10 บริษัทฟินเทคมูลค่าสูงสุด จากทำเนียบ The Fintech 50 แห่งสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2023 - Forbes Thailand

10 บริษัทฟินเทคมูลค่าสูงสุด จากทำเนียบ The Fintech 50 แห่งสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2023

มูลค่าบริษัทที่ตกลงเกือบครั้งหนึ่งของ Stripe อยู่ที่ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่บริษัทฟินเทคแห่งนี้ ยังคงครองตำแหน่งบริษัทฟินเทคมูลค่าสูงสุด สวนทางกับอดีตอันดับที่ 2 และ 3 อย่าง Klarna และ FTX จากทำเนียบฟินเทคเมื่อปี 2022 ทั้งสองบริษัทหลุดจากทำเนียบ โดย FTX ถึงขั้นวิกฤตสุด บริษัทล้มละลาย ผู้ก่อตั้งถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง


    บริษัทฟินเทคของคุณระดมทุนครั้งล่าสุดเมื่อใด? ดูเหมือนว่าคำถามข้อนี้จะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการจัดอันดับ 10 บริษัทฟินเทคเอกชน “มูลค่า” สูงสุดประจำปีและเราได้ชี้แจงให้เห็น
หลังจากมูลค่าหุ้นของบริษัทฟินเทคในตลาดหลักทรัพย์ได้วิ่งผ่านจุดสูงสุดในฤดูใบไม้ร่วงปี 2021 มูลค่าของบริษัทฟินเทคเอกชนซึ่งจดทะเบียนไว้นอกตลาดได้ดิ่งลงถึงร้อยละ 60 จากมูลค่าที่เคยได้รับการประเมินสูงเกินกว่าความเป็นจริง เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาระดมทุนเมื่อเร็วๆ นี้

    ฟินเทคอย่าง Stripe ที่เราได้รับรู้และถูกยกย่องให้เป็นแบบอย่างของคนเทคและเดินหน้าสร้างการเติบโต กลับพบว่ามูลค่าบริษัทถูกประเมินใหม่ลดลงร้อยละ 47 เหลือเพียง 5 หมื่นล้านเหรียญ จาก 9.5 หมื่นล้านเหรียญเมื่อสองปีก่อนหน้านี้

    แม้บริษัทจะถูกหั่นมูลค่าการประเมินออกไปกว่าครึ่งแต่ Stripe ยังคงเป็นบริษัทฟินเทคเอกชนที่มีมูลค่าบริษัทสูงสุดในทำเนียบประจำปี 2023 ตรงข้ามกับ Klarna บริษัทซื้อก่อนจ่ายทีหลังซึ่งเคยรั้งอันดับ 2 ในปี 2022 ด้วยมูลค่า 4.6 หมื่นล้านเหรียญ ที่จำต้องเผชิญการประเมินมูลค่าซึ่งร่วงหล่นอย่างน่าใจหายถึง 85% เหลือเพียง 6.7 พันล้านเหรียญ ในการระดมทุนรอบเดือนกรกฎาคม 2022 ส่งผลให้ Klarna หลุดจากทำเนียบในปีนี้ไปโดยสมบูรณ์

    ข้อสำคัญที่ต้องรู้ไว้ รายชื่อ 10 อันดับของเราก็เหมือนกับปีที่ผ่านๆ มาคืออ้างอิงจากมูลค่าการระดมทุนจากผู้ลงทุนหน้าใหม่ครั้งล่าสุดของบริษัทฟินเทคในรอบปีของการจัดอันดับ โดยแต่ละบริษัทที่ปรากฎบนทำเนียบในปีนี้เคยถูกประเมินมูลค่าไว้นานเกินกว่าหนึ่งปียกเว้นเพียง Stripe

    สมาชิก 10 อันดับแรกส่วนใหญ่แล้วมีโอกาสที่มูลค่าจะตกต่ำลงมหาศาล หากพวกเขาออกมาระดมทุนเพิ่มในตอนนี้ หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ OpenSea ซึ่งเคยถูกประเมินมูลค่าที่ 1.33 หมื่นล้านเหรียญ หลังปิดการระดมทุนครั้งล่าสุดไปเมื่อเดือนธันวาคม 2021 ณ ตอนนั้น NFT กำลังมาแรงและ OpenSea ก็เป็นผู้นำตลาด NFT แต่ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้นแล้วและฟองสบู่ NFT ก็แตกกระจาย ปริมาณการซื้อขายรายเดือนของ OpenSea ดิ่งฮวบจาก 4.81 พันล้านเหรียญ เมื่อเดือนมกราคม 2022 เหลือเพียง 191 ล้านเหรียญ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา

    มูลค่าประเมินที่ตกต่ำอาจเป็นเรื่องยากจะยอมรับ แต่อย่างน้อยที่สุดบรรดาบริษัทฟินเทคต่างๆ ที่ประสบกับสิ่งนี้ต่างก็ยังคงดำเนินงานได้อยู่ เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา FTX แพลตฟอร์มซื้อขายทรัพย์สินดิจิทัลครองอันดับ 3 บนทำเทียบบริษัทฟินเทคมูลค่าสูงสุด ทว่าในวันนี้ สืบเนื่องมาจากการฉ้อโกงที่ถูกเปิดโปง FTX ก็ล้มละลายและถูกจารึกความอับอายนี้ไว้ในประวัติศาสตร์วงการธุรกิจ ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับ Enron และบริษัทด้านการลงทุนของ Bernie Madoff

    บริษัทฟินเทคส่วนใหญ่บนทำเนียบต่างก็ลดการใช้จ่ายกันอย่างหนักหน่วง มักใช้วิธีการลดจำนวนสมาชิกในทีม ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับ Chime ด้วยเช่นกัน ปีนี้มูลค่าประเมินบริษัทดังกล่าวอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านเหรียญไต่ขึ้นมาที่อันดับ 2 จากอันดับ 4 เมื่อปีก่อน (อันเนื่องมาจาก Klarna และ FTX อำลาเราไป) โดย Chime ปลดพนักงานออก 12% ในเดือนพฤศจิกายน 2022

    Stripe เองก็ปลดพนักงานออก 14% ในเดือนเดียวกัน (มีการเปิดเผยว่าเงินระดมทุน 6.5 พันล้านเหรียญที่ Stripe ได้มาในเดือนมีนาคม 2023 ที่ผ่านมาจะถูกใช้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับพนักงานและจ่ายภาษีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่เพื่อกิจกรรมทางธุรกิจใดๆ ที่กำลังดำเนินอยู่)

    Plaid, Brex, Bolt, Blockchain.com, OpenSea และ GoodLeap เองก็ปลดพนักงานออกช่วงต้นปี 2022 เช่นกัน มหกรรมการปลดพนักงานออกทั่วทั้งวงการทำให้ปี 2022 ได้ชื่อว่าเป็น “ปีแห่งการปลดพนักงาน” และอนาคตของเหล่าสตาร์ทอัพที่มีเงินสดสำรองต่ำหรือโมเดลธุรกิจบกพร่องก็พลอยริบหรี่ไปด้วย

    การประเมินมูลค่าและการระดมทุนของฟินเทคอยู่ในช่วงขาลง “ยูนิคอร์น” ตัวใหม่ ที่หมายถึงสตาร์ทอัพมูลค่า 1 พันล้านเหรียญหรือสูงกว่า ก็มีอัตราการเกิดลดลงจนแทบจะมองไม่เห็น ในไตรมาสแรกของปีนี้ มีบริษัทฟินเทคหน้าใหม่ที่กลายเป็นยูนิคอร์นเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เทียบกับจำนวน 31 บริษัทในไตรมาสแรกของปี 2022 ตามข้อมูลซึ่งอ้างอิงจาก CB Insights

    เงินระดมทุนรวมของบริษัทฟินเทคทั่วโลกในไตรมาสแรกของปี 2023 นี้ คือ 1.5 หมื่นล้านเหรียญ ลดลงจาก 2.8 หมื่นล้านเหรียญ ในปี 2022 โดยเงินระดมทุนมากกว่าร้อยละ 40 ของ 1.5 หมื่นล้านเหรียญนี้เป็นของ Stripe

    บริษัทที่มาแทนที่ Klarna และ FTX ในรายชื่อ 10 อันดับบริษัทฟินเทคมูลค่าสูงสุดประจำปีนี้ ได้แก่ Bolt บริษัทอำนวยความสะดวกซื้อง่ายขายคล่องในหนึ่งคลิก (อันดับ 9 มูลค่า 1.1 หมื่นล้านเหรียญ) และ Alchemy ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับพัฒนาแอปบล็อกเชน (อันดับ 10 มูลค่า 1.02 หมื่นล้านเหรียญ) ทั้งสองบริษัทมีมูลค่าเท่ากับปี 2022 อย่างไรก็ตาม บริษัทที่มีมูลค่าต่ำสุดจากการจัดอันดับในรายชื่อประจำปี 2022 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านเหรียญ

    ช่วงน่าเศร้าอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วงเวลาขาลงของกลุ่มฟินเทคอันสังเกตได้จากการที่มูลค่าประเมินในการจัดทำเนียบประจำปี 2023 ต่ำลงกว่าปีที่ผ่านๆ มา ไม่มีสมาชิกบนรายใดบนทำเนียบปีก่อนก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทมหาชน ทั้งยังไม่มีบริษัทหน้าใหม่รายใดระดมทุนได้มากเพียงพอจะปรากฏชื่อในการจัดอันดับปีนี้

    Stripe ซึ่งถูกคาดหวังจากวงกว้างว่าจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ก่อนตลาดฟินเทคจะถดถอยตัดสินใจเปลี่ยนมาอนุญาตให้พนักงานขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์แทน อันเป็นจุดประสงค์ของการระดมทุน 6.5 พันล้านเหรียญ จากรายงานเมื่อเดือนมีนาคม 2023 ที่ผ่านมา
และด้านล่างนี้คือ 10 บริษัทฟินเทคมูลค่าสูงสุดในสหรัฐอเมริกาประจำปี 2023

    อันดับ 1 Stripe



    มูลค่า : 5 หมื่นล้านเหรียญ

    ระดมทุนครั้งล่าสุด: มีนาคม 2023

    Stripe บริษัทอายุ 13 ปีให้บริการชำระเงินสำหรับธุรกิจออนไลน์ เคยพุ่งทะยานยามตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตรวดเร็วช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก โดยมีมูลค่าประเมินสูงถึง 9.5 หมื่นล้านเหรียญในเดือนมีนาคม 2021 ทว่ามูลค่าประเมินกลับลดลงเหลือเพียง 5 หมื่นล้านเหรียญในเดือนมีนาคม 2023 ผ่านมา

    ในปี 2022 ทางบริษัทดูแลกิจกรรมการซื้อขายมูลค่า 8.17 แสนล้านเหรียญแก่ลูกค้ามากมาย รวมถึงรายใหญ่อย่าง OpenAI, Microsoft และ Ford

    ผู้ร่วมก่อตั้ง: สองพี่น้องชาวไอริช Patrick และ John Collison (34 และ 32 ปี ตามลำดับ) ได้ขายสตาร์ทอัพแรกของพวกเขาซึ่งให้บริการระบบจัดการประมูลสำหรับผู้ขายอีคอมเมิร์ซนาม Auctomatic ด้วยราคา 5 ล้านเหรียญในปี 2008 ก่อนจะก่อตั้ง Stripe ขึ้นในปี 2010

    อันดับ 2 Chime



    มูลค่า : 2.5 หมื่นล้านเหรียญ

    ระดมทุนครั้งล่าสุด: สิงหาคม 2021

    Chime เติบโตอย่างหอมหวานด้วยการให้บริการบัญชีเช็คไร้ค่าธรรมเนียมเบิกเงินเกินบัญชี และบริการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าสำหรับลูกค้า ปัจจุบัน Chime กลายเป็นธนาคารดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ

    ในปี 2021 มีรายงานว่าธนาคารดิจิทัลแห่งนี้จะ IPO แต่แผนการดังกล่าวต้องถูกเลื่อนออกไป ต่อมาในปี 2022 แอปของพวกเขามีจำนวนยอดการโหลดอยู่ที่ 13.8 ล้านครั้ง ขณะที่ปีก่อนหน้าคือปี 2021 มีจำนวนยอดโหลด 13.2 ล้านครั้ง จากการรายงานของ Apptopia

    Chime ระดมเงินทุนรวม 2.3 พันล้านเหรียญจากนักลงทุน โดยมีรายใหญ่ ได้แก่ Sequoia Capital และ Menlo Ventures

    ผู้ร่วมก่อตั้ง : Chris Britt (50 ปี) ผู้มีประสบการณ์เคยทำงานที่ Green Dot และ Visa ปัจจุบันดำรงตำแหน่งซีอีโอ ส่วน Ryan King (46 ปี) ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี


    อันดับ 3 Ripple



    มูลค่า: 1.5 หมื่นล้านเหรียญ

    ประเมินมูลค่าระดมทุนล่าสุด: มกราคม 2022 จากการซื้อหุ้นคืน

    Ripple ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียพุ่งเป้าในการเป็นเครื่องมือทางด้านการเงินดิจิทัลให้ลูกค้าองค์กรด้วยเครื่องมือผสมผสานสกุลเงินดิจิทัลเข้ากับการดำเนินงานปัจจุบันของพวกเขา โดยมีพันธกิจคือบริการชำระเงินระหว่างประเทศ อำนวยความสะดวกการชำระเงินแบบทันที และช่วยบริหารจัดการผู้ถือครองสกุลเงินดิจิทัล

    Liquidity Hub ของ Ripple เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อธุรกิจให้เอื้อกับบรรดาผู้สร้างสภาพคล่อง การซื้อขาย และผู้ให้บริการซื้อขายนอกระบบ (OCT) ในตลาดสกุลเงินดิจิทัล

    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้มีการฟ้องร้อง Ripple โดยกล่าวหาว่าการขาย XRP ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลแรกของบริษัทนั้นเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียน (หมายเหตุ: Pitchbook เผยข้อมูลว่า Ripple มีการระดมทุนในเดือนมกราคม 2023 แต่ยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าต่อสาธารณะ)

    ผู้ร่วมก่อตั้ง : Chris Larsen (63 ปี) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร และ Jed McCaleb (50 ปี) ปัจจุบันออกจากบริษัทไปแล้ว ส่วนซีอีโอคนปัจจุบันของ Ripple คือ Brad Garlinghouse (50 ปี) อดีตประธาน AOL


    อันดับ 4 Blockchain.com



    มูลค่า: 1.4 หมื่นล้านเหรียญ

    ระดมทุนครั้งล่าสุด: มีนาคม 2022

    Blockchain.com อันมีฐานที่ตั้งในสหราชอาณาจักรคือพื้นที่แลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ศูนย์ข้อมูล และผู้ให้บริการหนึ่งในกระเป๋าเงินดิจิทัลยอดนิยมสูงสุดรายหนึ่งของโลก ซึ่งอำนวยให้ผู้ใช้งานดูแลเงินดิจิทัลที่ถือไว้ด้วยตัวเองผ่านเครื่องมือจัดการกุญแจส่วนตัว (Private Key)

    ในเดือนมีนาคม 2023 ทางบริษัทได้พัฒนากระเป๋าเงินไปเป็นแอป Blockchain.com: Crypto Wallet ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานเข้าถึงบัญชีแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลที่ทางบริษัทคอยดูแลทรัพย์สิน (Custodial Wallet) และบัญชีที่ผู้ใช้งานเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินเอง (Non-custodial Wallet) ได้จากที่เดียวกัน โดย Blockchain.com: Crypto Wallet เปิดให้ใช้งานใน 25 ภาษา พร้อมสนับสนุนลูกค้ามากกว่า 200 ประเทศ

    ผู้ร่วมก่อตั้ง : ซีอีโอ Peter Smith (33 ปี) ผู้คลั่งไคล้บิตคอยน์ยุคแรกๆ และรองประธานกรรมการ Nicolas Cary


    อันดับ 5 Plaid



    มูลค่า: 1.34 หมื่นล้านเหรียญ

    ระดมทุนครั้งล่าสุด: เมษายน 2021

    Plaid ให้บริการแบ่งปันข้อมูลการเงินของผู้บริโภคระหว่างบัญชีธนาคารและแอปการเงินต่างๆ ของพวกเขา เครือข่ายของ Plaid ประกอบด้วยธนาคาร เครดิตยูเนียน และสถาบันทางการเงิน 12,000 แห่ง รวมถึงลูกค้ารายสำคัญอย่างบริษัทฟินเทค Venmo และ Robinhood

    ในปี 2022 ทางบริษัทปล่อยฟีเจอร์ปราบปรามการทุจริตและการชำระเงินแบบทันทีบน Transfer บริการที่อนุญาตให้ธุรกิจต่างๆ ชำระเงินกู้ เงินประกัน และเงินค่าจ้างได้ในทันที
Plaid ระดมทุนได้ 735 ล้านเหรียญจาก Altimeter Capital, SIlverlake และ Index Venture

    ผู้ร่วมก่อตั้ง: ซีอีโอ Zach Perret (35 ปี) และอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี William Hockey (33 ปี) ผู้ร่วมก่อตั้งที่ปรากฎชื่อบนทำเนียบสมาชิก Fintech 50


    อันดับ 6 OpenSea



    มูลค่า: 1.33 หมื่นล้านเหรียญ

    ระดมทุนครั้งล่าสุด: ธันวาคม 2021

    OpenSea คือแพลตฟอร์มพื้นที่ซื้อขายระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย แบบ Peer-to-Peer สำหรับ NFT หรือสิ่งของสะสมรูปแบบดิจิทัลซึ่งอาจเป็นสิ่งของในโลกจริงหรือสิ่งของออนไลน์ก็ได้ OpenSea อนุญาตให้ลูกค้าผลิต ซื้อ และขาย NFT ผ่านบล็อกเชนที่หลากหลาย เมื่อเดือนมกราคม 2022 มูลค่าประเมิน 1.33 หมื่นล้านเหรียญ ของ OpenSea พาให้สองผู้ก่อตั้ง Devin Finzer และ Alex Atallah ได้รับตำแหน่งมหาเศรษฐี NFT รายแรก

    ในปี 2022 บริษัท OpenSea สร้างรายได้ 472 ล้านเหรียญ จากการเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 2.5% จากปริมาณการซื้อขาย 1.88 หมื่นล้านเหรียญ บนแพลตฟอร์มตลอดปี แม้ OpenSea จะประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ทางบริษัทยังต้องแข่งขันกับผู้ท้าชิงหน้าใหม่มาแรงอย่าง Blur ที่จะมาแย่งตำแหน่งตลาด NFT รายใหญ่ที่สุดโดยอิงปริมาณการซื้อขายไปจาก OpenSea

    ผู้ร่วมก่อตั้ง : ซีอีโอ Devin Finzer (32 ปี) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี Alex Atallah (31 ปี)


    อันดับ 7 Brex



    มูลค่า: 1.23 หมื่นล้านเหรียญ

    ระดมทุนครั้งล่าสุด: มกราคม 2022

    สตาร์ทอัพธุรกิจสถาบันการเงิน Brex ให้บริการบัตรเครดิตประจำองค์กรไร้ค่าธรรมเนียมที่มาพร้อมกับรางวัลการเดินทาง ระบบติดตามค่าใช้จ่ายและการจัดการแหล่งทุนให้กับสตาร์ทอัพ

    ก่อนที่ทาง FDIC จะเข้ามาคุ้มครองเงินฝากทั้งหมดระหว่างวิกฤตธนาคาร Silicon Valley ที่เกิดขึ้น Brex ได้ช่วยให้สตาร์ทอัพอื่นๆ ยืมเงินกว่า 1 พันล้านเหรียญ เพื่อรับมือปัญหาการจ่ายเบี้ยเลี้ยงอย่างมีประสิทธิภาพ บัญชีบริหารจัดการเงินสดของ Brex ช่วยให้ลูกค้ากระจายเงินสดระหว่างบัญชีธนาคารต่างๆ ในการประกันเงินฝาก 6 ล้านเหรียญ

    หน้าร้อนปีที่แล้ว Brex ประกาศตัดสัมพันธ์กับลูกค้าองค์กรขนาดเล็กเพื่อร่วมงานกับบริษัทขนาดใหญ่ขึ้นรวมถึงสตาร์ทอัพที่มีนักลงทุนคอยหนุน

    ผู้ร่วมก่อตั้ง : Henrique Dubugras (27 ปี) และ Pedro Francschi (26 ปี) ก่อตั้ง Brex หลังออกจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยปัจจุบันทั้งสองดำรงตำแหน่งซีอีโอร่วมกัน


    อันดับ 8 GoodLeap



    มูลค่า: 1.2 หมื่นล้านเหรียญ

    ระดมทุนครั้งล่าสุด: ตุลาคม 2021

    GoodLeap คือตลาดซื้อขายผลิตภัณฑ์ปรับปรุงบ้านแบบยั่งยืน ไม่ว่าจะระบบแผงโซลาร์ หน้าต่างประหยัดพลังงาน อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะหรือระบบ HVAC ทางบริษัทนำเสนอทางออกปัญหาด้านการเงินด้วยระบบ POS ด้วยความพยายามทำให้การปรับปรุงบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

    GoodLeap สนับสนุนเงินกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญให้กับเจ้าของบ้าน 700,000 รายในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 1.3 หมื่นล้านเหรียญกับเจ้าของบ้าน 380,000 รายเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว

    ผู้ร่วมก่อตั้ง : ประธานควบตำแหน่งซีอีโอ Hayes Barnard (51 ปี) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ Matt Dawson (49 ปี) ทั้งสองเคยเป็นผู้บริหารที่ SolarCity (ปัจจุบันคือ Tesla Energy) มาอย่างยาวนาน และคนสุดท้ายคือประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารความเสี่ยง Jason Walker (49 ปี) ที่ปรึกษาด้านสินเชื่อมากประสบการณ์


    อันดับ 9 Bolt



    มูลค่า: 1.1 หมื่นล้านเหรียญ

    ระดมทุนครั้งล่าสุด: มกราคม 2022

    บริษัทอายุ 6 ปี Bolt ให้บริการซื้อขายจบในหนึ่งคลิกแก่บรรดาผู้ค้าขายออนไลน์ ด้วยเป้าหมายขจัดปัญหาความยุ่งยากในการซื้อสำหรับลูกค้าหน้าใหม่ Bolt ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มยอดขายและจำนวนลูกค้าที่กลับมาซื้ออีกครั้งให้กับบรรดาร้านค้าออนไลน์ ตัวอย่างผู้ใช้บริการ Bolt ได้แก่ Forever 21, Revolve, Casper และ Fanatics

    ผู้ร่วมก่อตั้ง : Ryan Breslow (29 ปี) ผู้ได้รับเกียรติสู่ทำเนียบ 30 Under 30 ของ Forbes ซึ่งก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของ Bolt เมื่อเดือนมกราคม 2022 ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งซีอีโอและผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพด้านสุขภาพนาม Love


    อันดับ 10 Alchemy



    มูลค่า: 1.02 หมื่นล้านเหรียญ

    ระดมทุนครั้งล่าสุด: กุมภาพันธ์ 2022

    Alchemy คือแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นแบบกระจายอำนาจ ทางบริษัทเชื่อมต่อแอปของพวกเขาเข้ากับบล็อกเชนที่มีอยู่แล้วซึ่งช่วยให้การแบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน

    Alchemy ได้ฉายาว่าเป็น Amazon Web Sevices แห่งโลกคริปโต จากการเป็นผู้จัดทำโครงสร้างข้อมูลเบื้องหลังผู้ให้บริการบนบล็อกเชนรายสำคัญต่างๆ รวมถึง Opensea ที่เปิดพื้นที่ซื้อขาย NFT, dYdX พื้นที่แลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลแบบกระจายอำนาจ หรือ Aave แพลตฟอร์มกู้ยืมเงินดิจิทัล

    Alchemy ขับเคลื่อนการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 1.5 แสนล้านเหรียญในแต่ละปี และได้รับเงินทุนรวม 529 ล้านเหรียญจากผู้สนับสนุนหลัก Andreessen Horowitz, Lightspeed Venture Partners และ Coature นอกจากนี้ยังมีผู้สนับสนุนรายอื่นๆ อีกมากมาย

    ผู้ร่วมก่อตั้ง : Niki Viswanathan (35 ปี) และ Joe Lau (33 ปี) สองบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ผู้เคยประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกกับแอปพลิเคชั่นนัดเพื่อนกินข้าว Down to Lunch


แปลและเรียบเรียงจากบทความ The 10 Biggest Fintech Companies In America 2023 ซึ่งเผยแพร่บน Forbes

    

    อ่านเพิ่มเติม : Nielsen เผยข้อมูลปี 2023 รายการสื่อเพื่อชาว LGBTQ+ ยังมีไม่มากพอ

    ​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine