Facebook รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 เหนือการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์วอลล์สตรีท แต่มีแนวโน้มลดลง “อย่างมีนัยสำคัญ” จากนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ของ Apple บน iOS 14.5 ที่จะทำให้กำหนดและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทางโฆษณาได้ลดลง
ด้วยอานิสงส์ของการเติบโตของรายได้ค่าโฆษณาในสภาวะวิกฤตโรคระบาด ประกอบกับราคาเฉลี่ยต่อโฆษณาที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้รายได้ของ
Facebook พุ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 48 มาอยู่ที่ 2.617 หมื่นล้านเหรียญ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อยู่ที่ 2.367 หมื่นล้านเหรียญ และมีกำไร 9.5 พันล้านเหรียญ และมีกำไร 9.5 พันล้านเหรียญ
ขณะที่รายจ่ายของบริษัทประจำปีคาดว่าอยู่ที่ราว 7-7.3 หมื่นล้านเหรียญ เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ Oculus Quest และบริการเกมต่างๆ บน Oculus อย่างต่อเนื่อง
ในที่นี้ แพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ใหญ่ที่สุดในโลกระบุว่า ในอนาคตบริษัทจะเดินหน้าพัฒนาฟีเจอร์ด้านอี-คอมเมิร์ซต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตของการค้าออนไลน์
“เรามีหนทางอีกยาวไกลในการสร้างฟีเจอร์สำหรับแพลตฟอร์มการค้าที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ...ซึ่งผมมุ่งมั่นที่จะไปถึงจุดนั้นให้ได้” Mark Zuckerberg ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Facebook กล่าวกับนักวิเคราะห์ในการประชุมทางโทรศัพท์เพื่อหารือเกี่ยวกับผลประกอบการ
หลังจากประกาศผลประกอบการในไตรมาสล่าสุด หุ้นของ Facebook ก็ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 6.5 มาอยู่ที่ 326 เหรียญสหรัฐฯ ในช่วงเวลาซื้อขายนอกเวลาทำการ
“แม้จะมีปัญหาหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการการตรวจสอบข้อเท็จจริงฐานผูกขาดทางธุรกิจ นโยบายความเป็นส่วนตัว ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสามารถส่งผลเสียต่อธุรกิจโฆษณาของตน แต่ Facebook ก็ยังมีผลประกอบการอีกหนึ่งไตรมาสที่ดีเกินคาด” Jesse Cohen นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Investing.com กล่าว
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงโควิด-19 ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นของ Facebook เท่านั้น แต่หมายรวมถึงบริษัทรายใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Google ที่ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Alphabet บริษัทแม่ได้ออกมาแถลงกำไรของไตรมาสที่ผ่านมา
นอกจากนี้ Zuckerberg ยังเผยว่า ขณะนี้บริษัทมีแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่ 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ เทคโนโลยี AR และ VR, แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ และวิธีที่จะทำให้เจ้าของคอนเทนต์สามารถสร้างรายได้บนแพลตฟอร์มได้
อย่างไรก็ดี Facebook คาดการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวของ iPhone จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทในไตรมาสที่ 2 แต่การเติบโตของรายได้ในไตรมาสที่ 3 และ 4 อาจชะลอตัวลงตามลำดับ
โดยก่อนหน้านี้ ทางบริษัทเคย
กล่าวว่า Apple ในประเด็นที่นักพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับ iPhone เริ่มขออนุญาตผู้ใช้รวบรวมข้อมูลบางอย่างสำหรับโฆษณา ซึ่งทางบริษัทเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลกระทบทั้งต่อบริษัทและธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องพึ่งพาการโฆษณารายบุคคล
และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Facebook ก็ได้ออกมาประกาศว่า เตรียมพัฒนาฟีเจอร์ห้องแชทด้วยเสียงมาแข่งขันกับแอปพลิเคชัน Clubhouse
ปัจจุบัน บริษัทยังคงอยู่ภายใต้การตรวจสอบข้อเท็จจริงฐานผูกขาดตลาดโซเชียล และจำกัดโอกาสในการแข่งขันของผู้ประกอบการรายอื่นๆ โดยมุ่งเป้าไปยังการเข้าซื้อ Instagram ในปี 2012 และ Whatsapp ในปี 2014 ทั้งยังอยู่ภายใต้การดูแลของฝ่ายนิติบัญญัติในกระบวนการกลั่นกรองเนื้อหาของระบบอัลกอริทึมและการจัดการข้อมูลของผู้ใช้
แปลและเรียบเรียงจากบทความ Facebook benefits from pandemic ad spending but Apple could spoil its party เผยแพร่บน Reuters.com
อ่านเพิ่มเติม:
Microsoft เกือบขึ้นแท่นบริษัทสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าสูงแตะ 2 ล้านล้านเหรียญ ต่อจาก Apple