Rivian รถยนต์ไฟฟ้าที่มุ่งหมายให้เหนือชั้นกว่า Tesla - Forbes Thailand

Rivian รถยนต์ไฟฟ้าที่มุ่งหมายให้เหนือชั้นกว่า Tesla

FORBES THAILAND / ADMIN
06 Oct 2019 | 11:39 AM
READ 16221

ถ้าเปรียบ Elon Musk เป็น Tony Stark แล้วละก็ R.J. Scaringe ผู้ก่อตั้ง Rivian ก็คงเปรียบได้กับ Clark Kent วันนี้ Forbes จะพาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักผู้ประกอบการหนุ่มมาดนุ่ม ซึ่งรถ SUV และรถกระบะไฟฟ้าที่บริษัทของเขาผลิตออกมากำลังส่งผลสะเทือนอย่างมากต่อวงการยานยนต์โลก

บริษัทรถยนต์ที่ถูกพูดถึงกันให้แซ่ดในงาน Los Angeles Auto Show ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาไม่ใช่ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Mercedes-Benz, Porsche, BMW หรือ ค่ายรถหรูซึ่งมักอยู่ในความสนใจของผู้ร่วมงานตามปกติ แต่เป็นค่ายรถไฟฟ้าหน้าใหม่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนักอย่าง Rivian ซึ่งมีฐานอยู่ที่ Plymouth ในรัฐ Michigan หลังจากที่บริษัทใช้เวลาถึง 10 ปีซุ่มพัฒนารถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยี EV ก็ได้เวลาเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่ 2 รุ่นแรกออกมาอวดโฉมได้แก่ รถ SUV 7 ที่นั่ง รุ่น R1S และรถกระบะรุ่น R1T รถยนต์ Rivian ทั้งสองรุ่นถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับคนที่มีวิถีชีวิตแบบไม่อยู่กับที่ เพื่อเป็นยานพาหนะสำหรับการผจญภัยที่มีกลิ่นอายของ Range Rover นั่นคือ มีทั้งความบึกบึน ทรงสมรรถนะ แต่ก็หรูหราอยู่ในที แถมยังพ่วงด้วยอุปกรณ์เสริมไฮเทค อย่างเช่น การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และฟังก์ชั่นแบบอัตโนมัติอีกเพียบเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับ “การผจญภัยคือชีวิต” R.J. Scaringe หนุ่มอายุ 36 ปี ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Rivian บอก “(จุดหมายของคุณ) อาจจะเป็นการตกปลา อาจจะเป็นการตีกอล์ฟ หรืออาจจะเป็นการพาครอบครัวออกไปกินข้าวนอกบ้านก็ได้” ความหมกมุ่นกับแนวคิดที่จะสร้างรถยนต์ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง และพยายามหาความรู้ใส่ตัวเพื่อทำฝันให้เป็นจริงด้วยการมุ่งเรียนจนจบปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมเครื่องกล จากสถาบันชั้นเลิศอย่าง Sloan Automotive Lab ของ MIT ในช่วงที่เรียน MIT นั้น เขาเกิดความคิดขัดแย้งเกี่ยวกับความฝันที่จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ “มันเป็นเรื่องน่าอึดอัดที่รู้ว่าสิ่งที่เรารักนั้นมันเป็นสิ่งที่ทำให้อากาศสกปรกมากขึ้น และก่อปัญหาต่างๆ มากมาย ตั้งแต่เรื่องความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ไปจนถึงเรื่องของหมอกควันพิษ และโลกร้อน” Scaringe บอก ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจปรับแนวทางใหม่ โดยเปลี่ยนไปเน้นรถยนต์ใช้ไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทน
Rivian สร้างรถยนต์ไฟฟ้าให้เหนือชั้นกว่า Tesla
รถรุ่น R1S ท่ามกลางธรรมชาติ
Scaringe ก่อตั้ง Rivian ขึ้นในปี 2009 เป็นกิจการสตาร์อัพและค่อยๆ ขยายธุรกิจอย่างช้าๆ โดยเริ่มจากการพัฒนารถยนต์ใช้ไฟฟ้าแบบสปอร์ตคูเป้ ซึ่งเขายอมรับว่าคล้ายกับรถ Roadster ของ Tesla มาก แต่แค่ภายใน 2-3 ปีแรก เขาก็พับแผนนั้นเก็บเข้าตู้ไป โดยบอกว่า “(เราไม่ได้) สร้างสิ่งที่โลกต้องการจริงๆ สิ่งที่แตกต่างไปจากของที่มีอยู่แล้วในตลาด” เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ผู้ประกอบการหนุ่มรายนี้เปลี่ยนทิศทางของบริษัท เขาได้ปรับนิยามพันธกิจของบริษัทเสียใหม่โดยยึดโยงอยู่กับการคมนาคมในอนาคต และมุ่งเน้นไปที่รถอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ด้านความหรูหราด้วย หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมการจะผลิตรถขึ้นมาสักคันมันต้องใช้เวลานานนับ 10 ปีขนาดนี้เลยหรือ ซึ่งในเรื่องนี้ Sacringe ตอบว่า “(เราใช้เวลา) ในการเอาชิ้นส่วนทั้งหมดมาเรียงต่อกันจนครบทุกส่วน” ซึ่งมีทั้งเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยี การทำแผนธุรกิจที่รัดกุม การสร้างองค์กรมารองรับ และการตั้งเครือข่ายซัพพลายเชน รวมถึงการวางระบบการผลิต การจะทำรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้อย่างที่ฝันนั้นต้องใช้เงินลงทุนก้อนโต ดังนั้น Scaringe จึงได้ระดมทุน 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากนักลงทุนรายใหญ่ 3 ราย ได้แก่ Abdul Latif Jameel ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทลงทุนจากซาอุดีอาระเบียที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ MIT, Sumitomo Corp จากญี่ปุ่น และธนาคาร Standard Chartered จากอังกฤษ
Rivian สร้างรถยนต์ไฟฟ้าให้เหนือชั้นกว่า Tesla
สวยและบึกบึน: รถกระบะรุ่น R1T ของ Rivian สามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 36 นิ้ว และลากของที่หนักได้ถึง 11,000 ปอนด์
Rivian มีพนักงานประมาณ 700 คน ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งประจำการอยู่ที่ศูนย์พัฒนางานวิศวกรรมที่ Plymouth ขณะที่พนักงานที่เหลือส่วนใหญ่จะอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีที่ San Jose และ Irvine ใน California และมีอีกจำนวนไม่มากประจำอยู่ที่ศูนย์พัฒนางานวิศวกรรมในอังกฤษ นอกจากนี้ ยังบอกว่าระบบการบังคับรถมีเสถียรภาพอย่างเหนือชั้น แถมมีอัตราเร่งที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจเหมือนรถสปอร์ต โดยทำความเร็วจาก 0- 60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาแค่ 3 วินาทีเท่านั้น และที่เหนืออื่นใดก็คือ Rivian จะมอบประสบการณ์การขับรถแบบ off-road แท้ๆ ให้ ซึ่งจะแตกต่างอย่างชัดเจนกับการเอารถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ไปขับลุยเนินทรายบนชายหาด หรือขับขึ้นไปบนทางขรุขระของเนินภูเขาหิน ทั้งนี้ ราคารถกระบะรุ่นพื้นฐานกำหนดไว้ที่ประมาณ 68,000 เหรียญ และราคารถ SUV อยู่ที่ 72,500 เหรียญ (ทั้งสองรุ่นมาพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี) แม้ว่า Rivian ไม่ได้เปิดเผยยอดจองล่วงหน้า แต่บริษัทก็คาดว่าจะส่งมอบรถได้มากถึง 20,000 คัน (ยอดรวมของทั้งรถกระบะ และ SUV) ในปี 2021 และเพิ่มเป็น 40,000 คันในปี 2022 ซึ่งคิดเป็นยอดขายได้ราว 1.4 พันล้านเหรียญ และ 2.8 พันล้านเหรียญ ตามลำดับ หากนำตัวเลขไปเทียบกับ Tesla จะเห็นว่าในปีแรกที่เปิดขาย Tesla ขายรถ Model S ได้ 22,000 คัน และตอนเปิดตัว Model X ก็ขายได้ 25,000 คัน  “ผมสนุกกับการสร้างความเชื่อมโยง และคิดพัฒนาแพลตฟอร์มแบบสเก็ตบอร์ดของเรา” อย่างไรก็ตาม เราคงต้องคอยจับตาดูชายคนนี้เอาไว้ให้ดีๆ เพราะค่ายรถ Rivian ของ R.J. Scaringe นั้นเพิ่งจะเริ่มติดเครื่องเท่านั้นเอง
คลิกอ่านฉบับเต็ม "Rivian สร้างรถยนต์ไฟฟ้าให้เหนือชั้นกว่า Tesla" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine