Melinda French Gates และ MacKenzie Scott มีเงินหลักพันล้านที่พร้อมบริจาค โดยทั้งคู่อยู่ฝั่งตรงข้ามในการฟ้องหย่าซึ่งแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ และตอนนี้ ก็ดูเหมือนทั้งสองกำลังเดินหน้าครองแชมป์สนามการกุศลในรูปแบบที่ต่างออกไปจาก Bill Gates และ Jeff Bezos อดีตสามีของพวกเธอ
เมื่อวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น Wall Street Journal รายงานว่า Melinda French Gates จะไม่มอบเงินส่วนมากของเธอให้กับ Gates Foundation อีกต่อไป และจะเสาะหามูลนิธิอื่นๆ ที่ไม่ใช่มูลนิธิที่เธอร่วมก่อตั้งกับ Bill Gates สามีของเธอเป็นเวลามากกว่า 2 ศตวรรษ
เธอไม่ได้เผยข้อมูลเจาะจงใดๆ ว่าเงินเหล่านั้นจะไปอยู่ที่ไหน แต่ได้แอบใบ้ว่าเธอจะเดินหน้าบริจาคในตอนใหม่ของชีวิตเธอนี้ อย่างไรก็ดีในจดหมาย Giving Pledge ของเธอที่ถูกเผยแพร่เมื่อปลายปีที่แล้ว French Gates เขียนว่า มัน “สำคัญที่เราจะไว้วางใจบุคคลและองค์กรทั้งหลายที่เราร่วมมือด้วย และให้พวกเขานิยามความสำเร็จในแบบของพวกเขาเอง”
หากนั่นคุ้นหูล่ะก็ มันเป็นเพราะว่า MacKenzie Scott ก็เขียนด้วยธีมคล้ายๆ ในโพสต์บนเว็บไซต์ Medium ที่เธอเผยแพร่เมื่อสิ้นปี โดยในโพสต์ดังกล่าว เธอปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายชื่อผู้รับเงินบริจาครอบล่าสุด (ต่อมา เธอได้กลับลำ และจะปล่อยข้อมูลให้ทราบมากกว่านี้ในปีนี้) และในบางส่วนของบทความ เธอได้โต้แย้งว่าผู้รับเงินควรจะสามารถ “พูดแทนตัวเองได้” เรา “เชื่อใจในสถิติด้านอิมแพ็ค และข้อมูลภายในเกี่ยวกับทีมงานที่ถูกเลือกมาอย่างดีนับร้อยที่กำลังทำงานอยู่ในแต่ละคอมมิวนิตี้” Scott เขียนไว้
การกุศลแบบใหม่
การกุศลแบบ “ยึดความไว้วางใจ” หรือ “trust-based” ที่ผู้บริจาคมุ่งจัดการปัญหาความไม่สมดุลทางอำนาจกับผู้รับเงินบริจาคเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่แน่ๆ คือ French Gates และ Scott ไม่ได้เป็นผู้คิดค้นแนวคิดแบบวางมือ และปล่อยให้ผู้รับเงินบริจาคตัดสินใจเรื่องต่างๆ เองขึ้นมา แต่นี้อาจนับเป็นการเปิดประตูให้ผู้คนมีสปิริตการให้ในแบบนี้มากขึ้น Elizabeth Dale รองศาสตราจารย์ด้านการเป็นผู้นำจาก Seattle University กล่าว
“เราอยู่ในช่วงที่หลายๆ อย่างมารวมตัวกันเพื่อตอบสนองนักกิจกรรมรากหญ้าและผู้นำองค์กรไม่แสวงกำไร ผู้คนเริ่มตั้งคำถามกับแนวคิดที่ว่าเหล่าคนใจบุญผู้มั่งคั่งรู้ดีว่าอะไรดีที่สุด และข้อวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวก็มีมานานมากแล้ว” เธอเสริม
การกุศลยึดความไว้วางใจตรงข้ามกับการกุศลที่ดูผลกระทบเป็นหลักที่เหล่าผู้บริจาคต้องการจะวัดว่าเงินที่พวกเขาทุ่มไป มันสร้างความเปลี่ยนแปลงจริงๆ หรือไม่
มูลนิธิที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ บางแห่งก็เลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์มากกว่า ซึ่งในนั่นก็รวมไปถึง Hewlett Foundation หรือแม้กระทั่ง Gates Foundation ด้วย และนั่นก็เป็นบางอย่างที่เศรษฐีพันล้านแห่งวงการเทคชื่นชอบ Hans Schmitz ศาสตราจารย์ประจำ Nonprofit Institute แห่ง University of San Diego กล่าว
“ผมก็ไม่รู้นะ . . . ว่า Melinda กำลังจะทำแบบ MacKenzie Scott เป๊ะๆ หรือไม่ แต่ Scott เองก็กำลังทำการกุศลในรูปแบบที่แตกต่างมาก เพราะนั่นเหมือนกำลังบอกว่า ‘เฮ้ เราอาจจะแค่อยากบริจาคเงิน และปล่อยให้คนที่ได้รับเงินไปตัดสินใจเองว่าเขาจะนำเงินก้อนนั้นไปทำอะไร" Schmitz อธิบาย
นอกจากนี้ French Gates เองก็ได้บอกถึงความแตกต่างของวิธีต่างๆ เหล่านี้ในจดหมาย Giving Pledge ของเธอเป็นนัยๆ อยู่ด้วย เธอเขียนไว้ว่า มันสำคัญเลยทีเดียวที่เราจะ “ขับเคลื่อนด้วยดาต้า” และตั้ง “เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ และวัดความคืบหน้าของเราโดยเทียบกับเป้าหมายเหล่านั้น” แต่สิ่งที่ “สำคัญพอๆ กัน” คือไว้ใจผู้ที่เธอได้บริจาคเงินให้
Schmitz เสริมว่าการยึดความไว้วางใจ และมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบ ไม่จำเป็นที่จะต้องขัดแย้งกันด้วยซ้ำ โดยเขากล่าวว่า “เรื่องมันอยู่ที่ว่าผู้บริจาคมีอำนาจควบคุมมากขนาดไหน”
เพื่อให้เข้าใจตรงกัน Hewlett Foundation, Gates Foundation และมูลนิธิอื่นๆ ไว้ใจกลุ่มที่พวกเขาบริจาคเงินให้ แต่สถาบันเหล่านี้เรียกขอข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์มากกว่าที่ Scott ขอ ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวไว้
French Gates และ Scott ไม่ใช่เพียงคนกลุ่มเดียวที่เรียกร้องให้บริจาคแบบยึดความไว้วางใจมากขึ้น
ในช่วงแรกๆ ของสถานการณ์โรคระบาด มูลนิธิมากกว่า 800 แห่งเซ็นสัญญาจาก Council on Foundations เป็นการให้คำมั่นว่าจะคลาย หรือไม่ก็ปลดข้อจำกัดต่างๆ เกี่ยวกับเงินทุนปัจจุบัน และ “ยอมรับว่าวิธีแก้วิกฤตการณ์นานาประการอันเนื่องมาจากโควิด-19 ที่ดีที่สุด ไม่สามารถพบได้ภายในมูลนิธิต่างๆ”
“มันแตกต่างจากการกุศลแบบดั้งเดิมอย่างมาก แบบที่การคิดทบทวนอย่างมีกลยุทธ์เกิดขึ้นในหอคอยงาช้าง และองค์กรไม่แสวงกำไรก็ต้องยอมจำนนต่อแนวคิดที่เกิดขึ้นบนหอคอยนั้น” Pia Infante ผู้ร่วมก่อตั้ง และสมาชิกคณะกรรมการอำนวยการแห่ง Trust-Based Philanthropy Project กล่าว โดยโปรเจ็กต์นี้ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2018 และตีพิมพ์วิธีปฏิบัติต่างๆ สำหรับมูลนิธิทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทุน multiyear, เงินช่วยเหลือแบบไม่มีเงื่อนไข และทำให้งานเอกสารฝั่งผู้รับบริจาคง่ายขึ้น
ก้าวต่อไปของ Melinda French Gates และ MacKenzie Scott
ในขณะที่ตัวเลขเงินบริจาคของ Scott 8.75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปี (พร้อมกับเงินบริจาคก้อนใหม่ถึง 133 ล้านเหรียญที่ประกาศไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา) เป็นเงินบริจาคแบบไร้ข้อจำกัด แต่เราก็ไม่รู้เลยว่า French Gates จะทำแบบเดียวกันหรือไม่
ทั้งสองสตรีร่วมมือกันครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้วใน Equality Can’t Wait Challenge การประกวดเฟ้นหาไอเดียที่จะมาขยายพลังและอิทธิพลสตรีในสหรัฐฯ ให้สำเร็จก่อนปี 2030 ซึ่งผู้ชนะทั้ง 4 คนได้รับเงินรางวัล 10 ล้านเหรียญเพื่อนำไปสานต่องานของพวกเธอ
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจที่ French Gates จะก้าวออกมาจากเงาหลังจากการหย่าของเธอ Jim Ferris ผู้อำนวยการ Center on Philanthropy and Public Policy ประจำ University of Southern California กล่าว
มันเป็นเรื่องปกติที่คู่รักจะแบ่งการกุศลกันหลังหย่าร้าง และ French Gates ก็ได้เพาะพันธุ์ผลประโยชน์ของเธอเองผ่าน Pivotal Ventures บริษัทลงทุนและบ่มเพาะที่ก่อตั้งในปี 2015 ของเธอมาสักพักแล้ว
“ผมเห็นนี่เป็นเพียงแค่ไดนามิคที่เกิดขึ้นในครอบครัวทั่วไป ก็แบบว่า พวกเขามาเจอกัน และก็ห่างกันในบางที และการกุศลมันก็เป็นประมาณนั้นเหมือนกัน” Ferris กล่าว
แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ How Melinda French Gates And MacKenzie Scott Are Shifting The Focus Of Philanthropy เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: เศรษฐีใจบุญชาวอเมริกัน ประจำปี 2022
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine