Dean Solon สร้างทรัพย์สินหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยการผลิตอุปกรณ์จำเป็นแบบเดียวกับที่สามารถสั่งทำได้ถูกๆ ในจีน เคล็ดลับของเขาคือ ขายแพงกว่า แต่คุณภาพดีกว่า
ณ โรงงานขนาด 100,000 ตารางฟุตของ Shoals Technologies ในเมือง Portland รัฐ Tennessee ภารกิจค้นหาความเรียบง่ายของ Dean Solon เริ่มต้นจากการกำหนดสีเสื้อให้พนักงานตามแบบตัวละครใน Sesame Street “โลโก้ของ SunPower สีเหลืองเหมือน Big Bird และ First Solar สีแดงเหมือน Elmo” เขาอธิบาย ส่วนพนักงานที่ผลิตสินค้าให้ Blattner Energy ซึ่งเป็นผู้รับเหมาติดตั้งโซลาร์ฟาร์มให้สวมเสื้อสีน้ำเงินเหมือน Cookie Monster “แล้วก็มี Count von Count ตัวสีม่วงที่ชอบนับเลข กลุ่มนี้คือ ฝ่ายควบคุมคุณภาพ” พนักงานซึ่งไม่มีสหภาพแรงงานในโรงงาน 4 แห่งของ Shoals ในรัฐ Tennessee และ Alabama เป็นผู้ผลิตเครื่องในของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ พูดง่ายๆ คือ พวกเขาทำชิ้นส่วนจำเป็นทุกอย่างยกเว้นแผงโฟโตโวลเทอิกผิวมันวาวและอินเวอร์เตอร์ซึ่งจำเป็นสำหรับการส่งกระแสไฟฟ้าเข้าสู่โครงข่าย พวกเขาผลิตหัวเชื่อมต่อสายไฟ กล่องรวมกระแสไฟฟ้า และฟิวส์ภายนอก ซึ่งเป็นงานผลิตชิ้นส่วนไม่เร้าใจที่ใครๆ คิดว่าหนีไปทำาในจีนกันหมดตั้งหลายปีแล้ว แน่นอนว่าคู่แข่งของ Solon ส่วนใหญ่คือ บริษัทจีนอย่าง GCL System Integration และ Wuxi Sun King แต่ถึงแม้ชิ้นส่วนที่ผลิตในจีนจะราคาถูกกว่าของ Shoals แต่ Solon ก็ยังได้เปรียบ เพราะลูกค้ามองว่าชิ้นส่วนของเขาปลอดภัยกว่า เชื่อถือได้มากกว่า และติดตั้งง่ายกว่า นั่นแปลว่า บริษัทลูกค้ายอมจ่ายแพงขึ้น 5-10% เพื่อแลกกับการจ่ายค่าแรงและค่าซ่อมบำรุงที่น้อยลง ในปีที่แล้วราคาพรีเมียมส่วนนี้รวมกันเป็นกำไร 34 ล้านเหรียญจากยอดขาย 176 ล้านเหรียญ และหลังจาก Shoals เสนอขายหุ้น IPO เมื่อเดือนมกราคม Solon วัย 57 ปีก็มีทรัพย์สินประมาณ 2.2 พันล้านเหรียญ ซึ่งมาจากหุ้น 40% ของเขาในบริษัท และรายได้หลังหักภาษีจากการขายหุ้นไปก่อนหน้านั้น Solon พยายามทำให้ราคาพรีเมียมสำหรับสินค้าที่ผลิตในอเมริกาของเขาต่ำที่สุดเท่าที่ทำได้ด้วยการปรับกระบวนการผลิตให้มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด จอภาพที่ติดอยู่หน้าเครื่องจักรแต่ละเครื่องแสดงวิธีการทำงานแต่ละงานให้พนักงานดู ตั้งแต่การปอกและย้ำสายไฟไปจนถึงการติดตั้งฟิวส์และประกอบหัวเชื่อมต่อสายไฟ ที่นี่ไม่ได้วัดรอบการผลิตตามปริมาณงานที่คน 1 คนทำได้ต่อชั่วโมง แต่วัดเป็นต่อวินาที
ในปี 2003 เขาได้รับโทรศัพท์จาก First Solar ซึ่งต้องการสายไฟและกล่องพักสายสำหรับเชื่อมต่อกับแผงโซลาร์ หลังจากนั้นไม่นาน Cypress Semiconductor ก็อยากได้อุปกรณ์แบบเดียวกันสำหรับบริษัทที่แยกตัวออกมาเพื่อดำเนินธุรกิจด้านพลังงานแสงอาทิตย์ SunPower ด้วย
“ผมบ้าเครื่องยนต์กลไกมาตลอดชีวิต ผมเคยกะว่าเกษียณแล้วจะไปทำชิ้นส่วนรถยนต์” แต่เขาก็เปลี่ยนใจมาแนะนำแนวคิดเพื่อการผลิตที่สมบูรณ์แบบให้พวก “นักคิดที่จบปริญญาเอกกับนักประดิษฐ์ในห้องใต้ถุนบ้าน” ในวงการโซลาร์ เพราะคนเหล่านี้ไม่รู้ว่าจะเพิ่มผลผลิตอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ “ส่วนผมรู้แต่เรื่องการเพิ่มผลผลิต”
การปฏิวัติพลังงานแสงอาทิตย์ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แม้ในปี 2020 การผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 25% เป็น 130 กิกะวัตต์ชั่วโมง แต่การใช้พลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมไฟฟ้าพลังน้ำ) ยังคิดเป็นเพียง 12.5% ของพลังงานรวมทั้งหมดที่ผลิตได้ในประเทศ และปัจจัยที่ช่วยให้ผู้เล่นในประเทศได้ก้าวขึ้นมาโดดเด่น นอกจากเรื่องคุณภาพสินค้าสูงกว่าแล้ว ก็ยังมีโอกาสจากการที่ Huawei ของจีนปิดธุรกิจโซลาร์ในสหรัฐฯ เมื่อปลายปี 2019 หลังจากสภาคองเกรสประกาศข้อกังวลว่า อุปกรณ์ของ Huawei อาจเป็นช่องทางใช้ในการโจมตีในโลกไซเบอร์ได้
น่าชื่นใจที่เห็นว่า Solon ยังคงให้ความสำคัญกับมนุษย์ในการดำเนินธุรกิจของเขา การใช้หุ่นยนต์อาจเป็นเรื่องน่าสนุกเมื่ออยู่ในสวนสนุก แต่ไม่ใช่ในโรงงานของ Shoals “หุ่นยนต์ทำงานได้ 24 ชม. 7 วันก็เจ๋งดี แต่หุ่นยนต์ไม่ต้องซื้ออาหารกลับบ้านไปเลี้ยงครอบครัวทุกเย็น” Solon กล่าว “ผมจะติดตั้งระบบอัตโนมัติแล้วใช้หุ่นยนต์ทำงานทั้งหมดในโรงงานก็ได้ แต่แบบนั้นผมก็เป็นคนใจร้ายสิ”
เรื่อง: Chris Helman เรียบเรียง: ธรรดร โสตถิอำรุง
ภาพ: Jamel Toppin
อ่านเพิ่มเติม:
- ทำเนียบ “30 UNDER 30” ผู้ที่สร้างความสะดวกสบายและสีสันให้กับทริปของคุณ
- GLOW RECIPE เผยเทคนิคใช้ TIKTOK กระตุ้นยอดขายทะลุ 100 ล้านเหรียญฯ
- “เศรษฐีใจบุญ” แห่งทวีปเอเชีย ประจำปี 2021 ตอนที่ 2
คลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine



