ทำไม Cornel West จึงถังแตก ทั้งที่เคยมีรายได้ถึง 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ - Forbes Thailand

ทำไม Cornel West จึงถังแตก ทั้งที่เคยมีรายได้ถึง 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

FORBES THAILAND / ADMIN
14 May 2024 | 09:30 AM
READ 4195

Cornel West เป็นคนที่สังคมอเมริกันคุ้นหน้าคุ้นตามากว่า 3 ทศวรรษ เขาทั้งเขียนหนังสือ สอนในมหาวิทยาลัยระดับ Ivy League แสดงความเห็นในรายการข่าวทางเคเบิลทีวี ทำงานเพลงร่วมกับ Prince แถมยังเคยโผล่ในหนัง The Matrix ภาคต่อด้วย


    เมื่อชื่อดังตังค์ก็ไหลมา West มีรายได้ประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเยอะกว่านั้นในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แต่น่าแปลกที่เมื่อเขามาเป็นผู้สมัครอิสระชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเขากลับมีทรัพย์สินสุทธิแค่เท่าอาจารย์พิเศษที่เพิ่งสอนในมหาวิทยาลัยเป็นปีแรก และเขากล่าวว่า “ผมอยู่แบบเดือนชนเดือน”

    ผลการตรวจสอบเอกสารที่ยื่นต่อรัฐบาลกลางและข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ยืนยันว่า ทรัพย์สินของ West เกือบเป็นศูนย์ และสื่ออื่นๆ ก็รายงานเรื่องที่เขามีปัญหาเบี้ยวภาษีในหลายปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่เคยมีใครอธิบายว่า คนที่ประสบความสำเร็จมากเช่นนี้กลับถังแตกยับเยินได้อย่างไร

    และเมื่อ West อยู่ในตำแหน่งที่อย่างน้อยก็ส่งผลต่อการเลือกตั้งผู้นำสูงสุดของอเมริกาคนต่อไป Forbes เลยต้องหาคำตอบด้วยการคุ้ยกองเอกสารกฎหมายและภาษีในหลายเขตอำนาจศาลย้อนหลังไปถึง 6 ทศวรรษ ผลปรากฏว่า การที่เขาเจ็บหนักแบบนี้เพราะทำตัวเองซะเยอะ จนตอนนี้เขาเองก็ยังยอมรับว่าเขานั้น “เกือบเหมือนสัตว์เลื้อยคลานที่กัดหางตัวเอง”

    คนมีหนี้สินล้นพ้นตัวอย่าง West ต่างจากผู้สมัคร (และอดีตผู้สมัคร) ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มั่งคั่งคนอื่นๆ ราวฟ้ากับเหว Donald Trump เป็นเศรษฐีพันล้าน, Vivek Ramaswamy มีทรัพย์สินประมาณ 950 ล้านเหรียญ, Joe Biden ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมาตลอดชีวิตมีทรัพย์สิน 10 ล้านเหรียญ, Nikki Haley มีประมาณ 8 ล้านเหรียญ, Marianne Williamson มี 2.5 ล้านเหรียญ และเราประเมินว่า Robert F. Kennedy Jr. มีทรัพย์สินสุทธิประมาณ 15 ล้านเหรียญเมื่อรวมกับทรัพย์สินของภรรยา

    West ซึ่งปัจจุบันอายุ 70 ปีแจ้งเกิดทั่วประเทศในยุค 1990 ด้วยหนังสือรวมเรียงความชื่อ Race Matters ที่ขายได้กว่า 500,000 เล่ม เขาเดินทางไปบรรยายตามที่ต่างๆ จนโกยเงินไปกว่าปีละ 500,000 เหรียญ ซึ่งเงินจำนวนมากไหลเข้ามือเขาโดยไม่มีการหักภาษี

