Alex Bouaziz พาสตาร์ทอัพ Deel ซิกแซกสู่ศักราชใหม่ธุรกิจทรัพยากรบุคคล - Forbes Thailand

Alex Bouaziz พาสตาร์ทอัพ Deel ซิกแซกสู่ศักราชใหม่ธุรกิจทรัพยากรบุคคล

FORBES THAILAND / ADMIN
24 May 2024 | 09:30 AM
READ 1428

บริษัทด้านทรัพยากรบุคคลของ Alex Bouaziz กลายเป็นสตาร์ทอัพพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Silicon Valley ด้วยสัญญาว่าจะแก้ปัญหาเรื่องการจ้างงานในต่างประเทศ แต่บริษัทนี้เร่งรีบสร้างตัวเองจนมีมูลค่าประเมิน 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลกังวลว่าบริษัทอาจหลบเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่บริษัทควรจะรักษาเสียเอง


    ณ วันที่อากาศร้อนอบอ้าวของเดือนกันยายนใน Washington, D.C. จู่ๆ Alex Bouaziz ซีอีโอของ Deel ก็ยิงคำถามใส่เหล่าพนักงานของเขาซึ่งนั่งอัดกันอยู่ในรถเก๋งสีเทาเรียบๆ ที่กำลังขับไปรอบ Capitol Hill

    “เรื่องเดียวที่ผมต้องรู้อย่างยิ่งเกี่ยวกับการเมืองสหรัฐฯ ก่อนไปพบกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคืออะไร” ซีอีโอชาวฝรั่งเศสวัย 30 ปีถามจากเบาะหลัง “ผมไม่อยากดูโง่จนเกินไป”

    ผู้บริหารคนหนึ่งรีบเสนอข้อความเก๋ๆ ซึ่งแปลงมาจากวลีดัง “เงินคือทุกสิ่งทุกอย่าง” แต่ Bouaziz รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว Deel ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพใน San Francisco ของเขาท้าทายโลกอันลึกลับแห่งสายงานกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานระหว่างประเทศมาตั้งแต่เปิดตัวในปี 2019

    โดยทุ่มเงินที่ได้จาก VC 675 ล้านเหรียญเพื่อช่วยบริษัทอื่นรับมือกับงานด้านกฎหมายและทรัพยากรบุคคลในกว่าร้อยประเทศ ในการแย่งพื้นที่ซึ่งชวนให้นึกถึงศึกระหว่าง Uber และ Lyft ที่ชิงกันแบบเมืองต่อเมืองในช่วงแรก Deel พยายามดิ้นรนเพื่อโตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ว่านั่นจะหมายถึงการใช้ประโยชน์จากพื้นที่สีเทา หรือปล่อยให้ลูกค้าฝ่าฝืนกฎระเบียบสักข้อ 2 ข้อก็ตาม

    “เรากำลังขยายขอบเขตของการจ้างงานทั่วโลก” Bouaziz บอก “ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คนคุ้นเคย”

    ซอฟต์แวร์ของเขาได้รับความนิยมในทันที การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เปลี่ยนระบบงานออฟฟิศทั่วโลกแบบถอนรากถอนโคน และทำให้รายได้ของ Deel พุ่งทะยานจาก 1.4 ล้านเหรียญในปี 2020 เป็น 169 ล้านเหรียญในปี 2022 ยอดขายปี 2023 ก็น่าจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว โดยมีมูลค่าประมาณ 350 ล้านเหรียญ และสำหรับรายได้ประจำต่อปีซึ่งเป็นเกณฑ์ชี้วัดยอดนิยมของธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัทเคยขึ้นไปถึงจุดที่ถือว่าเติบโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวงการนี้ Jeffrey Katzenberg นักลงทุนของ Deel และอดีตประธานกรรมการของ Disney Studios กล่าวว่า “ฟังดูเหมือนเทพนิยายหน่อยๆ”

