เอเชียแปซิฟิกคือภูมิภาคแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 และน่าจะเป็นภูมิภาคสุดท้ายที่กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ท่ามกลางความท้าทายมากมายตลอดปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ข้อจำกัดด้านการเดินทางไปจนถึงห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก ในซีกโลกตะวันออกแห่งนี้การดำเนินธุรกิจได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
แม้จะเผชิญความท้าทายต่างๆ นานา แต่ก็หยุดเหล่าผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ทั่วภูมิภาคไม่ได้ พวกเขาได้ทดลองไอเดียใหม่ๆ สานต่อความสำเร็จ และบางรายยังสามารถก่อตั้งกิจการขึ้นมาเป็นของตนเอง บรรดาผู้ที่ติดทำเนียบ 30 Under 30 Asia สร้างสรรค์ผลงานไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการให้บริการด้านอี-คอมเมิร์ซและการศึกษาออนไลน์ ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่ Web3 ด้วยวิสัยทัศน์แบบหัวก้าวหน้า มีความมุ่งมั่นและมองโลกในแง่ดี พวกเขากำลังวาดภาพอนาคตโฉมใหม่ให้เกิดขึ้นกับธุรกิจและสังคมในทวีปเอเชีย
ในการจัดทำเนียบปีนี้มีผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อกว่า 4,000 ราย ซึ่งผู้สื่อข่าวของเราและคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติได้ตรวจสอบและคัดเลือกจนเหลือ 300 คนสุดท้าย พบกับ 5 ดาวเด่นจากหมวดบันเทิงและกีฬา, การเงินและธุรกิจเงินร่วมลงทุน, ผลกระทบเชิงสังคม, ค้าปลีกและอี-คอมเมิร์ซ และศิลปะ (ศิลปะและสไตล์, อาหารและเครื่องดื่ม) ของทำเนียบ Forbes 30 Under 30 แห่ง Asia ประจำปี 2022 ได้ในตอนที่ 1
HOYEON
อายุ: 27 ปี • นักแสดง • เกาหลีใต้
หมวด: บันเทิงและกีฬา
เมื่อปี 2020 Hoyeon (ชื่อจริง Jung Ho-yeon) ต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อเข้าสู่แวดวงนางแบบเธออาศัยเวลาพักระหว่างรองานใหม่ๆ ติดตามรายการต่างๆ ทาง Netflix และตัดสินใจหันมาลองงานแสดง เพียงไม่ถึง 2 ปีงานแสดงแรกของเธอก็มาถึง และเป็นรายการของ Netflix ที่มีผู้ชมมากที่สุดเสียด้วย นั่นคือ Squid Game ซีรีส์แนวดราม่าอันดิบดำของเกาหลีใต้ เธอรับบทเป็น Kang Sae-byeok ผู้อพยพจากเกาหลีเหนือที่มีสีหน้าอมทุกข์ ผลงานการแสดงสุดบีบหัวใจทำให้ Hoyeon คว้ารางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมในหมวดซีรีส์แนวดราม่าจากงาน Screen Actors Guild Awards ในปีนี้ เอาชนะตัวแม่จาก Hollywood ทั้ง Jennifer Aniston และ Reese Witherspoon นอกจากนี้ ยังมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นอีกหลายล้านคน มีผู้ติดตามทาง Instagram เกือบ 24 ล้านคน และได้รับแต่งตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Louis Vuitton เมื่อปีที่แล้ว
