เซลล์แมนไอทีและเพื่อนพ้องเปลี่ยนงานอดิเรกอย่างการเทรดบิตคอยน์ให้กลายเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์เงินคริปโตที่ร้อนแรงที่สุดในเอเชียได้อย่างไร
กลางคืนวันอังคารอันชื้นแฉะในเดือนมีนาคม ผู้คนราว 200 คนเบียดเสียดกันเข้าไปในบาร์ของโรงแรม Four Seasons ในเมือง San Francisco เพื่อถกประเด็นมาแรงที่สุดในแวดวงการเงินและเทคโนโลยี คือ เงินคริปโต
หนึ่งในสิ่งดึงดูดของงานนี้คือโอกาสในการเข้ามาพบปะสมาคมกับ FBG Capital แห่ง Beijing เจ้าของเรื่องราวความสำเร็จชั่วข้ามคืนล่าสุดในแวดวงเงินคริปโต ชื่อเสียงของ FBG เกิดขึ้นมาจากการเปลี่ยนเงิน 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กลายเป็น 200 ล้านเหรียญใน 1 ปี
แนวทางของ FBG มีเสาหลัก 3 อย่าง หนึ่ง ลงทุนเหมือนนักลงทุนจากบริษัทร่วมลงทุนในการเสนอขายเหรียญครั้งแรก (ไอซีโอ) สอง ซื้อขายตามข่าวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยการเข้าและออกจากการลงทุนในโทเคนหลายตัวอย่างรวดเร็ว และ สาม ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์กับคนวงในและโฆษณาทำการตลาดเพื่อสร้างหลักประกันความสามารถในการทำกำไร
Shuoji Zhou ผู้ก่อตั้ง FBG วัย 36 ปี เติบโตขึ้นในเมือง Yancheng ของจีน เมืองใหญ่ประจำภูมิภาคประชากร 7 ล้านคนในมณฑล Jiangsu อยู่ห่างไม่กี่ชั่วโมงทางเหนือของ Shanghai เขาศึกษาคณิตศาสตร์ประยุกต์ที่ University of Electronic Science & Technology สถาบันระดับกลางในภาคกลางของจีน
หลังจบมหาวิทยาลัย Zhou ทำงานที่ Beijing ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านไอทีให้บริษัท IBM จากนั้นก็ที่ Oracle และในปี 2014 เขาทุ่มเงินเก็บ 10,000 เหรียญไปกับการเทรดบิตคอยน์ ปีต่อมาเขาลาออกจาก Oracle เพื่อมาเทรดเงินคริปโตเต็มเวลา และทำให้เงินก้อนนั้นเพิ่มขึ้นมาเกือบ 100,000 เหรียญ
ระหว่างที่เงินดิจิทัลปรับขึ้นจาก 270 เหรียญไปเป็น 430 เหรียญ หนึ่งในกลเม็ดของ Zhou คือการทำกำไรจากความไร้ประสิทธิภาพตามธรรมชาติของตลาดในช่วงแรกๆ เขามักจะซื้อบิตคอยน์ในตลาดแลกเปลี่ยนหนึ่งมาที่ราคา 300 เหรียญ แล้วขายไปในอีกตลาดหนึ่งที่ราคา 301.50 เหรียญ เก็บเงินเข้ากระเป๋าแบบไม่ต้องเสี่ยงไป 1.50 เหรียญ/เงินดิจิทัล 1 เหรียญ
ในไม่ช้าเขาก็ได้เข้าร่วมกลุ่มนักเทรดชาวจีน ระดมเงินมารวมเป็นกองกลางไว้ด้วยกัน ในช่วงต้นปี 2017 พวกเขาเก็บรวมเงินมาได้ราว 20 ล้านเหรียญ แล้วในปีนั้นเองเมื่อความคลั่งไคล้ไอซีโอเริ่มทะลักท่วมท้น Zhou และเพื่อนนักเทรดของเขาจึงหว่านเงินหลายล้านเข้าไปในโครงการนับสิบ เช่น Tron, Decentraland และ MakerDAO
- อ่านเพิ่มเติม (เด็กสร้าง) แห่งสกุลเงินคริปโต
การลงทุนของบริษัทใน OmiseGO แพลตฟอร์มคริปโตที่อ้างว่าจะให้บริการทางการเงินกับประชากรผู้ไร้ทางเข้าถึงสถาบันการเงิน ก้าวกระโดดขึ้นมา 33 เท่า หลัง FBG ซื้อเหรียญที่ราคา 0.27 ดอลลาร์ซึ่งเป็นการเข้าไปซื้อช่วงแรกกลางปี 2017
บริษัทยังซื้อโทเคนที่ Zilliqa ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มช่วยเร่งระยะเวลาการทำธุรกรรมทางการเงินที่มูลค่าราว 9 ใน 10 ของ 1 เซนต์ต่อ 1 โทเคน ในปีนี้ Zilliqa ซื้อขายที่ราคาสูงถึง 20 เซนต์ ตอนนี้การขายไป 6 เหรียญให้ผลตอบแทน 567%
กลยุทธ์เทรดตามสถานการณ์
“ผมมองว่า FBG เป็นหนึ่งในทีมนักลงทุนที่มีความสามารถมากที่สุดในวงการนี้” Olaf Carlson-Wee หนุ่มคริปโตมหัศจรรย์วัย 29 ปี กล่าว เขาเป็นผู้ก่อตั้ง Polychain Capital กองทุนเงินคริปโตขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการคร่าวๆ 1 พันล้านเหรียญ
- อ่านเพิ่มเติม 10 อันดับมหาเศรษฐีผู้ถือครองเงินดิจิทัลมากที่สุดในโลก
FBG ขึ้นชื่อเรื่องการมองหาโครงการคริปโตมีแววรุ่งในเอเชีย Zhou ระบุว่า การเทรดคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ FBG แต่ในขณะที่ปัจจัยแวดล้อมการเทรดเงินคริปโตมีประสิทธิภาพและความโปร่งใสมากขึ้นนั้น บริษัทได้เปลี่ยนจากการทำกำไรจากส่วนต่างราคาไปเป็นการซื้อขายตามเหตุการณ์ในตลาด
ตัวอย่างเช่น เมื่อ CME Group ประกาศว่าจะเปิดขายสัญญาล่วงหน้าบิตคอยน์เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา Zhou เข้าไปซื้อเพราะคาดว่าราคาบิตคอยน์จะปรับขึ้น แล้วค่อยขายทำกำไร เมื่อมีข่าวว่า Coincheck ตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโตสัญชาติญี่ปุ่นถูกแฮ็กเมื่อต้นปีนี้ เขาก็ขายชอร์ตอย่างรวดเร็ว
ข้อกังขา...สัมพันธ์ลับตลาดเงินคริปโต
แต่ไม่ใช่ว่าทุกกลยุทธ์ของ FBG เปิดเผยตรงไปตรงมาเสียทั้งหมด กลไกขับเคลื่อนการลงทุนหนึ่งที่รู้กันอยู่ในวงแคบซึ่งบรรดาผู้บริหาร FBG ปิดบังอำพรางอยู่คือความสัมพันธ์กับตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโตต่างๆ
Zhou มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโตที่คึกคักมากที่สุด 3 แห่ง ได้แก่ OKEx, Binance และ Huobi ซึ่งแต่ละแห่งดำเนินการเทรดเงินคริปโต 500 ล้านเหรียญไปจนถึงกว่า 1 พันล้านเหรียญต่อวัน ด้วยการใช้สายสัมพันธ์เหล่านี้ FBG ช่วยให้โครงการไอซีโอที่เข้าไปลงทุน เช่น Zilliqa ได้รับการขึ้นทะเบียนซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยน
Zhou กล่าวว่าเขาไม่ได้มี “สิทธิพิเศษ” ใดๆ เพื่อกำกับว่าเหรียญใดได้ขึ้นทะเบียนซื้อขายที่ตลาดไหน เขาทำได้แค่เพียงให้คำแนะนำเท่านั้น และตลาดแลกเปลี่ยนจะไปตัดสินใจเอาเอง ถึงกระนั้น ปัญหาหนึ่งในการจัดแจงดังกล่าวคือไม่มีการเปิดเผยออกมาทั้งหมด ตัวอย่างเช่น Huobi ตลาดแลกเปลี่ยนในสิงคโปร์ มีคณะกรรมการเป็นหุ้นส่วนภายนอกผู้เข้ามาให้คำแนะนำเรื่องการขึ้นทะเบียนเหรียญโทเคน ซึ่งประกาศอยู่บนเว็บไซต์ FBG ก็อยู่ในคณะกรรมการ
การประชาสัมพันธ์โปรโมทการลงทุนเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญลำดับต้นๆ ในรูปแบบธุรกิจของ FBG ในจีน FBG เชื่อมไอซีโอเข้ากับสำนักข่าวที่จ่ายเงินบล็อกเกอร์ให้เขียนรีวิวเชิงบวกเกี่ยวกับเหรียญโทเคน ซึ่งเป็นแนวทางที่ใช้กันทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดในเอเชีย
เมื่อปีที่แล้ว FBG ลงทุนใน Tron แพลตฟอร์มเงินคริปโตที่บอกว่ากำลังสร้าง “ระบบคอนเทนต์ความบันเทิงแบบไม่เสียเงินทั่วโลก ด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน”
Tron ถือกำเนิดขึ้นในจีน และถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างจากข้อกล่าวหาว่าลอกเลียนเอกสารวิจัยจาก Filecoin โปรเจกต์เงินคริปโตอีกแห่งมาโดยตรง แล้วทำไม FBG ถึงเข้าไปลงทุนใน Tron
“เราคิดว่าเขาเป็นนักการตลาดที่ดีมาก” Richard Liu หุ้นส่วน FBG พูดถึง Justin Sun ซีอีโอของ Tron โดย Sun สามารถโปรโมท Tron จนมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.89 หมื่นล้านเหรียญ แม้ปราศจากรายได้สำคัญใด
FBG ยังขึ้นชื่อเรื่องการเข้าไปลงทุนและถอยออกอย่างรวดเร็ว “พวกเขาเป็นพวกซื้อไวขายไว” Yubo Ruan ผู้ก่อตั้ง Palo Alto-based 8 Decimal Capital เฮดจ์ฟันด์คริปโตคู่แข่ง กล่าว “กิตติศัพท์ของพวกเขาคือการปั่นราคาให้สูงแล้วเทขาย”
Liu อดีตนายแบงก์ด้านการลงทุน ผู้เข้าร่วม FBG ในเดือนมิถุนายน 2017 ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างหนักแน่น บริษัทไม่ได้เปิดเผยประวัติการเทรดไอซีโอ และไม่เต็มใจแย้มข้อมูลว่าถือครองตัวไหนอยู่
เมินความเสี่ยงทางกฎหมาย
จนถึงตอนนี้ในปี 2018 บิตคอยน์ร่วงลงมากว่า 50% Liu กล่าวอ้างว่าการเทรดของ FBG ทำกำไรได้ทุกเดือน แม้เขากล่าวด้วยว่า การลงทุนในไอซีโอของบริษัทลดลงราว 30% ในตลาดที่ซบเซาขณะนี้
เช่นเดียวกับนักลงทุนคริปโตส่วนใหญ่ FBG กังวลเรื่องระเบียบกำกับดูแล ความวิตกใหญ่ที่สุดของ Zhou คือการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ อาจบอกว่า “เหรียญโทเคนทั้งหมดนี้ผิดกฎหมาย”
แต่ FBG ไม่สนใจหมอกเมฆทะมึน พุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยการชักจูงนักลงทุนเข้าไปในกองทุนใหม่ Volatility Token Fund ที่จดทะเบียนบนเกาะ Cayman กองทุนระดมเงินได้แล้ว 100 ล้านเหรียญ โดยมีค่าธรรมเนียมที่ “1.5 และ 20”
“เราต้องการเป็นสถาบันมากกว่าจะเป็นแค่กลุ่มคนทำเงิน” Liu กล่าว
เรื่อง: Jeff Kauflin เรียบเรียง: ชูแอตต์
คลิกอ่านบทความฉบับเต็มของ "กลเม็ดนักเทรดเงินคริปโต" ได้จากนิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2561