    ในปี 2021 Bouaziz ติดอันดับในทำเนียบ 30 Under 30 ของ Forbes และในปี 2022 เขาและผู้ร่วมก่อตั้ง Shuo Wang วัย 34 ปี ได้เป็นเศรษฐีพันล้านอยู่ช่วงสั้นๆ จากการระดมทุนรอบหนึ่งซึ่งประเมินมูลค่าบริษัทไว้ถึง 1.2 หมื่นล้านเหรียญ (มูลค่าประเมินของ Deel ในตลาดรองลดลงเหลือราว 7 พันล้านเหรียญ ทำให้ ณ ปัจจุบันผู้ร่วมก่อตั้งมีมูลค่าทรัพย์สินคนละประมาณ 850 ล้านเหรียญ)

    แต่การเร่งสร้างกิจการก็มีผลกระทบตามมา และ Bouaziz ก็ต้องมาที่ Capitol Hill เพื่อเอาใจหน่วยงานกำกับดูแลซึ่งกังวลเรื่องที่มีการร้องเรียนว่า Deel จัดประเภทพนักงานของตัวเองผิดจากพนักงานเต็มเวลาเป็นฟรีแลนซ์ แต่ Bouaziz ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิดและได้นัดประชุมแบบมาราธอน 2 วันเพื่อเคลียร์เรื่องต่างๆ

    พนักงานผิดประเภทไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้ Deel ต้องปวดหัวกับรัฐบาล เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา Deel ได้เข้าไปพัวพันกับการสอบสวนของคณะกรรมการกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (Commodity Futures Trading Commission) ที่สืบสวน My Forex Funds ลูกค้ารายหนึ่งของ Deel ที่ถูกหน่วยงานของสหรัฐฯ หลายแห่งตั้งข้อหาฉ้อโกงอย่างเป็นทางการ

    Bouaziz กล่าวว่า Deel ได้ตัดบริษัทนี้ออกจากการเป็นลูกค้าแล้ว พร้อมกับบริษัทซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่คล้ายกันอีกสิบกว่าแห่ง ตามคำแนะนำจากธนาคารที่เป็นพันธมิตรของเขา แม้ Deel จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ Papaya Global สตาร์ทอัพซอฟต์แวร์ด้านทรัพยากรบุคคลจาก New York ที่เป็นคู่แข่งกันก็คว้าโอกาสนี้ด้วยการปล่อยแคมเปญการตลาดที่ตั้งคำถามว่า Deel กำลังใช้ “ทางลัด” หลบเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเพื่อ “ดำเนินกลยุทธ์สร้างเติบโตโดยไม่สนวิธีการ” ใช่หรือไม่

    ตัวแทนของ Papaya บอก Forbes ว่า บริษัทส่วนหนึ่งทิ้ง Deel มาหา Papaya นับตั้งแต่เกิดเรื่องอื้อฉาว ส่วนลูกค้ารายอื่นๆ รวมถึง Nike และ Subway ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจกับสถานการณ์ดังกล่าว และขอให้ Deel ลบโลโก้ของตนออกจากเว็บไซต์ (แต่ Bouaziz บอกว่า ทั้งสองแห่งยังคงเป็นลูกค้าอยู่)

    แต่ลูกระนาดพวกนี้ดูจะไม่สามารถชะลอความต้องการบริการของ Deel ลงได้มากนักเมื่อแรงงานอยู่ไกลกันและกระจายไปทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ Bouaziz คือข้อพิสูจน์ที่มีชีวิตถึงความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพราะเขาเองก็ต้องแบ่งเวลาไปอยู่ตามโฮมออฟฟิศของเขาทั้งใน Paris, London, Tel Aviv และ Dubai

    หลังจากที่สตาร์ทอัพแห่งแรกของ Bouaziz (แอปสร้างวิดีโอในมือถือชื่อ Lifeslice) ล้มเหลว เขากลับไปติดต่อกับเพื่อนร่วมรุ่นที่ MIT อย่าง Shuo Wang ในปี 2018 ต่อมาในปีเดียวกันทั้งสองคนใช้เวลาหลายสัปดาห์ที่ศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพ Y Combinator ในการสร้างซอฟต์แวร์ติดตามหนี้ ก่อนจะโละทิ้งแล้วหันไปสร้างแพลตฟอร์มจ่ายเงินให้บริษัทต่างๆ ที่จ้างพนักงานสัญญาจ้างในต่างประเทศ

    เมื่อถึงปลายปี 2019 ยอดขายของแพลตฟอร์มนี้โตอย่างต่อเนื่อง 20% โดยไม่ใช่อัตราต่อปีแต่เป็นต่อเดือน “บ้าไปแล้ว” Aaron Harris หนึ่งในที่ปรึกษาของ Y Combinator อุทานเมื่อได้ยินตัวเลข “รู้ไหมเนี่ยว่าธุรกิจนี้มันรุ่งแค่ไหน”

    ก่อนเกิดโรคระบาดการจ้างงานข้ามประเทศเกือบทั้งหมดเป็นเรื่องขององค์กรใหญ่ๆ เท่านั้น ส่วนกิจการขนาดเล็กลงมาถูกกีดขวางโดยต้นทุนที่เกี่ยวข้อง “เรื่องจริงก่อนหน้าจะมี Deel ก็คือ การจะปฏิบัติตามกฎข้อบังคับให้ได้ครบถ้วนนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย” Christophe Pasquier ผู้ร่วมก่อตั้ง Slite สตาร์ทอัพซอฟต์แวร์เพิ่มผลิตภาพซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้ารายแรกๆ ของ Deel เล่า

    เมื่อโควิด-19 บังคับให้คนต้องทำงานทางไกลอย่างเต็มตัว Bouaziz และ Wang จึงมองว่าเป็นเวลาวัดดวง และเงินจากการระดมทุนซีรี่ส์ A มูลค่า 14 ล้านเหรียญในเดือนพฤษภาคม ปี 2020 จากบริษัทเงินร่วมลงทุน Andreessen Horowitz ช่วยให้ Deel เร่งก่อตั้งบริษัทของตัวเองในต่างประเทศได้ และหากลูกค้าต้องการจ้างคนในเยอรมนีก็ว่าจ้างผ่านบริษัท Deel ในเยอรมนีได้

    ในช่วงแรกๆ ทีม “หน่วยซีล” ของบริษัทที่มีกัน 5 คนได้รับมอบหมายให้เดินทางจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งเพื่อตั้งบริษัทในแต่ละประเทศอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ความเร็วคือหัวใจของงานนี้ Wang บอกว่า ถ้าตั้งบริษัทช้าเกินไป Deel อาจเสียตลาดในประเทศนั้นให้คู่แข่งรายเล็กกว่า เช่น Remote (มูลค่าประเมิน3 พันล้านเหรียญ) หรือ Oyster (1 พันล้านเหรียญ)

    ในที่สุด Deel ก็ระดมเงินทุนไป 4 รอบ โดยมูลค่าประเมินของบริษัทพุ่งขึ้นเป็น 225 ล้านเหรียญ (กันยายน ปี 2020) จากนั้นไปเป็น 1.3 พันล้านเหรียญ (เมษายนปี 2021) 5.5 พันล้านเหรียญ (ตุลาคม ปี 2021) และรอบสุดท้ายอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านเหรียญ (พฤษภาคม ปี 2022) ผู้ร่วมลงทุนในบริษัทรวมถึง Spark Capital, Coatue และ Emerson Collective ของ Laurene Powell Jobs


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Danish Rahman นำทัพดานอนเสิร์ฟนวัตกรรม อาหารเด็ก-ผู้สูงวัย

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2567 ในรูปแบบ e-magazine