'ราชาแห่งเกมบนมือถือ' IGG เปิดศึกชิงเจ้ายุทธจักรนักพัฒนาเกมในสิงคโปร์ - Forbes Thailand

'ราชาแห่งเกมบนมือถือ' IGG เปิดศึกชิงเจ้ายุทธจักรนักพัฒนาเกมในสิงคโปร์

FORBES THAILAND / ADMIN
12 Oct 2018 | 10:49 AM
READ 13416

ราชาแห่งเกมบนมือถือ IGG เปิดศึกชิงเจ้ายุทธจักรนักพัฒนาเกมในสิงคโปร์ใน Fuzhou หรือทุกแห่งหนบนโลกใบนี้

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 ตลาดเกมบนโทรศัพท์มือถือซึ่งมีมูลค่าถึง 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ กำลังเฟื่องฟูสุดๆ ใน Silicon Valley หากแต่บริษัทเกมในสิงคโปร์อย่าง IGG (I Got Games) ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกมบนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป เบราว์เซอร์ และ Facebook กลับไม่ได้ มองว่านี่เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนแต่อย่างใด Kevin (Yuan) Xu ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ IGG ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ใน Silicon Valley รู้สึกไม่พอใจเมื่อได้เห็นความล้าหลังดังกล่าวจึงได้เชิญผู้ก่อตั้ง IGG อย่าง Zongjian Cai และผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 คน รวมถึงนักลงทุนรายสำคัญๆ ร่วมประชุมที่ศูนย์กลางการพัฒนาเกมของบริษัทใน Fuzhou ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน
Kevin (Yuan) Xu ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ IGG
“ผมต้องการให้บริษัทเปลี่ยนมาพัฒนาเกมบนโทรศัพท์มือถือเต็มตัว โน้มน้าวพวกเขาตลอดการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 2 วันเต็มๆ ว่ามีโอกาสทองรอพวกเราอยู่ข้างหน้า ถ้าเราคว้าโอกาสนั้นมาได้สำเร็จ เราจะเติบโตเป็นบริษัทมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ” Xu วัย 43 ปี ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าจาก University of Santa Cruz กล่าว Cai ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานบริษัท IGG ผู้รักสันโดษ วัย 40 ปี จาก Fuzhou ซึ่งถือครองหุ้น 14% (มากที่สุดในบรรดาผู้ร่วมก่อตั้งทั้งหมด) เห็นด้วยกับกลยุทธ์ของ Xu ในทันที IGG จึงผันตัวมาพัฒนาเกมบนโทรศัพท์มือถืออย่างเต็มรูปแบบ นักพัฒนาเกมราว 200 คนของบริษัทในเวลานั้นได้รับการอบรมใหม่ พวกเขาทำงานกันจนแทบไม่มีเวลาหยุดพักถึงวันละ 14 ชั่วโมงเพื่อรังสรรค์เกมเชิงกลยุทธ์บนโทรศัพท์มือถือเกมแรกของ IGG อย่าง Castle Clash ซึ่งผู้เล่นจะต้องป้องกันป้อมปราการให้พ้นจากการโจมตี เกมนี้ทำเงินได้หลายล้านเหรียญในปีแรกในปี 2016 IGG เปิดตัว Lords Mobile ซึ่งเป็นเกมกลยุทธ์เกี่ยวกับการทำสงครามที่ได้รับความนิยมมาก ปัจจุบันเกมนี้สร้างรายได้ให้บริษัทถึง 58 ล้านเหรียญต่อเดือนรายได้ซึ่งหลักๆ มาจากการซื้อขายในเกมเพิ่มขึ้นจาก 322 ล้านเหรียญในปี 2016 เป็น 607 ล้านเหรียญ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2017 ส่วนกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 72 ล้านเหรียญเป็น 156 ล้านเหรียญ ในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ IGG ยังมีเงินสดอิสระถึง 222 ล้านเหรียญ ผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมทำให้บริษัทติดทำเนียบสุดยอดบริษัทมูลค่าต่ำกว่า 1 พันล้านเหรียญที่จัดทำโดย Forbes Asia เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยเป็น 1 ใน 6 บริษัทพัฒนาเกมที่ได้รับเกียรติดังกล่าวในปี 2018 ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากสำหรับบริษัท (ซึ่งมีมาร์เก็ตแคป) มูลค่า 1.8 พันล้านเหรียญแห่งนี้ เนื่องจากคาดการณ์กันว่าตลาดเกมบนโทรศัพท์มือถือจะเติบโตจาก 5.6 หมื่นล้านเหรียญในปี 2017 เป็น 7 หมื่นล้านเหรียญในปี 2018 และเป็น 1.06 แสนล้านเหรียญในปี 2021 ตลาดเกมบนโทรศัพท์มือถือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าคิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของตลาดเกมบนโทรศัพท์มือถือทั่วโลก โดยมีจีนและญี่ปุ่นเป็นตลาดที่มีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ “เห็นได้ชัดว่าจำนวนประชากรในภูมิภาคนี้มีสัดส่วนที่มากกว่าประชากรในภูมิภาคอื่นๆ อย่างมาก แต่การที่ตลาดเกมบนโทรศัพท์มือถือในภูมิภาคนี้เติบโตมากก็ยังเป็นเพราะความแพร่หลายของโครงสร้างพื้นฐานของสมาร์ทโฟนและโทรศัพท์มือถือสำหรับผู้บริโภคจำนวนมากในภูมิภาคนี้สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์แรกและอุปกรณ์เดียวสำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตและเล่นเกม” Tom Wijman นักวิจัยตลาดจาก Newzoo ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดเกม เกมบนโทรศัพท์มือถือ และอี-สปอร์ตกล่าว สำหรับ IGG ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็เป็นตลาดสำคัญด้วยเช่นเดียวกัน โดยมีมูลค่าคิดเป็น 49% ของยอดขายของบริษัทในปี 2017 IGG ซึ่งจับตลาดเกมเชิงกลยุทธ์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และมองว่านอกจากสหรัฐฯ แล้ว จีน เวียดนาม และอินโดนีเซียก็เป็นตลาดหลักๆ สำหรับเกมที่เป็นตัวทำเงินของบริษัทอย่าง Lords Mobile อย่างไรก็ตาม ถ้าวัดจากรายได้จากการพัฒนาเกมแล้ว IGG ติดเพียงอันดับที่ 20 ในภูมิภาคนี้ เพราะต้องแข่งขันอย่างหนักกับผู้เล่นรายใหญ่ยักษ์อย่างเช่น Bandai Namco, Mixi, Konami, Square Enix, Gung Ho และ CyberAgent จากญี่ปุ่น etEase และ Tencent จากจีนรวมถึง Netmarble และ NCSoft จากเกาหลีใต้ IGG ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 โดย Cai, Xu, Hong Zhang (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี) และ Yuan Chi (กรรมการบริษัทซึ่งไม่ได้เป็นผู้บริหาร) ตัดสินใจตั้งสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ในปี 2009
ออฟฟิศของ IGG ในสิงคโปร์
เนื่องจากได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีนิติบุคคลจากรัฐบาล นอกจากนี้ เมื่อ IGG ระดมทุนรอบ 2 Vertex ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของบริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์อย่าง Temasek ก็ได้ถือครองหุ้นส่วนหนึ่งในบริษัทด้วย (ปัจจุบัน Vertex ไม่ได้ถือหุ้นใน IGG แล้ว) IGG มีพนักงาน 100 คนในสิงคโปร์โดย 30 คนสังกัดฝ่ายพัฒนาเกม และทำงานร่วมกับนักพัฒนาเกมอีกกว่า 750 คนทั่วโลก จีนเป็นประเทศที่มีจำนวนนักพัฒนาเกมมากที่สุดถึง 400 คน ทีมงานในสิงคโปร์ทำงานสอดประสานกันกับทีมงานในจีนโดยผ่านการประชุมทางไกลหรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ นักพัฒนาเกมจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ถ้าหากว่าเกมทำเงินได้มาก (ถือเป็นเงินรางวัลพิเศษที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ สำหรับอุตสาหกรรมที่ผู้เล่นเกมมีอัตราการตีจากสูงถึง 40%) IGG วางแผนเปิดตัวเกมใหม่อีก 8 เกมภายในปีนี้ ซึ่งทิ้งช่วงห่างไม่นานนักหลังการเปิดตัวเกม Sweet Maker ซึ่งเป็นเกมประเภทเดียวกันกับเกม Candy Crush ที่ได้รับความนิยมมากของ Activision Blizard จากสหรัฐฯ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา Cai ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญว่าใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมงต่อวันไปกับการเล่นเกมนั้นเป็นผู้ควบคุมดูแลนักพัฒนาเกมซึ่งประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ IGG ยังหมั่นพัฒนาความสัมพันธ์ระยะยาวกับ Google, Apple, Microsoft และ Amazon ทั้งยังพยายามเพิ่มความน่าสนใจให้กับเกมของตนโดยผ่านการเปิดตัวทั่วโลก รวมถึงได้เชิญชวนนักประพันธ์เพลงจาก Hollywood อย่าง Klaus Bedelt (จาก Pirates of the Caribbean อันโด่งดัง) และ London Symphony Orchestra ให้มาร่วมสร้างสรรค์เพลงประกอบเกม Lords Mobile อย่างไรก็ดี IGG ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมาก เนื่องจากบริษัทหลายพันแห่งและนักพัฒนาเกมหลายพันคนต่างพากันผลิตเกมออกมาเกลื่อนตลาดเหมือนดังเช่นที่ Wijman จาก Newzoo กล่าวไว้ว่า “ทุกวันนี้ เกมมีความสมจริงมากขึ้น มีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น และมีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม”
อ่านบทความทางด้านธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับกันยายน 2561 ได้ในรูปแบบ e-Magazine