Peggy Cherng ผู้สร้าง Panda Express นักวิทย์แห่งอาหารจีน - Forbes Thailand

Peggy Cherng ผู้สร้าง Panda Express นักวิทย์แห่งอาหารจีน

FORBES THAILAND / ADMIN
26 Mar 2024 | 09:00 AM
READ 3983

Peggy Cherng สร้าง Panda Express ให้กลายเป็น McDonald’s ฉบับอาหารจีน โดยใช้ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์และบิ๊กดาต้าที่เรียนมาช่วยเพิ่มยอดขายให้โตอย่างรวดเร็ว และสร้างตัวเองจนกลายเป็นเศรษฐีหลายพันล้านในที่สุด


    ความร้อนระอุในเมือง Los Angeles ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วไม่ได้ทำให้ Peggy Cherng เนือยลงแต่อย่างใด เศรษฐีพันล้านวัย 75 ปี ผู้ร่วมก่อตั้ง Panda Express กำลังเดินเล่นระหว่างอาคารวิจัยอันทันสมัยและสวนเซนสไตล์ญี่ปุ่นที่โอบล้อมอาณาเขตโรงพยาบาล City of Hope ขนาด 100 เอเคอร์ ซึ่งเธอให้ทุนสนับสนุนโครงการ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ทำเรื่องการผสมผสานเวชปฏิบัติตะวันออกกับตะวันตก “เป็นการนำสิ่งที่ดีที่สุดที่เรามีในฐานะชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมาสู่ตะวันตก” เธอบอก

    Cherng รู้ดีแน่นอน เพราะเธออพยพมาจากฮ่องกงในช่วงทศวรรษ 1960 และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ในช่วงทศวรรษ 1970 จากนั้นก็ลาออกจากอาชีพนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีอนาคตสดใสทันทีเพื่อใช้ทักษะ STEM ของเธอในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นั่นก็คืออาหารจานด่วน โดยรังสรรค์สูตรอาหารจีนที่พอเหมาะพอเจาะกับรสนิยมของชาวอเมริกัน

    4 ทศวรรษต่อมา จุดเริ่มต้นจากร้านอาหารเพียงแห่งเดียวในห้างสรรพสินค้าในตอนใต้ของ California ได้เติบโตจนกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีสาขากว่า 2,400 แห่ง โดยขายหมี่ผัด เนื้อปักกิ่ง และไก่ซอสส้มได้กว่า 5 พันล้านเหรียญทุกปีในศูนย์อาหาร อาคารผู้โดยสารในสนามบิน และร้านไดรฟ์ทรูทั่วประเทศ

    สูตรลับของ Panda Express ไม่ใช่แค่ซอสเปรี้ยวหวาน แต่เป็นความเหนือชั้นด้านเทคนิคและความคิดอันเป็นระบบของ Cherng “มีคนมากมายในธุรกิจร้านอาหารที่ไม่ได้ฝึกมาแบบเดียวกับวิศวกร” เธอกล่าว “ฉันเลยได้เปรียบ”

    Cherng มองทุกอย่างเป็นโครงสร้างและระบบ เช่น วิธีจัดระเบียบข้อมูลให้ดีที่สุด วิธีคิดเมนูที่ปรุงจำนวนมากๆ ได้ วิธีอบรมพนักงานใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์มาก

    Panda Express ทำให้ Cherng ร่ำรวยขึ้นมา เธอมีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 3.1 พันล้านเหรียญ และเป็นหนึ่งในสตรีผู้มั่งคั่ง 12 คนที่สร้างตัวเองในทำเนียบ Forbes 400 โดยเธอเป็น 1 ใน 2 คนที่เกิดในเอเชีย ส่วน Andrew Cherng สามีวัย 76 ปีของเธอซึ่งเป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอร่วมมีทรัพย์สินอีก 3.1 พันล้านเหรียญ ทั้งสองเป็นเจ้าของหุ้น 100% ในบริษัทเอกชนใน Rosemead รัฐ California แต่พวกเขามุ่งมั่นที่จะแบ่งปันความมั่งคั่ง

    บริษัทเล่าว่า เกือบครึ่งหนึ่งของผู้จัดการทั่วไปเต็มเวลาของ Panda มีรายได้มากกว่า 100,000 เหรียญในปีที่แล้ว และผู้จัดการคนหนึ่งมีรายได้ถึง 277,000 เหรียญ

    Peggy เกิดที่ประเทศพม่าในปี 1947 แต่ใช้ชีวิตวัยเด็กส่วนใหญ่ใน Zhangzhou และฮ่องกง ด้วยทักษะคณิตศาสตร์อันเป็นเลิศ เธอเข้าเรียนที่ Baker University ซึ่งเป็นสถาบันเล็กๆ ในเมืองเล็กๆ ของรัฐ Kansas สหรัฐฯ ที่ซึ่งนักเรียนชาวเอเชียไม่กี่คนจะเกาะกลุ่มกัน

