เปิด 10 อันดับ มหาเศรษฐีไต้หวัน ประจำปี 2018 - Forbes Thailand

เปิด 10 อันดับ มหาเศรษฐีไต้หวัน ประจำปี 2018

ไต้หวันเป็นเกาะที่มีประชากรเพียงเเค่ 23 ล้านคนแต่ติดอันดับยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจโลก โดยในปีนี้เห็นได้ชัดว่าสงครามการค้าระหว่างจีนเเละสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆของชาวเอเชียไม่น้อย Terry Gou เจ้าพ่อเเห่ง Foxconn ขยับขึ้นมาครองเเชมป์มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในไต้หวันได้ในปีนี้ เเต่เป็นที่น่าสนใจว่ามูลค่าทรัพย์สินของเขาลดลงจากปีที่เเล้วถึง 23 % นั่นคือเงินที่หายไปกว่า 2.2 พันล้านเหรียญ ขณะที่บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เจ้าอื่นๆ ก็ล้วนมีรายได้ลดลงเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยคาดว่าเป็นปัจจัยการชะลอตัวต่อเนื่องของเหล่าบริษัทเทคโนโลยีที่ได้รับผลจากการเเข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ เเรงกดดันจากกำเเพงภาษีการค้าจีน-สหรัฐฯ รวมถึงความต้องการอุปกรณ์ดิจิทัลที่ลดลงของตลาดผู้บริโภค Terry Gou เคยขึ้นเเท่นเเชมป์มหาเศรษฐีไต้หวัน ครั้งเเรกเมื่อปี 2010 โดยปี 2017 สองพี่น้อง  Daniel เเละ Richard Tsai แห่งสถาบันการเงิน Fubon Financial ก้าวขึ้นมาที่หนึ่งได้ เเต่ปีนี้ร่วงไปอยู่ที่อันดับ 4 ภายหลังการจัดสรรทรัพย์สินภายในครอบครัวใหม่ ขณะที่ Lin Shu-Hong ผู้ก่อตั้ง Chang Chun Group หนึ่งในบริษัทปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ก้าวขึ้นมาติดอันดับ 6 ได้ในปีนี้ และนี่คือ 10 อันดับแรกของมหาเศรษฐีไต้หวัน ประจำปี 2018 จัดอันดับโดย Forbes   1. TERRY GOU อายุ : 68 ปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 7.3 พันล้านเหรียญ Hon Hai Precision ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ พลิกชีวิตจากหนุ่มโรงงานสู่มหาเศรษฐี อันดับ 1 ของไต้หวัน Terry Gou นั่งเก้าเก้าอี้ประธานบริษัท Hon Hai Precision ผู้ผลิตอุปกรณ์อเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดในโลก มีลูกค้าเป็นบริษัทเทคโลยีชั้นนำต่างๆ รวมถึง Apple เขาได้สร้างเเบรนด์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกก็คือ "Foxconn" ซึ่งมาจากชื่อแบรนด์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ Hon Hai Precision เเละต่อมาได้กลายเป็นชื่อบริษัทมหาอำนาจที่ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อันโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ โดย Hon Hai Precision มีพนักงานทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านคน ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Sharp เเละเเบรนด์โทรศัพท์มือถือ Nokia ในปี 2016   2. WEI ING-CHOU และ ครอบครัว มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 7.2 พันล้านเหรียญ Tingyi อุตสาหกรรมอาหาร พี่น้องมหาเศรษฐีตระกูล Wei ทั้ง Ing-chou, Ying-chiao, Yin-chun เเละ Yin-heng ร่วมบริหารกิจการยักษ์ใหญ่ในนามบริษัท Tingyi ผู้ผลิตเครื่องดื่มและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่ นอกจากนี้ตระกูล Wei ยังเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยอดนิยมในจีนอย่าง Dicos พร้อมการลงทุนมหาศาลในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งสองฝั่งช่องเเคบไต้หวัน  

3.TSAI HONG-TU และ CHENG-TA

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 7.1 พันล้านเหรียญ cathay financial อุตสาหกรรมการเงิน

เหล่าพี่น้องตระกูล Tsai ทั้ง Hong-tu and Cheng-ta เเละ Cheng-Chiu นำทีมบริหารกิจการของ Cathay Financial Holding บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินที่มีความมั่งคั่งมหาศาล โดยครอบครัวนี้ยังลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในชื่อ Cathay Real Estate ที่ขยายครอบคลุมไปถึงธุรกิจโรงเเรมชั้นนำ ซึ่งผู้เป็นพ่ออย่าง Tsai Wan-lin บุคคลที่เคยนั่งเเท่นผู้ร่ำรวยที่สุดในไต้หวันได้ก่อตั้งขึ้น โดยเขาได้เสียชีวิตเมื่อปี 2004 เเละลูกหลานขึ้นมาดำเนินกิจการต่อ 

  4. DANIEL และ RICHARD TSAI มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 5.7 หมื่นล้านเหรียญ fubon financial อุตสาหกรรมการเงิน ทั้งสองเคยครองตำเเหน่งผู้ร่ำรวยที่สุดในไต้หวันมาเเล้ว เมื่อปี 2017 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ กว่า 1 หมื่นล้านเหรียญ เเต่ปีนี้ร่วงมาอยู่ที่ 4 อีกทั้งทรัพย์สินยังลดลงอย่างมาก โดยสองพี่น้อง Daniel เเละ Richard ดำเนินกิจการ Fubon Financial ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวันมีมูลค่าตลาดรวม 1.7 หมื่นล้านเหรียญ เเละครอบครัวนี้ยังเป็นผู้ลงทุนใน Taiwan Mobile เเละ momo.com เว็บช้อปปิ้งชั้นนำ ทั้งนี้ Tsai Wan-tsai ผู้เป็นพ่อที่ก่อตั้ง Fubon Financial จากไปในวัย 84 ปี เมื่อปี 2014   5. TSAI ENG-MENG อายุ: 61 ปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5.6 พันล้านเหรียญ want want china อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เมื่อเขาอยู่ในวัย 19 ปี Tsai ได้เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการธุรกิจอาหารเเละเครื่องดื่มของบิดา เเละไม่นานเขาก็ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมา เเละโด่งดังจากขนมเเครกเกอร์ที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า นอกจากธุรกิจด้านอาหาร มหาเศรษฐีผู้นี้ยังลงทุนในกิจการโรงเเรม บริษัทการเงินเเละธุรกิจสื่อสารมวลชนอย่างหนังสือพิมพ์ China Times เเละกิจการสื่อโทรทัศน์ของบริษัท China Television Co. โดยเขาได้ส่งลูกชายอย่าง Kevin เเละ Wang-Chia พร้อมด้วยหลานชาย Cheng Wen-Hsien ร่วมนั่งบอร์ดบริหารของ want want china เพื่อวางเเผนสืบทอดกิจการในอนาคต   6. LIN SHU-HONG อายุ: 90 ปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.9 พันล้านเหรียญ Chang Chun Group อุตสาหกรรมปิโตรเคมี Lin Shu-Hong นั่งตำเเหน่งประธานของ Chang Chun Group หนึ่งในบริษัทปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยมีโรงงานในไต้หวัน จีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาทำงานตลอดชีวิตก่อนก้าวลงจากตำเเหน่งเมื่อปลายปี 2013 เขาเริ่มก่อตั้งธุรกิจด้วยเงินเพียง 100 เหรียญ โดยร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน 2 คนคือ Tseng Shin-yi เเละ M.K. Liao เเละตอนนี้เขาเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยวัย 90 ปี  สำหรับชื่อของบริษัทว่า "Chang Chun" นั้นในภาษาจีนมีความหมายว่าฤดูใบไม้ผลิที่ยาวนาน สะท้อนให้เห็นความอดทนต่อความยากลำบากเเละมิตรภาพที่ยั่งยืนของพวกเขาทั้งสามคน   7. BARRY LAM อายุ: 69 ปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.6 พันล้านเหรียญ Quanta computer ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ Barry Lam ดำรงตำเเหน่งเป็นประธานของบริษัท Quanta Computer หนึ่งในผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คเเละอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก เเละยังเป็นผู้ผลิต Apple Watch อีกด้วย โดยเขาเป็นชาวเซี่ยงไฮ้โดยกำเนิด จากนั้นย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ฮ่องกง ภายหลังการปฏิวัติของจีน ในปี 1949 ต่อมาเขาได้ย้ายมาศึกษาเล่าเรียนเเละสร้างบ้านในไต้หวัน โดยเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จ มาจากการเริ่มทำธุรกิจด้วยตนเอง 8. JASON และ RICHARD CHANG มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 3.2 พันล้านเหรียญ Ase บริษัทบรรจุภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์เเละเทคโนโลยี Jason นั่งตำเเหน่งประธานบริษัท ส่วน Richard เป็นรองประธานของ ASE บริษัทบรรจุภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก สองพี่น้องย้ายถิ่นฐานมายังไต้หวัน หลังการปฏิวัติของจีน ในปี 1949 โดยครอบครัวของเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อนจะผันเส้นทางมารุ่งเรืองด้านเทคโนโลยี โดย Jason เเละ Richard ยังดำเนินกิจการผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Sino Horizon Holdings บริษัทที่จดทะเบียนในไต้หวันเเต่มีสินทรัพย์อยู่ที่จีนเเผ่นดินใหญ่   9.PIERRE CHEN มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ : 3.1 พันล้านเหรียญ Yageo ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ Chen เป็นประธานบริษัท Yageo ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นส่วนประกอบของโทรศัพท์มือถือไปจนถึงเเท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเเละรถยนต์ เขาเริ่มก่อตั้ง Yageo ในปี 1977 เเละนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นอีก 16 ปีต่อมา โดย Chen วัย 62ปี มีบ้านหลังใหญ่โต ตั้งอยู่บนภูเขาที่มองเห็นทิวทัศน์ทั้งหมดของกรุงไทเป เเละเป็นนักสะสมงานศิลปะตัวยง เขาครอบครองผลงานของศิลปินชื่อดังอย่าง Gerhard Richter, Mark Rothko, Andy Warhol เเละ Francis Bacon 10. LUO JYE อายุ: 92 ปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.9 พันล้านเหรียญ CST ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ Luo เป็นผู้ก่อตั้ง Cheng Shin Rubber ในปี 1967 จากผู้จัดจำหน่ายยางรถยนต์ให้กับอุตสาหกรรมจักรยานในไต้หวัน โดยทุกวันนี้บริษัทเป็นที่รู้จักในนาม CST ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของ Lo Tsai-Jen ลูกชายของเขา สำหรับ CST เป็นผู้ผลิตยางเเละยางในของทุกยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน , จักรยานยนต์, รถยนต์, รถยกรวมไปถึงเครื่องจักรในสนามหญ้า     แปลและเรียบเรียงจาก forbes : Taiwan's 50 Richest