“The Last Trial” นวนิยายเกี่ยวกับข้อกฎหมายและการไขปริศนา: หนังสือแนะนำให้อ่านหนีความจำเจจากการเลือกตั้งและโควิด-19 จาก Steve Forbes
The Last Trial โดย Scott Turow นวนิยายเกี่ยวกับข้อกฎหมายและการไขปริศนาเรื่องนี้บรรยายถึงเรื่องราวที่น่าตื่นตาตื่นใจได้อย่างราบรื่น และสมจริง Turow พัฒนาตัวละครของเขาออกมาได้ราวกับเป็นคนที่มีตัวตนจริงๆ มีความซับซ้อนในหลายมิติ Turow เป็นนักเขียนที่มีพรสวรรค์ในการบรรยายกระบวนการที่อาจจะดูน่าเบื่อในห้องพิจารณาคดีให้มีสีสันน่าสนใจจนวางไม่ลงได้ นอกจากนี้ ผู้อ่านยังจะได้เกร็ดความรู้จากการบรรยายอย่างละเอียดถึงการพิจารณาคดีที่ซับซ้อน รวมถึงได้ความรู้อย่างความแตกต่างระหว่างคดีแพ่งและคดีอาญาด้วย เขาบรรยายให้เห็นภาพอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องที่ไกลออกไป อย่างเช่นขั้นตอนการอนุมัติยาของ FDA ด้วย นิยายของเขาเรื่องนี้มีจุดหักมุมที่สามารถทำให้คนอ่านแปลกใจได้ตลอดเล่ม ตัวเอกของนิยายเรื่องนี้คือ Alejandro Stern หรือ “Sandy” ชายอายุ 85 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายฝ่ายจำเลยฝีมือดี เขาตัดสินใจรับทำคดีสุดท้ายก่อนเกษียณให้กับ Kiril Pafko เพื่อนของเขา ซึ่งเป็นผู้อพยพชาวอาร์เจนตินาเหมือนกับเขา Kiril เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์จากการค้นพบตัวยารักษาโรคมะเร็ง โดย Pafko และบริษัทของเขาได้พัฒนายาวิเศษที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านมะเร็งซึ่งใช้ชื่อว่า g-Livia แต่หลังจากประสบความสำเร็จในการทดสอบยาในห้องทดลอง ก็ปรากฏว่ามีคนไข้หลายรายที่เสียชีวิตแบบเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ Pafko ถูกกล่าวหาว่าปกปิดข้อมูลการเสียชีวิตของกลุ่มตัวอย่างที่ทดลองยาเพื่อให้ยาของเขาผ่านการอนุมัติของ FDA และเมื่อนักข่าวจากหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal โทร. มาขอความเห็นจาก Pafko เกี่ยวกับข่าวใหญ่ที่ได้ข้อมูลมาจากคนวงใน Pafko ก็รีบเทขายหุ้นทั้งหมดที่เขาถืออยู่ในบริษัทซึ่งมีมูลค่านับล้านเหรียญออกมาก่อนที่ข่าวจะออก ซึ่งทำให้ราคาหุ้นตกอย่างหนัก ยิ่งไปกว่านั้น รัฐบาลยังยื่นฟ้อง Pafko ในข้อหาฆาตกรรม ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิดก็จะทำให้เขาต้องติดคุกตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม Stern รู้สึกว่าชีวิตของเขาติดค้างบุญคุณของ Pafko เพราะเขาเคยเป็นมะเร็งขั้นร้ายแรงถึงขั้นต้องตายแน่นอน แต่เขาได้รับการรักษาจนหายเพราะยาของ Kiril อย่างไรก็ตาม ในขั้นของการเตรียมหาข้อมูล และการพิจารณาคดี Stern ก็ได้ค้นพบความจริงในแง่ต่างๆ เกี่ยวกับเพื่อนของเขา ทั้งการที่ Kiril มีชู้รัก 2 คนที่ทำงานให้กับเขา หรือลูกชายของ Kiril ซึ่งทำงานในบริษัทยา แต่ซ่อนความเกลียดชังพ่อของตัวเองเอาไว้อย่างแนบเนียน อีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจคือ Pinky ซึ่งเป็นหลานของ Stern เธออายุ 30 ปี และเหมือนจะทำอะไรไม่ค่อยสำเร็จ แต่ Stern ก็จ้างเธอเอาไว้ช่วยงานเอกสารในที่ทำงานเพราะความสงสาร อยากช่วยลูกหลานในครอบครัว แต่ปรากฏว่า Pinky ได้เชื้อปู่มาในแง่ของการสืบสวนหาข้อเท็จจริง และที่อ่านเพลินมากคือ ช่วงที่ Stern ทำการสอบพยาน ซึ่งตอนแรกทำท่าจะไม่เป็นผลดีต่อรูปคดี แต่ต่อมาก็พลิกมาชนะคดีได้ในที่สุด ซึ่งเป็นผลจากการสืบค้นข้อมูลแบบกัดไม่ปล่อยของ Pinky โดยสรุปแล้วเป็นนิยายที่เยี่ยมยอดมากจริงๆ อ่านเพิ่มเติม: Book Value: “GRIT” หนังสือแนะนำจาก Peggy Cherng เศรษฐีพันล้านผู้ก่อตั้ง Panda Expressคลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine