Chris Dixon นายทุนแห่งวงการคริปโต - Forbes Thailand

Chris Dixon นายทุนแห่งวงการคริปโต

FORBES THAILAND / ADMIN
06 Aug 2022 | 11:00 PM
READ 2694

การจัดอันดับ The Midas List สุดยอดทำเนียบ 100 Venture Capital ระดับโลกโดย Forbes ขอต้อนรับ Chris Dixon นักร่วมลงทุนแห่ง Andreessen Horowitz ที่กระโดดขึ้นจากอันดับ 7 ในปีที่แล้วสู่อันดับ 1 ประจำปีนี้

ในปี 2013 Chris Dixon นักลงทุนที่ผันตัวมาจากการเป็นผู้ประกอบการที่เต็มไปด้วยไอเดียธุรกิจและสร้างธุรกิจขึ้นมาหลากหลายกำลังมองหาโอกาสการลงทุนครั้งใหญ่ครั้งใหม่ ทศวรรษที่ 1980 โลกมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ตามมาด้วยอินเทอร์เน็ตในยุค 90 และช่วงปี 2000 จัดเป็นช่วงเวลาแห่งโทรศัพท์เคลื่อนที่  Dixon จึงเดินหน้าตามหาการลงทุนแห่งอนาคต ทั้งธุรกิจการจำลองภาพเสมือนจริง การพิมพ์ 3 มิติ และโดรน แต่สิ่งที่มาพลิกชะตาของเขาคือเส้นทางการเป็นนักลงทุนคือ การเดิมพันใน Coinbase ธุรกิจซื้อขายเงินคริปโตตั้งแต่ช่วงตั้งไข่บริษัทของเขาทุ่มเงิน 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อลงทุนใน Coinbase เมื่อปี 2013 และเมื่อบริษัทนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยไม่ได้เสนอขายหุ้นใหม่เมื่อเดือนเมษายน ปี 2021 Andreessen Horowitz มีหลักทรัพย์ในมือร่วม 30 ล้านหุ้น (คิดเป็น 15% ของหุ้นทั้งหมด) จากการลงทุนต่อเนื่องมาอีก 14 รอบการระดมทุน โดยหุ้นจำนวนนี้มีมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านเหรียญ หรือเท่ากับได้ผลตอบแทนประมาณ 60 เท่าตัว ภายในช่วงการปิดตลาดซื้อขายวันแรกของ Coinbase Coinbase เปรียบเสมือนเพชรยอดมงกุฎในพอร์ตการลงทุนซึ่งไม่เพียงจะทำให้ Dixon ในวัย 50 ปีกลายเป็นนักธุรกิจ VC ในคริปโตที่โดดเด่นที่สุด แต่ยังส่งให้เขากลายเป็นผู้ครองตำแหน่งหมายเลข 1 คนใหม่ในทำเนียบ Midas List ประจำปีของนักทำข้อตกลงธุรกิจชั้นนำสายเทคของเรา ผลงานความสำเร็จในการเจรจาข้อตกลงธุรกิจครั้งใหญ่อื่นๆ ของเขายังรวมถึง Uniswap ธุรกิจซื้อขายเงินคริปโตแบบไร้ตัวกลาง (มูลค่าประเมิน 1 หมื่นล้านเหรียญ), Avalanche บริษัทบล็อกเชนแบบโอเพ่นซอร์ส (6.3 หมื่นล้านเหรียญ) และ Dapper Labs ผู้สร้าง NBA Top Shot (7.6 พันล้านเหรียญ) “งานของผมไม่ใช่การทำนายอนาคต” Dixon กล่าวถึงการเดินทางบนเส้นทางธุรกิจของตัวเอง “งานของผมคือ ต้องฉลาดพอที่จะรู้ว่าใครคือคนฉลาดที่จะทำสิ่งนั้นได้” ด้วยภูมิหลังการเป็นลูกชายของสองอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษที่ Wittenberg University Dixon เรียนเขียนโค้ดด้วยตัวเองก่อนจะจบปริญญาตรีและปริญญาโทจาก Columbia และ MBA จาก Harvard เสียอีก เขากลายเป็นที่รู้จักในแวดวงเทคโนโลยีของ New York ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง SiteAdvisor ที่คอยเตือนผู้ใช้งานเกี่ยวกับไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ กับ Hunch บริการแนะนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามความสนใจของผู้ใช้ (แต่ละกิจการถูกเข้าซื้อในราคาราว 75 ล้านเหรียญ) นอกจากนี้ เขายังเป็นนักลงทุนรายบุคคลที่ร่วมลงทุนเป็นรายแรกๆ ในหลายบริษัท เช่น Kickstarter (ปี 2009), Pinterest (ปี 2012) และ Stripe (ปี 2012) ปัจจุบัน Dixon ใช้ชีวิตอยู่ทั้งใน New York และ California เขาถือเป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในวงการคริปโตที่เก่าแก่ที่สุดคนหนึ่ง และยังจัดว่าทุนหนาที่สุดคนหนึ่งด้วย มีรายงานว่าเขาระดมทุนได้ 4.5 พันล้านเหรียญสำหรับกองทุนใหม่ เพิ่มจากเดิมที่ระดมทุนร่วมกับ Ali Yahya และ Katie Haun ได้ 2.2 พันล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว (Haun เพิ่งจะแยกตัวไปเปิดกองทุนมูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญของตัวเองเมื่อไม่นานมานี้) “Chris มองธุรกิจนี้ทะลุปรุโปร่งตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น” Roham Gharegozlou ซีอีโอของ Dapper Labs กล่าว ก่อนจะหันมาสร้าง NFT ให้แก่ NBA เมื่อปี 2017 บริษัทนี้เกือบจะทำให้บล็อกเชน Ethereum ล่มด้วยเกม NFT ที่ชื่อว่า CryptoKitties (Dixon คว้า Kitty เบอร์ 15 มาได้) “ผมคิดจริงๆ ว่า เขาเข้าไปเพื่อปรับปรุงอินเทอร์เน็ตให้ดียิ่งขึ้น” เมื่อ 5 ปีที่แล้วก่อนจะจูงใจ Ben Horowitz (อันดับ 87 แห่ง Midas List) กับ Marc Andreessen ให้ปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อรองรับทุนในเงินคริปโต Dixon เล่าว่า เคยคิดเล่นๆ ว่าจะทำบล็อกกับพอดแคสต์แบบเต็มตัวซึ่งก็ยังคงเป็นไปได้อยู่ แต่ตอนนี้บรรดาผู้ก่อตั้งและผู้คนที่รายล้อม Dixon ต่างตกตะลึงกับการตอบข้อความและอีเมลตลอดทั้งวันทั้งคืนของเขา แถมเขายังหาเวลาลงทุนในโปรเจ็กต์คริปโตต่างๆ ได้ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มเป็นที่สนใจด้วยซ้ำ สิ่งที่ว่ายังรวมถึงการยืนกรานหนักแน่นต่อจุดยืนของตัวเองในวิวาทะบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับเรื่อง Web3 โดยมีเศรษฐีพันล้านของ Twitter อย่าง Jack Dorsey เป็นหนึ่งในผู้เคลือบแคลงสงสัย ความกระตือรือร้นสนใจในอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคริปโตและแนวคิดไร้ตัวกลางของ Dixon ทำให้เขาตกเป็นเป้านิ่งแต่เขาก็ยืนยันว่า การออกหน้าปกป้อง Web3 เป็นมากกว่าการสื่อสารหลักการความเชื่อของตัวเอง “เราเป็นบริษัท VC ผมจะไม่พยายามแสร้งทำว่าเราไม่ใช่” Dixon กล่าว “แต่ผมจะบอกว่า ผมมีแรงจูงใจทำมันเพราะผมมองว่า (Web3) เป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญอย่างยิ่ง และผมอยากมีส่วนร่วมผลักดัน ผมเชื่อในสิ่งนี้อย่างแท้จริง” เรื่อง: ALEX KONRAD รายงานโดย: ELISABETH BRIER, KENRICK CAI, RASHI SHRIVASTAVA และ REBECCA SZKUTAK เรียบเรียง: วินิจฐา จิตร์กรี ภาพ: ETHAN PINES
คลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกรกฎาคม 2565 ในรูปแบบ e-magazine