Adani Airport Holdings Ltd. (AAHL) ของมหาเศรษฐี Gautam Adani ได้รับการอนุมัติให้เข้าบริการกิจการท่าอากาศยานนานาชาติ Chhatrapati Shivaji Maharaj International Airport ในมุมไบ ซึ่งเป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ
AAHL ได้ลงนามในข้อตกลงกับ
GVK Group ซึ่งตั้งอยู่ใน Hyderabad เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 เพื่อเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 50.5 ใน
Mumbai International Airport Ltd. (MIAL) ผู้สร้างและบริหารสนามบินมุมไบมาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ AAHL ได้เข้าซื้อหุ้นอีกร้อยละ 23.5 คิดเป็นมูลค่า 1.685 หมื่นล้านรูปี (225 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) จากหุ้นส่วนต่างชาติ 2 รายในบริษัท ได้แก่ Airport Company of South Africa และ Bidvest ซึ่งทำให้มีส่วนในการถือหุ้นสูงถึงร้อยละ 74 ขณะที่การท่าอากาศยานของอินเดียที่รัฐบาลเป็นเจ้าของถือครองส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 26
AAHL เป็นบริษัทในเครือของ Adani Enterprises ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในรัฐ Gujarat มีความสนใจในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ บริการขุดเหมืองแร่ การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ถนน บริการสนามบิน และศูนย์ข้อมูล
นอกจากนี้ การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวยังทำให้ Adani ถือหุ้นร้อยละ 74 ใน Navi Mumbai International Airport ว่าที่สนามบินแห่งที่ 2 สำหรับเมืองหลวงทางการค้าของอินเดีย ที่มีมูลค่าราว 2.2 พันล้านเหรียญ โดย Navi Mumbai จะเริ่มเปิดให้บริการในปี 2023 และคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยภายในปี 2031
ปัจจุบัน
Mumbai International Airport เป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ทั้งในด้านผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า รองจาก Delhi International Airport ซึ่งบริหารโดย GMR กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ทั้งนี้ เว็บไซต์ ของ Airports Authority of India ณ เดือนพฤษภาคม 2021 ระบุว่า Mumbai International Airport สามารถรองรับผู้โดยสาร 434,680 คน - 380,495 คนในประเทศและ 54,185 คนระหว่างประเทศ หรือร้อยละ 9.8 ของปริมาณผู้โดยสารทางอากาศทั้งหมดในประเทศ
มากกว่านั้น สนามบินยังสามารถรองรับร้อยละ 9.5 ของการเคลื่อนไหวของเครื่องบินทั้งหมดในเดือนเดียวกัน ขณะที่อีกราวร้อยละ 26 ของการขนส่งทางอากาศทั้งหมดในประเทศผ่านสนามบินในช่วงเวลาเดียวกันได้
ทั้งนี้ ก่อนเกิดโรคระบาดในเดือนพฤษภาคม 2019 MIAL สามารถรองรับร้อยละ 13.5 ของปริมาณผู้โดยสารทั้งหมด ขณะที่อีกร้อยละ 11.5 เป็นการเคลื่อนไหวของเครื่องบินทั้งหมด และร้อยละ 26.7 ของการขนส่งทางอากาศทั้งหมด ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่การสัญจรบนเที่ยวบินปกติยังไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ที่สนามบินหลายแห่งในประเทศเนื่องจากการล็อกดาวน์ช่วงวิกฤตโรคระบาด
ต่อจากนี้ Adani Group จะต้องระดมทุน 1-1.5 พันล้านเหรียญ เพื่อชำระหนี้สะสมของ Mumbai International Airport Ltd. (MIAL) และเริ่มบริหารงานที่ Navi Mumbai International Airport เนื่องจาก GVK Group ไม่สามารถชำระหนี้ให้กับธุรกิจสนามบินได้ จึงต้องขายหุ้นในส่วนนี้ออกไป
ก่อนหน้านี้ AAHL ชนะการประมูลเพื่อปรับปรุงและบริหารสนามบินขนาดเล็ก 6 แห่งในประเทศ ได้แก่ Ahmedabad, Lucknow, Mangaluru, Jaipur, Guwahati และ Thiruvananthapuram เป็นเวลา 50 ปี ซึ่งจะทำให้กลุ่มบริษัทสามารถประกอบธุรกิจสนามบินในทุกภูมิภาคของประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการบินกล่าวว่า Adani Group ไม่น่าจะเผชิญปัญหาในการระดมทุนสำหรับ MIAL เนื่องจากสามารถค้ำประกันหนี้ได้ แต่อาจจะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากกลุ่มบริษัทมีหนี้สินจำนวนมาก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 4.60 แสนล้านรูปี เป็นเหตุให้มีธนาคารเพียงไม่กี่แห่งที่ยินที่จะให้ยืมเงินทุนจำนวนมหาศาล
เป็นไปได้ว่า Adani Group กำลังอยู่ระหว่างการเดิมพันในระยะยาว แต่จะต้องเอาชนะความท้าทายที่สำคัญในระยะสั้นและระยะกลาง ท่ามกลางความหวังในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่จะมีส่วนในการกระตุ้นการสัญจรทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางระหว่างประเทศ
เนื่องจากการเดินทางระหว่างประเทศจะส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น ทั้งจากการดำเนินการเที่ยวบินและนอกภาคการบิน รวมทั้งจากผู้รับสัมปทาน
ทั้งนี้ แถลงการณ์ที่ออกเมื่อวันอังคารโดย AAHL ระบุว่า การเข้าซื้อหุ้นใน MIAL ทำให้บริษัทมีโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของการเดินทางที่สนามบินทั้งหมด และ 1 ใน 3 ของการขนส่งสินค้าทางอากาศของอินเดีย
โดย AAHL คาดว่าจะสามารถให้บริการแก่ฐานผู้บริโภคที่แข็งแกร่งหลังเกิดโรคระบาดราว 300 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วยนักบินและคนที่ไม่ใช่นักบิน
Gautam Adani ประธาน Adani Group กล่าวในแถลงการณ์ว่า เป้าหมายของกลุ่มบริษัท คือ การสร้างสนามบินขึ้นมาใหม่ในฐานะระบบนิเวศที่ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น
“กลยุทธ์การขยายสนามบินของเรามีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยหลอมรวมเมืองระดับ Tier 1 ของประเทศของเราเข้ากับเมือง Tier 2 และ Tier 3 ในรูปแบบศูนย์กลาง ซึ่งผมเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจรอบสนามบิน พร้อมๆ กับเมืองในอนาคตที่จะถูกสร้างขึ้นโดยมีสนามบินเป็นจุดศูนย์กลาง” เขากล่าวในแถลงการณ์
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบางคนแสดงความกังวลว่า ผู้ให้บริการ 1 รายที่บริหารจัดการสนามบินจำนวนมากอาจนำไปสู่การรวมศูนย์อำนาจและเบียดเบียนผู้เล่นรายอื่นๆ ในระยะยาว
แปลและเรียบเรียงจากบทความ India’s Second-Richest Man Is Now The Country’s Largest Airport Operator
โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม:
Jeff Bezos บริจาคเงิน 200 ล้านเหรียญ ส่งเสริมการศึกษาด้านอวกาศ ก่อนบินจริง 20 ก.ค.