    ที่นั่นเองที่เธอได้พบกับ Andrew และทั้งสองก็คบกันมาตลอด แม้กระทั่งตอนที่เธอได้ทุนและต้องย้ายไปเรียนที่ Oregon State และเขาเองก็ต้องย้ายไป L.A. เพื่อช่วยลูกพี่ลูกน้องบริหารร้านอาหารจีน Peggy ผู้ซึ่งใฝ่ฝันจะเป็นนักประดิษฐ์จบปริญญาโท สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และจบปริญญาเอก สาขาวิศวกรรมไฟฟ้าจาก University of Missouri ในปี 1974

    แทนที่จะเธอเป็นอาจารย์หรือนักประดิษฐ์ เธอไปทำงานให้ McDonnell Douglas โดยออกแบบระบบและช่วยพัฒนาระบบจำลองสถานการณ์รบสำหรับกองทัพเรือ ตามมาด้วยงานชั่วคราวในโครงการสร้างระบบจดจำใบหน้าและเสียงระยะแรกๆ ที่ Comtal ในเมือง Pasadena ซึ่งต่อมา 3M ซื้อกิจการไป

    ส่วนตอนกลางคืนและวันหยุดสุดสัปดาห์เธอจะมาเป็นพนักงานต้อนรับที่ Panda Inn ร้านอาหารเล็กๆ ใน Pasadena ที่ Andrew เปิดในปี 1973 กับพ่อของเขาโดยใช้เงิน 60,000 เหรียญจากเพื่อน ครอบครัว และเงินกู้จากองค์กรบริหารจัดการธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐฯ (SBA)

    จุดเปลี่ยนชีวิตคือ วันส่งท้ายปีเก่าปี 1982 วันรุ่งขึ้นจะมีการแข่งอเมริกันฟุตบอลระหว่างทีม UCLA Bruins กับ Michigan ที่สนาม Rose Bowl และก่อนเกมสำคัญครอบครัวของ Terry Donahue โค้ชในตำนานของทีม Bruins ก็แวะมาทานอาหารเย็น “เราชอบมาก”


    ครอบครัว Cherng กระโจนเข้าสู่เส้นทางใหม่ด้วยการเปิดร้าน Panda Express สาขาแรกในปลายปีนั้น โดยขายอาหารเหมือนใน Panda Inn ในรูปแบบเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่รวดเร็ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คิวยาวออกไปนอกประตูกันเลยทีเดียว

    ครอบครัว Cherng ขยายธุรกิจเร็วแบบเดียวกับ Ray Kroc โดยเกาะกระแสช่วงห้างสรรพสินค้าเฟื่องฟูในทศวรรษ 1980 ด้วยการเปิดสาขาในศูนย์การค้าใหม่ๆ ทั่วประเทศไม่ว่าจะต้องยุ่งยากเรื่องซัพพลายเชนแค่ไหนก็ตาม ซึ่งไม่ใช่วิธีที่คนจบ MBA จะทำ

    ภายในปี 1991 Panda Express เติบโตจนมี 18 สาขา แต่การเป็นร้านอาหารหลักในฟู้ดคอร์ทกลายเป็นเรื่องไม่น่าตื่นเต้นไปแล้ว “มันเป็นตลาดที่คู่แข่งไม่เยอะก็จริง แต่คุณไม่สามารถสร้างแบรนด์ต่อได้” Cherng กล่าว “ลูกค้าก็มองคุณเป็นแค่ร้านจีนร้านนึง”

    ครอบครัว Cherng เอากำไรจากร้านในห้างมาขยายกิจการด้วยการสร้างร้านแบบตั้งเดี่ยวของตนเอง ในปัจจุบันเครือนี้มีจำนวนร้านในห้างสรรพสินค้าเพียง 156 สาขา จากทั้งหมด 2,400 สาขาในสหรัฐฯ และคิดเป็น 5% ของยอดขายทั้งหมด

    ในทศวรรษที่ผ่านมา Panda ได้เพิ่มสาขาใหม่ 800 แห่ง สร้างยอดขายเกินกว่า 5 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจาก 2.2 พันล้านเหรียญในปี 2014 เป้าหมายคือ การเปิดร้านใหม่ประมาณ 100 แห่งต่อปีในอเมริกาไปเรื่อยๆ และเพิ่มรายได้เท่าตัวเป็น 1 หมื่นล้านเหรียญภายในปี 2028



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : VinFast อีวีเวียดนามที่ขอทะยานฝัน สู่แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ในรูปแบบ e-magazine