    แล้ว West ก็เอาไปถลุงกับสารพัดสิ่ง โดยเฉพาะกับผู้หญิงจนเขาแทบไม่มีอะไรเหลือมาจ่ายให้ลุงแซมเมื่อฤดูกาลเก็บภาษีมาถึง คำสั่งยึดหน่วงทรัพย์จึงเพิ่มขึ้นจาก 144,000 เหรียญในปี 1998 เป็น 105,000 เหรียญในปี 2000 และเป็น 205,000 เหรียญในปี 2001 และกองสุมขึ้นเรื่อยๆ

    West อาศัยอยู่ที่คอนโด Four Seasons ในเมือง Boston ซึ่งเขายอมรับในภายหลังว่าเขาไม่มีปัญญาผ่อน และขับรถ Mercedes หรือ Cadillac ร่อนไปร่อนมา 1 ใน 4 อดีตภรรยาของเขากล่าวหาว่า เขาแอบเช่าห้องสุดแพงในเมือง Boston ไว้เป็นรังรัก และเธอยัง
กล่าวหาอีกว่า ถึงเขาจะไม่มีปัญหาสุขภาพแต่เขาขอลางานที่มหาวิทยาลัย Harvard ไปพักรักษาตัวเพื่อแอบไปใช้ “ชีวิตลับๆ” กับผู้หญิงอื่นที่รัฐ New Mexico

    ในเอกสารที่ยื่นต่อศาลเมื่อปี 2002 และ 2003 West ไม่ปฏิเสธเรื่องที่เขาผลาญเงินไปกับเหล่าชู้รัก ซึ่งอย่างน้อย 1 คนในนั้นมีลูกกับเขาด้วย (ตอนนั้นเขายอมรับว่าเขามีลูกวัย 18 เดือนอยู่จริง) เขาเล่ารายละเอียดส่วนที่ไม่ค่อยลามกโจ๋งครึ่มเท่าไรไว้ในหนังสือบันทึกชีวประวัติของเขาที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2009 ชื่อ Brother West: Living and Loving Out Loud

    แต่พอเราถามเขาไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างที่ว่า เขา “ซุกหรือผลาญ” เงินไปเกือบล้านเหรียญ และอย่างน้อยก็มีบางส่วนที่หมดไปกับสัมพันธภาพนอกสมรส West ตอบกลับมาทางอีเมลว่า “ข้อกล่าวหาพวกนั้นมันไร้สาระเกินกว่าจะใส่ใจ ไม่ว่าตอนนั้นหรือตอนนี้ พี่น้องเอ๋ย!” และเมื่อเราถามไปอีกครั้งในภายหลังโดยอธิบายข้อกล่าวหาของอดีตภรรยาเขาอย่างละเอียดเขาก็ไม่ตอบกลับมา

    เมื่อปี 2002 เขาโบ้ยว่า ปัญหาการเงินของเขามีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นๆ เช่น อดีตภรรยาโปรดปรานเสื้อผ้า Chanel อาหารร้านหรู และเฟอร์นิเจอร์โบราณ และเมื่อข่าวเรื่องการติดค้างภาษีผุดขึ้นมาหลังจากนั้น West ก็สาธยายถึงบ่อเกิดแห่งปัญหาหนี้สินของเขาโดยพูดเป็นนัยว่า เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่เขากู้มาเรียนปริญญาตรีทำให้เขาตก “หลุมดำ” ที่ไม่อาจปีนขึ้นได้

    เหลวไหลชะมัด หลังจากเขาเป็นคนของประชาชนมา 3 ทศวรรษ West หาเงินมาได้เยอะเกินพอสำหรับปลดหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาแล้ว เพราะถ้าเขาไม่มีรายได้ก้อนโต West จะไม่มีทางค้างชำระภาษีมากขนาดนี้ได้ (เขายังถูกยึดหน่วงทรัพย์ไว้แทนภาษีอีกประมาณ 466,000 เหรียญ)

