Sheldon Solow มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ แห่งมหานครนิวยอร์ก เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2020 ในวัย 92 ปี ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
Sheldon Solow คือ หนึ่งในมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ ที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในอันดับที่ 167 ของทำเนียบ Forbes 400 หรือเศรษฐีอเมริกัน 400 อันดับ ประจำปี 2020 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินราว 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯนอกจากนี้ ชื่อของ Solow ยังได้ปรากฎอยู่ในทำเนียบ Forbes 400 ประจำปี 1982 ซึ่งนับเป็นปีแรกที่มีการจัดอันดับเศรษฐีอเมริกันขึ้น ด้วยมูลค่าทรัพย์สินส่วนตัวสุทธิที่ 100 ล้านเหรียญ จึงกล่าวได้ว่า Solow คือหนึ่งในมหาเศรษฐีจำนวนน้อยที่มีรายชื่อติดอยู่ในการจัดอันดับประจำปี 1982 และ 2020 ซึ่งในที่นี้ ประธานาธิบดี Donald Trump ก็คือหนึ่งในมหาเศรษฐีที่มีรายชื่อดังกล่าว
Solow เกิดที่เมือง Brooklyn ในช่วงปลายยุค 1920s ในครอบครัวที่พ่อประกอบอาชีพเป็นช่างก่ออิฐ ผู้ซึ่งอพยพมาจากรัสเซีย และแม่ทำหน้าที่แม่บ้าน ทั้งนี้ ขณะที่ศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยที่ New York University Solow ก็ได้ตัดสินใจลาออก เพื่อที่จะหันมาทุ่มเทความสนใจให้กับด้านอสังหาริมทรัพย์ จนกระทั่งสามารถก่อสร้างบริษัท Solow Building Company ที่ในที่สุดก็ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
หนึ่งในผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Sheldon Solow คือ การก่อสร้างตึกระฟ้าทรงโค้งสูง 50 ชั้นภายใต้ชื่อ Solow Building ที่สามารถมองเห็นวิวสวนสาธารณะ Central Park ได้อย่างรอบด้าน แม้ในช่วงแรกของการก่อสร้างจะได้รับเสียงวิพากย์วิจารณ์ถึงโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่แปลก และยังสูงตระหง่านกว่าอาคารอื่นๆ ในบริเวณเดียวกัน แต่ในท้ายที่สุดกลับได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก
ปัจจุบัน Solow Building เป็นอาคารอสังหาริมทรัพย์ในเชิงพาณิชย์ ที่มีทั้งแบรนด์แฟชั่นแถวหน้าของโลกอย่าง Chanel และ KKR ซึ่งเป็นบริษัทห้างหุ้นส่วนจำกัดที่นำสินทรัพย์ของบริษัทไปลงทุนในการลงทุนแบบกองทุนเอกชน เข้ามาเช่าพื้นที่ตั้งร้านค้าและสำนักงาน
ขณะที่บนชั้น G ของอาคารเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่ Solow เก็บสะสมจากศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิเช่น Sandro Botticelli, Pablo Picasso และ Henri Matisse แต่ยังไม่ได้เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชม
ทั้งนี้ โครงการล่าสุดของ Solow คือ ตึกแก้วระฟ้าสูง 43 ชั้น ภายใต้ชื่อ One United Nations Park ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง Manhattan ในมหานครนิวยอร์ก บนที่ดินที่ใช้ระยะเวลามากถึง 2 ทศวรรษในการเจรจาเข้าซื้อจาก Con Edison บริษัทผู้ผลิตและให้บริการด้านพลังงาน
ล่าสุด ในเดือนกรกฎาคม 2020 ที่ผ่านมา Solow ได้กล่าวกับ Forbes ผ่านทางโทรศัพท์ว่า “ยอดขายคอนโดดีมาก” โดยภายในอาคารแห่งนี้ นอกจากประกอบไปด้วยพื้นที่ให้เช่าจำนวน 408 ห้องแล้ว ยังมีห้องพักอาศัยมากถึง 148 ยูนิตเช่นกัน
ต่อจากนี้ Stefan Soloviev บุตรชายของเขาจะเป็นผู้สืบทอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อไป อย่างไรก็ดี สาเหตุที่การสะกดนามสกุลของ Soloviev แตกต่างจากผู้เป็นพ่อนั้น มาจากการที่เขาเลือกที่จะใช้วิธีการสะกดชื่อสกุลในภาษารัสเซียที่ครอบครัวเคยใช้ในอดีต Soloviev จบการศึกษาจาก The University of Rhode Island และ St. John's University ในนิวยอร์ก และเข้าทำงานที่บริษัทของพ่อเป็นระยะเวลามากกว่า 20 ปี และยังมีบทบาทในการขยายธุรกิจไปยัง New Mexico, Kansas และ Colorado
ครอบครัวของ Solow ยังประกอบไปด้วย Mia Solow ผู้เป็นภรรยา และลูกชายอีกคน ซึ่งก็คือ Nikolai Solow
แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ New York Real Estate Billionaire Sheldon Solow Dies At 92 เผยแพร่บน forbes.com อ่านเพิ่มเติม: ปิดตำนาน Lee Kun-hee ผู้บริหารอาณาจักร Samsung