รถยนต์ 2 ล้อ? - Forbes Thailand

รถยนต์ 2 ล้อ?

FORBES THAILAND / ADMIN
16 Dec 2016 | 10:44 AM
READ 1311

การใช้จักรยานไฟฟ้าเป็นที่นิยมและแพร่หลายในจีนและยุโรป และขณะนี้กำลังปั่นสู่เส้นทางตลาดในสหรัฐฯ ด้วยความมั่นใจของวิศกรจากสถาบัน MIT คนหนึ่งที่เชื่อว่า ดีไซน์แบบย้อนยุคน่าจะทำให้จักรยานไฟฟ้าเอาชนะใจชาวเมืองได้

เรื่อง: SHELBY CARPENTER และ SUSAN ADAMS เรียบเรียง: ปาริชาติ ชื่นชม อากาศในซานฟรานซิสโกวันนี้ค่อนข้างร้อนด้วยอุณหภูมิสูงถึง 75 องศาฟาเรนไฮต์ แต่ Adam Vollmerกลับไม่มีเหงื่อแม้แต่น้อย เพราะพาหนะที่พาเขามุ่งหน้าสู่ Mission Dolores Park นั้นมั่นคงและเสถียร แทบไม่ต้องทำให้เขาออกแรงใดๆ “ผมเคยเกลียดการขี่จักรยานไปทำงานเอามากๆ เลยครับ” Vollmer กล่าวขณะเท้าถีบจักรยานไปพลาง “ใกล้ๆ บ้านผมมีเนินอยู่ลูกหนึ่งซึ่งชันอย่างกับปีนกำแพง แต่ตอนนี้ผมไม่ต้องปั่นวิบากขนาดนั้นแล้ว” นั่นเพราะตอนนี้ Vollmer วิศวกรเครื่องกลวัย 36 ปีที่มีรูปร่างปราดเปรียวเหมือนพวกนักวิ่ง สามารถอาศัยแรงส่งจากมอเตอร์ที่ซ่อนอยู่ในจักรยานได้แล้วนั่นเอง Vollmer เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Faraday บริษัทจักรยานไฟฟ้าที่ดำเนินธุรกิจมาได้ 4 ปีแล้ว เขาเชื่อว่า Faraday น่าจะสามารถเข้ามาชิงเค้กส่วนแบ่งทางกำไรจากตลาดจักรยานไฟฟ้าที่เพิ่งแจ้งเกิดในสหรัฐฯ ได้ สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของจักรยานราคาตกคันละ 2,500 เหรียญสหรัฐฯ นี้ก็น่าจะเป็นคนสไตล์เขานี่แหละผู้ที่ต้องการเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง แต่สภาพแวดล้อมในเมืองที่แออัดทำให้การขับรถและจอดรถคือฝันร้ายชัดๆ หลายคนที่ต้องเดินทางอยู่บ่อยๆ ชอบรถจักรยานไฟฟ้ามากกว่ารถจักรยานทั่วไปเพราะสามารถติดสปีดไปทำงานได้ที่ความเร็ว 20 ไมล์ต่อชั่วโมงโดยที่ไม่ต้องปั่นให้เหนื่อยเหงื่อแตก จักรยานของ Faraday สามารถเลือกขี่ได้สองแบบคือ หากไม่กดเปิดปุ่มสีน้ำเงินที่อยู่ด้านหลังของแผงควบคุมซึ่งมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากับกระเป๋าสตางค์ขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ใต้อานจักรยานแล้วล่ะก็ เจ้า Faraday ก็จะทำงานเหมือนจักรยานทั่วไป แต่เมื่อเปิดมอเตอร์ ซึ่งติดอยู่บริเวณตรงดุมล้อหน้าจักรยานแล้วนั้น ไฟหน้าและไฟท้ายจะสว่างขึ้นมา โดยการเปิดสวิตช์หัวแม่มือด้านซ้ายของแฮนด์จักรยานเป็นการเลือกความแรงระดับกลางหรือระดับสูง เมื่อเริ่มออกแรงปั่น เซ็นเซอร์ในข้อเหวี่ยงจะกระตุ้นให้มอเตอร์ทำงาน ยิ่งออกแรงปั่นก็จะยิ่งทำให้มีแรงส่งจากมอเตอร์มากขึ้น ทำให้การปั่นขึ้นเนินใน San Francisco รู้สึกเหมือนกับปั่นบนพื้นราบ แม้ว่าจะเป็นตลาดเล็กๆ แต่ตลาดจักรยานไฟฟ้ากำลังขยายตัว และ Faraday ต้องเผชิญกับคู่แข่งหลายรายด้วยกัน Edward Benjamin ประธานสมาคม Light Electric Vehicle Association ซึ่งเป็นสมาคมนักค้าจักรยานไฟฟ้าได้รวบรวมข้อมูลและพบว่า ในปีที่ผ่านมา ยอดขายจักรยานไฟฟ้าทั่วสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 400 ล้านเหรียญ พุ่งขึ้นจากปี 2012 ซึ่งอยู่ที่เพียง 100 ล้านเหรียญเท่านั้น ทั้งนี้จักรยานไฟฟ้าถึง 150 แบรนด์เลยทีเดียวในตลาดจักรยานไฟฟ้าสหรัฐฯ บริษัทผู้ผลิตจักรยานไฟฟ้า 2 รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ คือ Pedego ตั้งอยู่ที่ Fountain Valley ใน California กับ ProdecoTech ที่ Oakland Park ใน Florida โดยทั้ง 2 แห่งต่างดำเนินกิจการมาได้ 8 ปีแล้ว จักรยานไฟฟ้าของ Faraday มีการออกแบบที่สวยงามแตกต่างไปจากจักรยานไฟฟ้าของเจ้าอื่นๆ จักรยานเจ้าคู่แข่งอื่นๆ มักจะเทอะทะและเน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่า แต่จักรยานของ Faraday มี 2 แบบด้วยกัน คือ Porteur กับ Cortland ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับจักรยานรุ่น touring ของอังกฤษในยุค 1960 ยอดขายของ Vollmer เติบโตจาก 1 ล้านเหรียญในปี 2014 ซึ่งเป็นปีแรกที่ Faraday มีการส่งจักรยานออกขาย ขึ้นมาแตะ 2 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว ส่วนในปีนี้ เขาคาดว่าจะมีรายได้ 4 ล้านเหรียญ และเริ่มทำกำไรได้ในปี 2017 Faraday เหมือนกับแบรนด์จักรยานไฟฟ้าส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ตรงที่ใช้เทคโนโลยีช่วยในการออกแรงถีบกล่าวคือ เมื่อนักปั่นเริ่มออกแรงปั่น มอเตอร์ก็จะทำงานโดยทันที “คนเรายังอยากจะรู้สึกว่าได้ขี่จักรยานและออกกำลังกายอยู่ครับ” Vollmer อธิบาย “แต่พวกเขาไม่อยากเหงื่อท่วมอะไรขนาดนั้น” เขาเจาะตลาดกลุ่ม “คนที่ชอบจักรยานและปกติก็ปั่นจักรยานอยู่บ้างแล้ว” Vollmer เองก็เป็นอย่างนี้เลย
คลิ๊กอ่านฉบับเต็ม "รถยนต์ 2 ล้อ?" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ NOVEMBER 2016 ในรูปแบบ e-Magazine