    คำอธิบายที่แท้จริงสำหรับปัญหาการเงินของ West คือ ความประมาทเลินเล่อ เพราะแม้เขาจะมีภาพลักษณ์เป็นนักวิชาการมืออาชีพด้วยรอยยิ้มกว้างโชว์ฟันและชุดสูท 3 ชิ้นที่ได้แรงบันดาลใจจาก W.E.B. Du Bois แต่เขาใช้ทั้งเงินและชีวิตอย่างบ้าระห่ำ เขาทำผู้หญิงท้องแล้วทิ้งมาหลายคนจนต้องจ่ายค่าทดแทนการหย่าและค่าเลี้ยงดูบุตรก้อนโต ซึ่งบางส่วนเขาก็ไม่จ่ายด้วย

    ถ้าผู้นำรัฐบาลมีหน้าที่หลักคือ การบริหารเงินและรักษาความสัมพันธ์ เราก็แทบนึกไม่ออกแล้วว่าจะมีใครขาดความพร้อมสำหรับงานนี้หนักไปกว่า Cornel West

    West เกิดที่เมือง Tulsa รัฐ Oklahoma แล้วไปโตที่เมือง Sacramento รัฐ California อยู่กับแม่ซึ่งเป็นครูโรงเรียนประถม และพ่อซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พลเรือนของกองทัพอากาศ เมื่ออายุ 17 ปีเขาได้ทุนค่าเล่าเรียนบางส่วนเพื่อไปเรียนต่อที่ Harvard และโดยขอค่าเล่าเรียนส่วนที่เหลือจากพ่อแม่ บวกกับไปทำงานล้างห้องน้ำและส่งจดหมายและกู้เงินเพื่อการศึกษา

    ด้วยความที่กลัวหนี้จะพอกพูนเขาจึงรีบเรียนให้จบจาก Harvard ใน 3 ปี และในปี 1973 เมื่ออายุ 20 ปีเขาได้ทุนเต็มจำนวนไปเรียนปริญญาเอก สาขาปรัชญาที่ Princeton ช่วงแรกทุกอย่างดูราบรื่นดี ในปี 1977 West แต่งงานครั้งแรก เขามีลูกและเริ่มสอนที่ Union Theological Seminary (วิทยาลัยเทววิทยา) ในสังกัด Columbia University ที่เมือง New York

    แล้วชีวิตก็มาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อในปี 1979 เรียงความเรื่องการปลูกฝังแนวคิด Marxist ลงในความเชื่อด้านเทววิทยาของคนผิวดำซึ่งเป็นหนึ่งในงานเขียนฉบับแรกๆ ของเขาได้รับการตีพิมพ์ และเขาถูกฟ้องหย่า หลายสิบปีให้หลังเขาเขียนถึงเรื่องนี้ในบันทึกชีวประวัติว่าภรรยาของเขาต้องการความมั่นคงเกินกว่าที่ “การรอนแรมทางปัญญา” ของเขาจะมอบให้เธอได้

    ศาลมีคำสั่งให้ West จ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรเดือนละ 320 เหรียญ และจ่ายอีก 15% ของรายได้ส่วนที่เกินจาก 15,000 เหรียญไปจนกว่าลูกชายจะโตเป็นผู้ใหญ่ ส่วนทรัพย์สินที่ West ได้ไปคือ สเตอริโอ แผ่นเสียง และเก้าอี้สตูดิโอ 2 ตัว West เขียนในบันทึกว่า “ในหัวผมตอนนั้นมีแต่เสียง Johnnie Taylor ร้องเพลงว่า ‘เก็บเมียไว้จ่ายถูกกว่า’” เขาอ้างว่า การแบ่งทรัพย์สินครั้งนั้นบวกกับการที่ตัวเขาเองวางแผนการเงินแย่ทำให้เขาต้องนอนใน Central Park อยู่ 2 คืน


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เจาะลึก ‘ภูฏาน’ แดนสวรรค์เงินดิจิทัล

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2567 ในรูปแบบ e-magazine