสวมหมวกซีอีโอในบริษัทที่เจรจาซื้อกิจการใหม่ได้สำาเร็จดังกล่าว ร่วมติดตาม 15 อันดับเศรษฐีฮ่องกง

อันดับที่1

LI KA-SHING

มูลค่าทรัพย์สิน: 3.03 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจหลายประเภท

อายุ: 88 ปี

อันดับที่2

LEE SHAU KEE

มูลค่าทรัพย์สิน: 2.36 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อายุ: 88 ปี

อันดับที่3

CHENG FAMILY

มูลค่าทรัพย์สิน: 1.79 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจหลายประเภท

แม้ว่า Cheng Yu-tung ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวจะถึงแก่อนิจกรรมในเดือนกันยายนที่ผ่านมาขณะมีอายุ 91 ปี แต่เขาได้วางตัวผู้ที่จะสืบทอดกิจการต่อจากเขาตั้งแต่ปี 2012 โดยเขาได้แต่งตั้งให้ Henry บุตรชายคนโตวัย 70 ปีเป็นประธานกรรมการและกรรมการบริหารของ Chow Tai Fook ซึ่งเป็นธุรกิจค้าอัญมณีและเพชรพลอยของครอบครัว รวมถึงเป็นผู้บริหารอาณาจักรธุรกิจที่ชื่อ New World Development โดย Henry ได้มอบหมายให้บุตรชายของเขาที่ชื่อ Adrian ซึ่งจบการศึกษาจาก Harvard University และมีประสบการณ์ในธุรกิจธนาคารเข้ามาช่วยบริหารงานประจำวันของ New World Development ส่วนบุตรสาวที่ชื่อ Sonia ได้รับมอบหมายให้ดูแลกิจการโรงแรมในเครือ Rosewood เพื่อขยายธุรกิจการให้บริการไปสู่ระดับโลก ส่วน Peter น้องชายของ Henry ถูกวางตัวให้บริหารกิจการ New World China Land ซึ่ง Cheng ผู้เป็นบิดาได้ทุ่มเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวที่ประเทศจีนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1.6 หมื่นล้านเหรียญ

อันดับที่4

JOSEPH LAU

มูลค่าทรัพย์สิน: 1.55 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

อายุ: 65 ปี

อันดับที่5

THOMAS และ RAYMOND KWOK

มูลค่าทรัพย์สิน: 1.44 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

อายุ: 65, 63 ปี

อันดับที่6

LUI CHE WOO

มูลค่าทรัพย์สิน: 1.12 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจคาสิโน

อายุ: 87 ปี

Lui Che Woo ยังจำได้ดีถึงกลิ่นสาบที่ลอยขึ้นมาจากกองซากศพที่นอนเรียงรายเกลื่อนถนนในเหตุการณ์ที่กองกำลังทหารญี่ปุ่นบุกเข้ายึดเกาะฮ่องกงเมื่อประมาณ 75 ปีก่อน เหตุการณ์ดังกล่าวมีส่วนดึงเขาให้หันมาสนใจการให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จนเป็นที่มาของการให้รางวัล Lui Che Woo Prize for World Civilization

Lui วัย 87 ปี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการของ Galaxy Entertainment Group ผู้ประกอบธุรกิจคาสิโนในเกาะ Macau รวมถึงติดอันดับ 6 ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของฮ่องกง เขาเริ่มมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น เขาก่อร่างสร้างตัวจากธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้างก่อนที่จะผันตัวเข้าสู่แวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจงานบริการภายใต้อาณาจักรธุรกิจที่ชื่อ K Wah Group โดยส่วนใหญ่เขาจะเน้นการบริจาคยารักษาโรคและการส่งเสริมการศึกษา จนกระทั่งในปี 2015 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 60 ปีของการก่อตั้งบริษัท K Wah เขาได้บริจาคหุ้นของบริษัทคิดเป็นมูลค่า 1.2 พันล้านเหรียญให้แก่มูลนิธิ Lui Che Woo Foundation และกองทุนรางวัล Lui Che Woo Prize

อันดับที่7

PETER WOO

มูลค่าทรัพย์สิน: 9.8 พันล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

อายุ: 70 ปี

Peter Woo มีสินทรัพย์ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากราคาหุ้นในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของเขาที่ชื่อ Wheelock & Co เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ในปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกำไรสุทธิที่แข็งแกร่ง การได้งานโครงการใหญ่ และความต้องการสินค้าอย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีน

อันดับที่8

YEUNG KIN-MAN  และ LAM WAI YING

มูลค่าทรัพย์สิน: 8.3 พันล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์

YEUNG KIN-MAN  (ในภาพ) สองในสามของโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone ใช้หน้าจอกระจกที่ผลิตโดยบริษัท Biel Crystal Manufactory ในประเทศจีน โดย Yeung Kin-man และ Lam Wai Ying สองสามีภรรยาชาวฮ่องกงรายนี้เป็นเจ้าของบริษัทดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว โดยมีสินทรัพย์รวมกันประมาณ 8.3 พันล้านเหรียญ

ทั้งคู่ได้ปลุกปั้นบริษัทแห่งนี้จนติดอันดับบริษัทผู้ผลิตหน้าจอกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยแผ่นกระจกที่ผลิตโดยบริษัทจะถูกนำไปใช้เป็นวัสดุหน้าจอของโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต นาฬิกาข้อมือ และอุปกรณ์ออพติคัลต่างๆ ลูกค้าของบริษัทไม่ได้มีแค่บริษัท Apple แต่ยังมีบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออย่าง Samsung และ Sony

นอกจากนี้ บริษัทยังมีบริษัทย่อยในไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจาบริษัทเล็งเห็นว่าสินค้าหน้าจอแซฟไฟร์จะเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นโดยดูจากยอดสั่งซื้อของบริษัท Apple ในปัจจุบัน บริษัทจึงตัดสินใจร่วมทุนกับ Roshow Technology  ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตหน้าจอ LED สัญชาติจีนในปี 2014 เพื่อผลิตหน้าจอคริสตัลและแซฟไฟร์ป้อนตลาด โดยบริษัทจะถือหุ้นในกิจการร่วมค้าแห่งใหม่ดังกล่าวในสัดส่วนร้อยละ 60

อันดับที่9

WALTER KWOK

มูลค่าทรัพย์สิน: 7 พันล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

อายุ: 66 ปี

อันดับที่10

MICHAEL KADOORIE

มูลค่าทรัพย์สิน: 6.5 พันล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจพลังงาน

อายุ: 75 ปี

 

อันดับที่11

FRANCIS CHOI

มูลค่าทรัพย์สิน: 5.9 พันล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจผลิตของเล่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

อายุ: 69 ปี

 

อันดับที่12

JOSEPH TSAI

มูลค่าทรัพย์สิน: 5.4 พันล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ

อายุ: 52 ปี

อันดับที่13

LAW KAR PO

มูลค่าทรัพย์สิน: 5.3 พันล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

อายุ: 68 ปี

อันดับที่14

POLLYANNA CHU

มูลค่าทรัพย์สิน: 4.8 พันล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจการเงิน

อายุ: 58 ปี

เธอได้ชื่อว่าเป็นนักเจรจาการค้า ผู้ประกอบการ และอภิมหาเศรษฐีที่โดดเด่นที่สุดของฮ่องกง ภูมิหลังชีวิตที่เพียบพร้อมของเธอสามารถกรุยทางให้เธอเดินเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมและบ่อนคาสิโนของครอบครัวได้อย่างไม่ยากเย็น แต่เธอกลับเลือกที่จะวัดดวงทางธุรกิจกับการเติบโตของตลาดทุนในภูมิภาคโดยการเปิดบริษัทที่ชื่อ Kingston Financial Group ในปี 1992 สินทรัพย์ความมั่งคั่งของเธอเพิ่มขึ้น 3 เท่าเป็น 4.8 พันล้านเหรียญในช่วงเวลาสองปีเศษที่ผ่านมา ปัจจุบัน Chu วัย 58 ปี มีชื่อติดอันดับที่ 14 ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของฮ่องกง โดยในปีก่อนเธอมีชื่อติดอันดับที่ 42 ของทำเนียบ “100 สตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกแห่งปี” ของนิตยสาร Forbes

อันดับที่15

RICHARD LI

มูลค่าทรัพย์สิน: 4.4 พันล้านเหรียญ

แหล่งรายได้: ธุรกิจโทรคมนาคม สื่อสาร และประกันชีวิต

อายุ: 50 ปี

เขาเริ่มต้นจากอาณาจักรธุรกิจโทรคมนาคมและการสื่อสารที่ชื่อ PCCW ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในฮ่องกง และกำลังปูพรมเพื่อขยายธุรกิจประกันในภูมิภาคเอเชีย โดย Li ไม่เพียงแต่เป็นบุตรชายคนเล็กของ Li Ka-shing มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของฮ่องกง แต่เขายังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของ Pacific Century Group ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทประกันชีวิตที่ชื่อ FWD โดยบริษัทประกันชีวิตดังกล่าวก่อตั้งขึ้นในปี 2013 เพื่อประกอบธุรกิจประกันชีวิตในฮ่องกงและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศแผนที่จะบุกตลาดประเทศญี่ปุ่นหากข้อตกลงการเจรจาซื้อกิจการบริษัท Fuji Life Insurance กับ AIG บรรลุผลสำเร็จ โดยในระหว่างนี้ PCCW ได้เปิดตัวรายการโทรทัศน์ภาคภาษาจีนที่มีชื่อว่า ViuTV ในฮ่องกงเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่วนช่องรายการภาษาอังกฤษกำลังจะเปิดตัวเพิ่มในปีนี้


คลิกอ่านฉบับเต็ม "Hong Kong

s 50 Richest" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ เมษายน 2560 ในรูปแบบ e-Magazine