จากนางแบบสู่นักแสดง ซึ่งปี 2013 เธอคว้าอันดับ 2 ในรายการ Next Top Model ซึ่งเป็นรายการเรียลลิตี้ที่ได้รับความนิยมสูงมากในเกาหลีใต้ แต่ Hoyeon ยังไม่ยอมชะลอลงเลย และคาดว่าเธอจะรับบทนำในซีรีส์ของ Apple เรื่อง Disclaimer ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นผลงานการเขียนบทและกำกับโดย Alfonso Cuarón เจ้าของรางวัล Academy Award ที่เคยกำกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Gravity และ Harry Potter and the Prisoner of Azkaban นอกจากนี้ Hoyeon ยังเตรียมรับบทบาทในภาพยนตร์ดราม่า The Governesses เคียงข้าง Lily-Rose Depp อีกด้วย -- John Kang
ภาพ: ROSDIANA CIARAVOLO/GETTY IMAGES
JEFFERY LIU
อายุ: 27 ปี • ผู้ก่อตั้ง XanPool • ฮ่องกง
หมวด: การเงินและธุรกิจเงินร่วมลงทุน
XanPool คือ ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มุ่งหมายจะขยายกิจการไปยังนอกภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกจากทั้งการชำระเงินด้วยคริปโตและเงินตราทั่วไป บริษัทจากฮ่องกงแห่งนี้ระดมทุนได้ 32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับตั้งแต่เปิดตัวกิจการเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2019 และมีแผนรุกตลาดหลายแห่ง เช่น ในทวีปยุโรปและอเมริกาใต้ “ผมมองเห็นโอกาสมากมายที่จะเร่งขยายกิจการ” Jeffery Liu ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง XanPool กล่าว
ธุรกิจสตาร์ทอัพแห่งนี้คาดว่า ฐานผู้ใช้บริการ (ทั้งผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆ ที่หันมาใช้ทางเลือกใหม่ในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน) ที่มีอยู่ 500,000 รายในปัจจุบันจะเพิ่มขึ้นแตะหลัก 10 ล้านรายไม่เกินสิ้นปีนี้ XanPool บอกว่า มูลค่าธุรกรรมรวมของพวกเขาอาจเพิ่มขึ้นเท่าตัวมาอยู่ที่ 8 พันล้านเหรียญในปีนี้บริษัทซึ่งได้รับการหนุนหลังจากนักลงทุนอย่างไพรเวทอิควิตี้และ Antler Ventures มีแผนจะเพิ่มจำนวนพนักงานจาก 90 คนในเวลานี้เป็นเกือบ 200 คนภายในสิ้นปี Liu บอกว่าพนักงานใหม่ส่วนมากจะเป็นกลุ่มวิศวกรซอฟต์แวร์และนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจะประจำอยู่ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาที่บริษัทมีแผนก่อตั้งขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ -- Jonathan Burgos
ภาพ: DARREN GABRIEL LEOW
VISHAL SUNIL, NAMYA MAHAJAN และ SIDDHANT SACHDEVA
อายุ: 27, 28, 28 ปี • ผู้ร่วมก่อตั้ง Rocket Learning • อินเดีย
หมวด: ผลกระทบเชิงสังคม
คุณจะปรับปรุงความสามารถในการอ่านออกเขียนได้และการคำนวณของกลุ่มเด็กด้อยโอกาสชาวอินเดียจำนวน 75 ล้านคน ที่มีรายได้ต่อหัวไม่ถึงปีละ 1 เหรียญได้อย่างไร? Vishal Sunil, Namya Mahajan และ Siddhant Sachdeva อาสาตอบคำถามนี้ด้วยการก่อตั้ง Rocket Learning องค์กรไม่แสวงหากำไรนี้ขึ้นมาในปี 2020 เพื่อให้ครูอาจารย์สามารถสร้างห้องเรียนดิจิทัลได้ทางแพลตฟอร์ม WhatsApp ที่ปรับให้เป็นแบบเฉพาะของ Rocket Learning เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมเป็นติวเตอร์ให้กับบุตรหลานของตนหลังเลิกเรียนและในวันหยุดสุดสัปดาห์ Rocket Learning จะส่งวิดีโอสาธิตกิจกรรมการเรียนรู้ พร้อมแบบฝึกหัดที่เหมาะสมตามแต่ละช่วงวัย โดยเน้นการเล่นเป็นสำคัญ จากนั้นผู้ปกครองจะต้องส่งคลิปวิดีโอและภาพถ่ายขณะทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ
อย่างไรก็ตามครอบครัวหลายแห่งในอินเดียมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนใช้เพียงเครื่องเดียวและมีการเชื่อมต่อจำกัด Rocket Learning จึงเลือกใช้เนื้อหาที่กินแบนด์วิดท์ไม่มากนัก และให้ผู้ปกครองสามารถใช้งานตามเวลาที่ตนสะดวก Mahajan คือ ศิษย์เก่าบริหารธุรกิจจาก Harvard และเคยทำงานที่ McKinsey ก่อนจะก่อตั้ง Rocket Learning เธออธิบายว่า การเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยวิธีการง่ายๆ ตั้งแต่เด็กอายุยังน้อยจะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนรู้ได้ในระยะยาว ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่าสำหรับกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุด ผู้ร่วมก่อตั้งทั้งสามบอกว่า มันได้ผล พวกเขาระดมทุนได้แล้วกว่า 1 ล้านเหรียญ และยังได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้สนับสนุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Draper Richards Kaplan Foundation, Central Square Foundation, ACT Grants, Google.org, Hewlett-Packard, MIT Solve และ SPC-Agency Fund จนถึงวันนี้ Rocket Learning บอกว่า พวกเขามีห้องเรียนกว่า 90,000 คลาส และเข้าถึงเด็กๆ อีกกว่า 1 ล้านคนจาก 5 รัฐ -- Suzanne Nam
ภาพ: GAYATRI GANJU
GARRET KOESWANDI และ DEBEASINTA BUDIMAN
อายุ: 25 และ 28 ปี • ผู้ร่วมก่อตั้ง Aplikasi Super • อินโดนีเซีย
หมวด: ค้าปลีกและอี-คอมเมิร์ซ
บริษัทโซเชียลคอมเมิร์ซ Aplikasi Super ซึ่งก่อตั้งในปี 2018 กำลังช่วยให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในเมืองเล็กและเขตชนบทของอินโดนีเซียถูกลง โดยทั่วไปแล้วราคาสินค้าในพื้นที่เหล่านี้จะแพงกว่าในเมืองใหญ่ ทั้งนี้ Super เน้นธุรกิจในฝั่งตะวันออกของประเทศซึ่งเจริญน้อยกว่า โดยเข้าในเมืองที่มี GDP ต่อหัวไม่เกิน 5,000 เหรียญ และร่วมมือกับเครือข่ายผู้ขายต่อให้ช่วยจัดการคำสั่งซื้อที่รวบรวมมาจากผู้บริโภคผ่านแอปของบริษัท Super สร้างการประหยัดต่อขนาดได้ด้วยการรับคำสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากมาจากพื้นที่ต่างๆ ซึ่งผู้ผลิตเข้าไปส่งสินค้าลำบาก ปัจจุบัน Super ให้บริการใน 30 เมืองของจังหวัด East Java กับ South Sulawesi และระดมทุนได้รวม 106 ล้านเหรียญจากนักลงทุนซึ่งมีทั้ง Alpha JWC Ventures, B Capital, Y-Combinator, NEA, SoftBank, แร็ปเปอร์ Jay-Z และ Mari Elka Pangestu กรรมการผู้จัดการของ World Bank
Debeasinta Budiman และ Garret Koeswandi รับหน้าที่ขับเคลื่อนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโลจิสติกส์ตามลำดับ และพวกเขาก่อตั้ง Super ร่วมกับ Michael Rendy, Willy Haryanto และ Steven Wongsoredjo ที่เคยเข้าทำเนียบ 30 Under 30 ของ Forbes Asia “สมัยเด็กครอบครัวฉันชอบพาไปเที่ยวชนบท ทำให้ฉันรู้ว่าราคาสินค้ามีความเหลื่อมล้ำกัน ฉันเลยมีแรงบันดาลใจอยากช่วยคนเหล่านี้” Budiman เล่า เธอเคยทำงานที่ Google เป็นนักวิเคราะห์ด้านการปรับปรุงการสืบค้นข้อมูลให้เหมาะสมกับท้องถิ่น และมาจากครอบครัวที่มีพื้นฐานเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภค เธอได้พบกับ Wongsoredjo ตอนทั้งคู่เรียนอยู่ในสหรัฐฯ และเธอมาร่วมงานกับ Super ในปี 2019 “Super เริ่มต้นเมื่อปี 2018 แต่พวกเขาไม่มีทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฉันก็เลยเข้ามาทำ” Budiman กล่าว
ส่วน Koeswandi เคยทำงานเป็นที่ปรึกษาในหลายภาคธุรกิจซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านซัพพลายเชน ก่อนที่เขาจะเข้ามาร่วมงานกับ Super ในปี 2018 และปัจจุบันเป็นรองกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ “เราสังเกตว่าชาวชนบทมีกำลังซื้อ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่มีคือ ช่องทางเข้าถึงสินค้า เราจึงสร้างช่องทางให้” เขากล่าว Koeswandi เข้าไปเป็นหุ้นส่วนกับร้านค้าในท้องถิ่น คนขับรถบรรทุก และบริษัทขนส่งสินค้า เพื่อให้สามารถส่งสินค้าได้แบบวันเดียวถึง ซึ่งบริษัทอ้างว่าผลลัพธ์ช่วยให้บริษัทประหยัดต้นทุนในการกระจายสินค้าได้มากถึง 70% ด้วยการดึงคนมีฝีมือในท้องถิ่นมาทำงานแทนที่จะพึ่งบริษัทโลจิสติกส์รายใหญ่ Super ยังช่วยสร้างงานและสร้างรายได้พิเศษให้ผู้ที่นำสินค้าไปขายต่อด้วยการให้คอมมิชชั่นจากยอดขายที่ได้มาจากร้านค้าปลีกหรือลูกค้าในท้องถิ่นด้วย
“ผมหาเงินได้เดือนละ 1.5-2 ล้านรูเปียห์ (100-125 เหรียญ) จาก Super ด้วยการขายสินค้าให้กับบรรดาวารุง (ร้านของชำ) ซึ่งเยอะกว่าที่ผมเคยได้จากงานเดิม 3 เท่า” Moch Chairizal Usman Ghozaly หนึ่งในตัวแทนของ Super ที่หมู่บ้าน Gamping ในจังหวัด East Java เล่า Ghozaly ซึ่งเข้ามาทำงานกับ Super เมื่อเดือนพฤศจิกายนใช้เวลาวันละ 4 ชั่วโมงออกเยี่ยมร้านวารุง 20 ร้านเพื่อรวบรวมคำสั่งซื้อเนื่องจากลูกค้าของเขาไม่มีสมาร์ทโฟน ร้านค้าปลีกในท้องถิ่นซื้อของจาก Ghozaly เพราะราคาถูกกว่าและยังช่วยประหยัดเวลากับค่าเดินทางด้วย เพราะแม้แต่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายที่ใกล้ที่สุดก็ยังต้องขับรถไป 1 ชั่วโมง
นอกจากขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ผลิตโดยบริษัทต่างๆ แล้ว Super ก็ยังขายสินค้าที่จัดหามาจากผู้ผลิตในท้องถิ่นภายใต้แบรนด์ของตัวเองอีกด้วย บริษัทใช้ข้อมูลเพื่อติดตามความชอบและรสนิยมของลูกค้าแล้วพัฒนาผลิตภัณฑ์ราคาไม่แพงมาตอบสนองความต้องการ Budiman กล่าวว่า สินค้าที่ติดฉลากของ Super เองมีโอกาสดีมาก ซึ่งเธอวางแผนจะพัฒนาธุรกิจนี้ให้มากขึ้นอีก ส่วน Koeswandi ก็มีแผนจะขยายไปยังเมืองต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย -- Ardian Wibisono
ภาพ: GONDO SISWANTO
SAMANTHA LORKING-TANNER และ EVANGELINE TITILAS
อายุ: 29 และ 29 ปี• ผู้ร่วมก่อตั้ง With Jéan • ออสเตรเลีย
หมวด: ศิลปะ (ศิลปะและสไตล์, อาหารและเครื่องดื่ม)
With Jéan ซึ่งก่อตั้งในปี 2017 โดยคู่ซี้ Samantha Lorking-Tanner และ Evangeline Titilas เป็นแบรนด์แฟชั่นผู้หญิงที่เอาใจลูกค้าเจน Z แบรนด์นี้ขายเฉพาะออนไลน์และส่งสินค้าไปทั่วโลกในแพ็กเกจที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ดีไซน์ที่โดนใจคนรุ่นใหม่ทำให้ With Jéan มีกลุ่มผู้ติดตามเหนียวแน่นใน Instagram 456,000 คน และสินค้าสไตล์ใหม่ๆ ก็มักจะขายหมดในไม่กี่นาที เสื้อผ้าแบรนด์นี้ได้ปรากฏโฉมอยู่บนเรือนร่างของเซเล็บอย่าง Bella Hadid, Jenna Dewan และ Emily Ratajkowski และได้ลงในนิตยสารแฟชั่นอย่าง Vogue และ Hypebae ด้วย With Jéan เกิดขึ้นหลังจาก Lorking-Tanner และ Titilas ได้แรงบันดาลใจอยากสร้างแบรนด์แฟชั่นที่เน้นการผลิตอย่างมีจริยธรรมและยั่งยืน โดยทั้งคู่ออกเงินลงทุนตั้งต้นคนละ 3,000 เหรียญออสเตรเลีย (2,200 เหรียญ) แบรนด์นี้อ้างว่า มียอดขายรวม 2.2 ล้านเหรียญออสเตรเลียในปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม ปี 2022
With Jéan ไม่ได้ทำตามปฏิทินแฟชั่นทั่วไป แต่แบรนด์นี้ไม่ได้ทำตามปฏิทินแฟชั่นทั่วไป แต่แบรนด์นี้จะปล่อยสินค้าใหม่ปีละ 6-7 ครั้ง ครั้งละ 10-15 แบบและสร้างขยะให้น้อยที่สุดด้วยการไม่ผลิตสินค้าเกินความต้องการ ในปี 2021 ทั้งคู่ระดมทุนได้ 69,600 เหรียญออสเตรเลียใน 48 ชั่วโมงเพื่อบริจาคให้โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากไฟป่าของกาชาดออสเตรเลีย และบริจาคต้นไม้ 10 ต้นต่อเสื้อยืดคอลเล็กชั่นพิเศษวันคุ้มครองโลก 1 ตัวที่ขายได้ในเดือนเมษายน ปี 2022 ปัจจุบัน With Jéan กำลังหาทางขยายธุรกิจไปทั่วโลก รวมถึงกระจายสินค้าจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่สร้างยอดขายก้อนใหญ่ให้บริษัทและเพิ่มประเภทสินค้า -- Karsha Green
ภาพ: BRENDON THORNE
บรรณาธิการ: RANA WEHBE WATSON เรียบเรียง: รัน-รัน, ธรรดร โสถิอำรุง, พินน์นรา วงศ์วิริยะ และ บำรุง อำนาจเจริญฤทธิ์
วิจัยและรายงาน: Jonathan Burgos, Karsha Green, John Kang, Danielle Keeton-Olsen, Loan Khong, Suzanne Nam, Ramakrishnan Narayanan, Yessar Rosendar, James Simms, Catherine Wang, Yue Wang, Jennifer Wells, Ardian Wibisono และ David Yin
*จุดตัดวันเกิดในการคัดเลือกคือวันที่ 31 ธันวาคม 1991
อ่านเพิ่มเติม:
>> Buy Hold Sell: คำแนะนำจากกูรูการลงทุนในสินค้า Luxury ในสหรัฐฯ
>> ลูกตุ้มยักษ์เงินสหรัฐฯ แข็งค่าและผลต่อตลาดเอเชีย
