Charley Shin ขอชีสหน่อย - Forbes Thailand

Charley Shin ขอชีสหน่อย

FORBES THAILAND / ADMIN
20 Apr 2018 | 02:48 PM
READ 10095

แนวทางที่ผู้อพยพเกาหลีรวบรวมอาณาจักรอาหาร ด้วยการเสิร์ฟของโปรดคนอเมริกัน

Charley Shin วัย 54 ปีเป็นชาวเกาหลี-อเมริกัน ผู้ก่อตั้ง Charleys Philly Steaks เครือข่ายร้านแซนด์วิชที่ตั้งขึ้นเมื่อ 33 ปีที่แล้วในเมือง Columbus รัฐ Ohio และขณะนี้มีสาขาแล้ว 600 แห่งทั่ว 45 รัฐของสหรัฐฯ และ 19 ประเทศ Charleys เป็นบริษัทเอกชน ซึ่งเมนู “submarine” แซนด์วิชขนาดยาวเหมือนเรือดำน้ำของทางร้าน รวมถึงแซนด์วิชชีสสเต็ก Philly แบบคลาสสิก พร้อมด้วยเมนูอื่นๆ อย่างแซนด์วิชอิตาเลียนเดอลุกซ์และไก่เทอริยากิ รักษาระดับการเติบโตเฉลี่ยไว้ได้ที่ 7% (เมื่อคิดจากยอดขายรวมทั้งระบบแฟรนไชส์) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะปิดฉากปี 2017 ด้วยยอดขาย 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ Charleys ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านแฟรนไชส์ครองตลาดเฉพาะกลุ่มสัดส่วนใหญ่ในศูนย์การค้าระดับภูมิภาค สนามบิน และฐานทัพทั่วสหรัฐฯ ด้วยสาขาจำนวน 503 แห่ง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นตลาดอันดับ 2 โดยมีร้าน 24 แห่ง ตามด้วยซาอุดีอาระเบีย 10 แห่ง และยังมีร้าน Charleys ในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นประเทศละ 5 ร้าน ซึ่งเป็นเพียง 2 แห่งในเอเชีย “เป้าหมายผมคือการขยาย Charleys ให้มี 3,000 สาขา” Shin กล่าว ความฝันของหมอโรคหัวใจ: เนื้อสเต็กฉ่ำๆ และชีสเหนียวนุ่ม ความรู้สึกผิดอันน่าพึงใจที่แท้จริง Shin ดูเด็กกว่าอายุจริงมาก และแผ่ความร่าเริงแบบเด็กๆ ที่ปกปิดไม่อยู่ออกมา เขายืนยันว่าจะพูดภาษาอังกฤษแทนที่จะเป็นภาษาบ้านเกิดกับนักข่าว เขาเกิดในกรุง Seoul และเดินทางมายังสหรัฐฯ ตอนอายุ 13 กับพี่สาวของเขาหลังจากแม่ของพวกเขาย้ายมาก่อนหน้านั้น 2 ปีเพื่อไล่ตามความฝันแบบอเมริกัน “ความสำเร็จ (ของผม) ส่วนใหญ่มาจากความรักและความทุ่มเทของแม่ผม” Shin กล่าว Shin เข้าเรียนที่ Ohio State University ซึ่งเขาเลือกเอกบริหารธุรกิจที่เน้นด้านการเงินและอสังหาริมทรัพย์ เขาทำงานหาเงินมาจ่ายค่าเล่าเรียน โดยช่วงหนึ่งทำงานเป็นคนล้างจาน ในตอนนั้นการเดินทางไป New York และการเลี้ยวอ้อมเข้าไปในเมือง Philadelphia ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องแซนด์วิชชีสและเนื้อย่างโดยบังเอิญได้เปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเขา Shin ได้รับประทานแซนด์วิชที่เยี่ยมมากและตัดสินใจทำเมนูเลียนแบบที่บ้าน “ผมใช้แค่กระทะทอดกลมอันเล็ก แต่แซนด์วิชชีสสเต็ก Philly (ของผม) มันดีมากๆ ผมขอให้เพื่อนลองชิมและเริ่มมั่นใจขึ้นเมื่อพวกเขาชอบมันมากจริงๆ” Charley Shin ผู้ก่อตั้ง Charleys บริษัทเจ้าของแฟรนไชส์ร้านแซนด์วิชชีสสเต๊กกว่า 600 สาขาทั่วสหรัฐฯ กับอีก 4 ประเทศทั่วโลก Shin หว่านล้อมให้แม่ช่วยเขาเริ่มทำธุรกิจอาหารอเมริกันคลาสสิก เธอเทเงินเก็บ 48,000 เหรียญเข้าสู่ธุรกิจนั้น “เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแซนด์วิชเลย แต่เชื่อมั่นในตัวลูกชายคนเดียวของเธอ” เขากล่าว จากการได้เงินเพิ่มอีก 3,000 เหรียญจากลุง Shin ซึ่งกำลังจะจบปี 3 ในปี 1986 เปิดร้านแห่งแรกตรงข้ามมหาวิทยาลัย “มันเป็นรูในกำแพง ขนาดไม่เท่าโรงจอดรถสองคันด้วยซ้ำ” เขากล่าวพร้อมหัวเราะ “ร้านแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก” “ตั้งแต่เด็ก ผมอยากเป็นนักธุรกิจแค่อย่างเดียว ไม่มีอย่างอื่นที่ผมอยากเป็นเลย” Shin กล่าว Mary ผู้ซึ่งกลายเป็นหวานใจสมัยมหาวิทยาลัยของเขา หลังพบกันในชั้นเรียนภาษาอังกฤษ ยืนยันว่า “เมื่ออาจารย์ถามว่าความฝันของพวกเราคืออะไร เขาจะตอบเสมอว่า ผมอยากเป็นมหาเศรษฐี” เธอกล่าว ขณะกรอกตาอย่างขี้เล่น เขาไม่ได้ขยันเรียนมากนัก แทนที่จะมีหนังสือเรียน เธอจำได้ว่ากระเป๋าของเขาเต็มไปด้วยนิตยสารธุรกิจมากมาย แล้วเขาก็พูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า “มี FORBES ด้วย” รูปแบบร้าน Charleys Philly Steak (Photo Credit: memorialcity.com) แม้จะได้รับผลตอบรับอย่างกระตือรือร้น แต่ Charleys กลับไม่ทำกำไรในช่วง 10 ปีแรก เมื่อบริษัทเปิดได้ถึง 100 แห่งในที่สุด Shin รู้ว่าเขาต้องยอมรับเรื่องการขาดทุน และมองธุรกิจในรูปแบบของการลงทุน แล้วความอดทนของเขาก็เห็นผล Charleys ขยายสาขาเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยบรรดานักกินตัวยงต่างต่อแถวรอต่อเนื่อง ภายใต้บริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนเองทั้งหมดของเขาชื่อ Gosh Enterprises Shin เก็บค่าธรรมเนียม 5% จากยอดขายของผู้ทำธุรกิจแฟรนไชส์มากกว่า 1 แห่ง และ 6% จากรายเล็กกว่า การลงทุนขั้นแรกสำหรับผู้ซื้อแฟรนไชส์หน้าใหม่อยู่ที่เฉลี่ย 380,000 เหรียญ Bibibop Asian Grill จับกระแสร้านฟาสต์-แคชวลด้วยบริการประกอบอาหาร มุ่งเน้นไปที่คนรุ่นใหม่ผู้กำลังมองหาอาหารเบาๆ ราคาย่อมเยา ตลาดอาหารฟาสต์ฟู้ดสหรัฐฯ ขนาด 2.10 แสนล้านเหรียญขยายตัวเพียงแค่ 2.7% ในปี 2016 ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ลูกค้าบางรายหันไปหาร้านแบบฟาสต์-แคชวล (ให้นึกถึงสลัดและข้าวหน้าต่างๆ) ซึ่งเสนอตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า ด้วยเหตุนี้ Shin จึงกำลังสนใจสร้างเครือข่ายร้าน Bibibop Asian Grillของเขามากยิ่งขึ้นในขณะนี้ โดยบริษัทเป็นเจ้าของ 26 สาขาในสหรัฐฯ เขาจึงไม่ได้บริหารงานประจำวันของ Charleys อีกต่อไป แต่คอยกำกับดูแลทิศทางแทน สำหรับ Shin ชาวคริสเตียนผู้ศรัทธาสรุปว่าความสำเร็จระยะสั้นอาจไขว่คว้ามาได้โดยไม่ต้องใช้คุณธรรมบางอย่าง แต่การดำรงรักษาธุรกิจไว้ จำเป็นต้องใช้สติปัญญา ความรัก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ความกล้าหาญ “ผมศึกษาเรื่องนี้มานาน และพบว่าผู้นำจำเป็นต้องฉลาด คุณไม่สามารถเอาคนไปทำภารกิจฆ่าตัวตายได้ พวกเขายังต้องเปิดกว้างยอมรับผู้คนได้จริงๆ เพื่อให้ได้รับความเชื่อใจ พวกเขาต้องเป็นที่รัก และต้องเป็นคนกล้าหาญจริงๆ เพราะต้องลองเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง และทำสิ่งที่คนอื่นกลัว”   เรื่อง: Grace Chung เรียบเรียง: ชูแอตต์
คลิกอ่านฉบับเต็ม "ขอชีสหน่อย" ได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ มีนาคม 2561 ในรูปแบบ e-Magazine