Kasa Living สตาร์ทอัพ ที่จะเข้ามายกระดับ Airbnb ให้ดีกว่าเดิม - Forbes Thailand

Kasa Living สตาร์ทอัพ ที่จะเข้ามายกระดับ Airbnb ให้ดีกว่าเดิม

FORBES THAILAND / ADMIN
14 Oct 2020 | 07:30 PM
READ 986

Kasa Living คือ สตาร์ทอัพ ที่ให้บริการแบ่งปันที่พักให้เช่าระยะสั้น ทั้งในโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว ซึ่งล่าสุด ได้รับเงินระดมทุนในมูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรอบ Series B เพื่อที่จะพัฒนาซอฟต์แวร์ และระบบปฏิบัติการ โดยการระดมทุนในครั้งนี้ นับเป็นการเพิ่มมูลค่าจากเดิมที่ได้รับในรอบ Series A จำนวน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ

สิ่งที่ลูกค้าของ Kasa เห็น เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ของปัญหาทั้งหมดเท่านั้น เพราะเบื้องหลังการทำงานที่มีความสลับซับซ้อน เป็นสิ่งที่ได้รับการแก้ไขด้วยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีตัวนี้  Nick Shalek หุ้นส่วนผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Ribbit Capital ผู้ซึ่งเป็นผู้นำในรอบระดมทุนรอบล่าสุด กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทร่วมลงทุนรายอื่นๆ อีกมากมาย อาทิเช่น RET Ventures, Zigg Capital, FirstMark Capital, Allegion Ventures และ BoxGroup

Kasa Living
ตัวอย่างห้องเช่า ในรัฐ Texas

Kasa Living ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดย Roman Pedan อดีตพนักงานตำแหน่งนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ใตลาดหลักทรัพย์ (Real Estate Private Equity Investor) ของบริษัท KKR กล่าวว่า ขณะที่เขายังศึกษาอยู่ที่ Stanford business school ชื่อเสียงของ Airbnb กำลังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวได้รับ กลับมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งในทิศทางที่ดีและไม่ดี เพราะฉะนั้นสิ่งที่พวกเขาขาด ก็คือ บริการที่เชื่อถือได้  หรือองค์ประกอบของความน่าไว้วางใจ

ด้วยเหตุนี้  เขาจึงตัดสินใจที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่มีมาตรฐานมากขึ้น แต่ยังราคาถูกกว่าหลายๆ โรงแรม โดยการใช้ประโยชน์จากห้องว่างในโรงแรม และอะพาร์ทเมนต์ต่างๆ ซึ่งจากการรายงานพบว่า ปัจจุบัน ค่าเช่าของ Kasa เริ่มต้นที่ประมาณคืนละ 130 เหรียญสหรัฐ

พาร์ทเนอร์ หรือคู่ค้าทางธุรกิจรายแรกของ Kasa คือ อะพาร์ตเมนต์ในเมือง Santa Clara รัฐ California ซึ่งเจ้าของอาคารได้เสนอห้องว่างทั้งหมด 4 ห้อง ให้มาใช้ในช่วงทดลองระบบ ซึ่งขณะนั้น พวกเขามีเวลาน้อยกว่า 1 สัปดาห์ ในการเปลี่ยนห้องว่างเหล่านั้นพวกเราต้องนอนอยู่บนพื้น เพราะเตียงนอนยังไม่ได้แม้แต่จะสร้างเลย” Pedan กล่าว

Kasa Living
Roman Pedan ประธานกรรมการบริหารบริษัท Kasa Living

กล่าวได้ว่า กระบวนการทดลองได้ผ่านไปได้ด้วยดี และในที่สุด เมื่อสิ้นปี 2018 ที่ผ่านมา Kasa สามารถรวบรวมห้องว่างที่พร้อมให้บริการได้ถึง 100 ห้อง ใน  6 เมือง ให้เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม ขณะที่ปัจจุบัน มีเกือบ 1,000 ห้องใน 35 เมืองแล้ว อีกทั้งยังมียอดการจองต่อปีถึง 100,000 ยอด และสามารถจบปีงบประมาณด้วยยอดขายที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่จากมูลค่าดังกล่าว บริษัทยังไม่ได้ถือว่าสามารถสร้างกำไรได้มากนัก

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 Pedan กล่าวว่า บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่าร้อยละ 50 โดยมีสาเหตุมาจากการที่ผู้คนจำนวนมากพยายามมองหาที่พักอาศัยระยะสั้นนอกใจกลางเมือง ซึ่งผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ มักเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ต้องเดินทางและกลุ่มครอบครัว

Kasa ได้พยายามพัฒนาตนเองให้สามารถเทียบเท่าธุรกิจของ Airbnb แม้ว่าตลาดนี้จะเป็นตลาดที่ใหญ่มากก็ตาม  ขณะนี้ อุตสาหกรรมประเภทบริการที่พักให้เช่าระยะสั้น มีมูลค่ามากกว่า 1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ”

ทั้งนี้ หนึ่งในสาเหตุที่มูลค่าอุตสาหกรรมข้างต้นมีอัตราสูงขึ้น เป็นผลมาจากการที่ผู้คนประเมินมูลค่าของโรงแรม แตกต่างจากที่ผ่านมาในอดีต” Mark VanStekelenburg กรรมการผู้จัดการของ CBRE บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวในรายงานฉบับเดือนกุมภาพันธ์

มากกว่านั้น รายงานฉบับข้างต้นยังได้กล่าวอีกว่าบริการที่พักให้เช่าระยะสั้นกำลังถึงจุดอิ่มตัวในตลาดเมืองใหญ่ แต่ Kasa ยังมีพื้นที่ให้ขยายฐานการเติบโตต่อไปได้อีกมาก

แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Kasa Living, A Short-Term Rental Startup, Raises $30 Million To Create A More Formal Airbnb เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: MULBERRY GROVE ดีไซน์เพื่อคนทุกเจนฯ