ร่องรอยสงครามแห่งความโหดร้ายในสมัยปี 1944 กำลังถูกแทนที่ด้วยการเข้ามาของนักพนันชาวจีนที่แผ่นดินใหญ่ของตนไม่อนุญาตให้เล่น รัฐบาลจีนถึงกับร้อนๆ หนาวๆ เมื่อเซียนพนันระดับ VIP จากจีนแผ่นดินใหญ่หลั่งไหลไปเล่นพนันที่บ่อนคาสิโนของเศรษฐินีชาวฮ่องกงที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งอยู่ในอาณาเขตของสหรัฐอเมริกา
ในขณะที่เศรษฐินีชาวฮ่องกงกับลูกชายกำลังเร่งสร้างโรงแรมพ่วงคาสิโนขนาดมหึมาติดชายหาดบนเกาะ Saipan ดินแดนซึ่งเป็นที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหรัฐอเมริกา เหล่าเซียนพนันจากแดนมังกรจึงจำเป็นต้องใช้บริการของคาสิโนชั่วคราวของสองแม่ลูกที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าข้างเคียงไปพลางๆ คาสิโนกลางมหาสมุทรแห่งนี้ รายงานว่าในปีที่แล้ว มีรายได้จากการชนะเดิมพันผู้เล่นกระเป๋าหนักรวมถึง 3.24 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ จากโต๊ะพนันสำหรับ VIP แค่ 16 โต๊ะซึ่งถือเป็นรายได้ที่สูงกว่าที่คาสิโนยักษ์ใหญ่อย่าง Venetian Macao ทำได้ถึง 3.5 พันล้านเหรียญ ทั้งๆ ที่ Venetian Macao มีจำนวนโต๊ะ VIP มากถึงกว่า 100 โต๊ะ และก็ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นศูนย์กลางของแหล่งคาสิโนชื่อดังซึ่งเป็นที่หมายของนักเสี่ยงโชคจากทั่วโลก โดยคาสิโนใน Saipan แห่งนี้ รายงานว่าในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว มีเม็ดเงินเข้ามาเล่นพนันที่บ่อนสูงถึง 1.16 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งสูงกว่าของ Venetian Macao ซึ่งอยู่ที่ 6.9 พันล้านเหรียญเท่านั้น ข้อมูลจาก Imperial Pacific ซึ่งเป็นเจ้าของคาสิโนแห่งนี้ ระบุว่ามีนักพนันระดับ VIP มาเล่นที่คาสิโนใน Saipan เป็นประจำเดือนละประมาณ 100 คน ซึ่งแต่ละคนจะนำเงินมาเล่นเฉลี่ยคนละ 27 ล้านเหรียญ ในเรื่องนี้ Andrew Klebanow ซึ่งเป็น Senior Partner ของ Global Market Advisors บอกว่า “Saipan ได้อานิสงส์จากการที่รัฐบาลกลางของจีนเดินหน้าปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันทางการเมือง และการใช้จ่ายที่ฟุ้งเฟ้อจนผิดสังเกต” และเขายังเสริมอีกว่า “ธุรกิจส่วนใหญ่ (ของคาสิโนใน Saipan) มาจากนักพนันระดับ VIP ซึ่งเคยไปเล่นที่มาเก๊ามาก่อน” มีหลายเหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่ชอบมาเล่นพนันที่คาสิโนใน Saipan เพราะที่ประเทศจีนมีกฎหมายห้ามตั้งบ่อนคาสิโน ในขณะที่เกาะ Saipan แม้จะถือเป็นอาณาเขตของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ชาวจีนสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งเป็นผลพวงมาจากเหตุผลทางเศรษฐกิจในอดีต เที่ยวบินตรงจาก Shanghai มา Saipan ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมงกับอีก 20 นาที ในขณะที่เที่ยวบินตรงจาก Beijing ใช้เวลาบินถึง 5 ชั่วโมงกับอีก 40 นาที ถึงแม้ว่าชาว Saipan เองจะไม่ได้อยากให้มีคาสิโนมาตั้งบนเกาะแห่งนี้ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มา Saipan ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 45,451 คนในปีงบประมาณ 2011 เป็น 205,539 ในปีงบประมาณ 2016 (สิ้นสุดเดือนกันยายน 2016) ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมก็เพิ่มขึ้นในสัดส่วนพอๆ กันเป็น 501,179 คน Cui Lijie เศรษฐินีชาวฮ่องกงผู้ถือหุ้นใหญ่ คาสิโนที่ Saipan เป็นของ Imperial Pacific International Holdings ซึ่งมี Cui Lijie เศรษฐินีชาวฮ่องกงถือหุ้นอยู่ถึงสองในสาม โดยมี Best Sunshine International ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Imperial Pacific ทำหน้าที่ดำเนินกิจการคาสิโนที่ Saipan แม้ว่าในปัจจุบันคาสิโนแห่งนี้จะยังไม่มีห้องพัก และมีแค่โต๊ะพนัน 48 โต๊ะ กับ slot machine อีกแค่ 144 เครื่อง แต่ว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2015 เป็นต้นมา Best Sunshine ก็ได้เริ่มเชิญให้นักพนันระดับ VIP เข้ามาเล่น ทั้งนี้ เพื่อแลกกับใบอนุญาตในการประกอบกิจการคาสิโนโดยไร้คู่แข่งบนเกาะ Saipan เป็นเวลา 40 ปี บวกกับสิทธิ์ในการเปิดให้บริการคาสิโนกี่แห่งก็ได้โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนเครื่อง slot machine หรือโต๊ะพนัน Imperial Pacific ต้องจ่ายเงินค่าใบอนุญาต 30 ล้านเหรียญในปีที่ 1 และปีที่ 5 ที่เปิดดำเนินการ บวกกับค่าธรรมเนียมรายปีอีกปีละ 15 ล้านเหรียญ (แทนที่จะเป็นการเก็บภาษีรายได้จากการพนัน) อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นเดือนนี้ บริษัทได้ออกหุ้นกู้วงเงิน 70 ล้านเหรียญ ที่อัตราดอกเบี้ย 8.5% เพื่อระดมทุนมาทำคาสิโนให้เสร็จ และก็ขายหุ้นกู้อีก 100 ล้านเหรียญให้กับ Cui ที่อัตราดอกเบี้ย 7.8% เพื่อให้การก่อสร้างโรงแรมเดินหน้าต่อไปได้ ทั้ง Fitch และ Moody’s จัดอันดับหุ้นกู้ของ Imperial Pacific ต่ำกว่าระดับที่น่าลงทุน (investment grade) ถึงหกขั้น Saipan Best Sunshine กำลังจะเปลี่ยนซีอีโอใหม่เนื่องจาก Mark Brown ซึ่งรับหน้าที่ประธานบริษัทและซีอีโอมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2014 กำลังจะถูกโปรโมทขึ้นไปเป็น Chairman ของ Imperial Pacific ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ เขาเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้โครงการคาสิโนใน Saipan เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ โดยนอกจากเขาจะเปิดคาสิโนชั่วคราวขึ้นมาแล้ว เขายังเริ่มก่อสร้างคาสิโนแห่งใหม่ และต่อรองเพื่อให้ได้สิทธิ์ในการใช้พื้นที่ขนาด 1.6 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้ Imperial Pacific สามารถเข้าลงทุนในโครงการขนาด 7 พันล้านเหรียญที่ Saipan ได้ตามสัญญาที่ทำไว้กับรัฐบาล Brown บอกว่า Donald Trump เป็น mentor ของเขาในแง่ของการทำงาน ซึ่งเขาได้ผ่านงานบริหารคาสิโนมาอย่างโชกโชนทั้งคาสิโนที่ Atlantic City ของ Trump ก่อนที่จะไปบริหารคาสิโน Venetian Macao ในช่วงเปิดใหม่ๆ ให้กับ Sheldon Adelson แห่ง Las Vegas Sands นอกจาก Brown แล้ว ทีมบริหารของ Imperial Pacific ก็ยังมี James Woolsey อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสำหรับแคมเปญหาเสียงของ Trump มาร่วมนั่งอยู่ในคณะกรรมการด้วย คนที่ถูกหมายตาว่าจะมารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ของ Best Sunshine ก็คือ Kwong Yiu-ling ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็น Chief Operating Officer (COO) อยู่ เขาเคยทำงานกับ SJM Holdings และ STDM ของ Stanley Ho มาอย่างยาวนานถึง 30 ปี อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่ใหญ่กว่าในกรณีของ Imperial Pacific น่าจะมาจากจีนมากกว่าสหรัฐฯ เพราะนโยบายการปราบปรามคอร์รัปชันของประธานาธิบดี Xi Jinping ได้ขยายไปสู่การควบคุมเม็ดเงินที่ถูกผ่องถ่ายออกไปนอกประเทศด้วย มีการประมาณการว่าในยุคบ่อนรุ่งเรืองเมื่อปี 2013 มีเงินมากถึง 1 ล้านล้านเหรียญที่เล็ดรอดออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ผ่านโต๊ะพนันของ VIP ในบ่อนคาสิโนที่มาเก๊า ด้านชาว Saipan เองไม่ได้อยากให้มีการตั้งบ่อนคาสิโนขึ้นบนเกาะของพวกเขาเลย พวกเขาลงมติคัดค้านการออกกฎหมายให้สามารถเปิดบ่อนคาสิโนได้ในการทำประชามติถึงสองครั้ง ก่อนที่ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกอนุมัติในปี 2014 โดยไม่ผ่านการทำประชาพิจารณ์ Ralph Torres ซึ่งดำรงตำแหน่ง Governor ของ Commonwealth ยืนยันอย่างมั่นใจว่ารัฐบาลตัดสินใจมาถูกทางแล้ว เขาให้สัมภาษณ์กับ Forbes Asia ว่าการออกกฎหมายฉบับนี้ “จะช่วยปูรากฐานทางเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้น และระยะยาวให้กับ Commonwealth ในฐานะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในแถบ Micronesia” และเขายังบอกอีกว่า “ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากแต่คุณภาพชีวิตของพวกเราดีขึ้นแน่นอนในขณะที่การพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ก็กำลังเร่งตัวขึ้นเรื่อยๆ” จริงๆ แล้วมันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ แต่ที่แน่ๆ มันคือเดิมพันครั้งใหญ่ของ Saipan เลยทีเดียวคลิกอ่าน "เดิมพัน Saipan" ฉบับเต็ม ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ มิถุนายน 2560 ในรูปแบบ e-Magazine