วิธีการรักษามะเร็งแบบสุดโต่งของ Patrick Soon-Shiong ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในแพทย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญทางการตลาดการแพทย์เชื่อว่า วิธีการรักษาด้วยยาของเขาจะสามารถเอาชนะ “วิกฤตแห่งยุค” ด้วย แนวทางรักษาโควิด-19 เขาจะนำเสนอสิ่งที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักการแพทย์จริงๆ มากกว่าโฆษณาชวนเชื่อ
Patrick Soon-Shiong เป็นหนึ่งในแพทย์ที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของโลก ผู้ที่ทำเงิน 6.7 พันล้านเหรียญจากการพัฒนาวิธีการรักษาโรคมะเร็งและเบาหวานที่ถือเป็นการบุกเบิกวงการจึงพยายามหาทางต่อสู้กับโรคระบาดครั้งนี้กับอาวุธที่เขามีอยู่ในคลังแสงคือวิธีการรักษาโรคมะเร็งที่เขาใช้เวลา 15 ปีที่ผ่านมาในการพัฒนาและเป็น แนวทางรักษาโควิด-19 โดยเขาตั้งเป้าใช้อาวุธทั้งหมดที่มีในการจัดการกับไวรัสโคโรนาในทุกหนทาง ตั้งแต่วัคซีนไปจนถึงวิธีการรักษาในรายที่ไม่รุนแรง ตลอดจนแนวทางการรักษาที่เน้นผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ นี่เป็นแผนการที่กล้าบ้าบิ่นมากสำหรับชายผู้ที่มักถูกกล่าวหาว่าเป็นนักโฆษณาชวนเชื่อในอีกภาคของเขา เมื่อครั้งอดีตนั้น Soon-Shiong เป็นศัลยแพทย์ที่เป็นที่เคารพเลื่อมใส และเป็นอาจารย์ประจำโรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัย UCLA แต่ในองก์ที่ 2 ของชีวิตในฐานะผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นจำอวดมากกว่านักวิทยาศาสตร์ ถูกสงสัยว่าพยายามสร้างผลลัพธ์เกินจริงและเอาความดีความชอบของคนอื่นมาใส่ตัว อย่างเมื่อ 2-3 ปีก่อน เขาคุยโม้เกี่ยวกับการใช้ยารักษามะเร็งเต้านมในผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกแต่อันที่จริงมีกลุ่มที่ดำเนินการและเห็นผลลัพธ์ใกล้เคียงกันอยู่ก่อนแล้ว แต่เขาก็มีพลพรรคที่พร้อมเสมอที่จะปกป้องแนวทางของเขาในการรักษาโรคมะเร็งและโควิด -19 หนึ่งในนั้นคือ Harry Reid อดีตผู้นำวุฒิสมาชิกเสียงข้างมาก เขากล่าวถึงนายแพทย์ 68 ปีผู้ถือกำเนิดในแอฟริกาใต้ว่า เป็นผู้ที่ “ช่วยชีวิตผม” ในปี 2019 ด้วยการใช้วิธีการรักษาที่ยังอยู่ในขั้นทดลองเพื่อรักษามะเร็งตับอ่อนระยะ 4 ให้แก่เขา บรรดานักวิจัยกล่าวว่า วิธีการของเขามีพื้นฐานมาจากแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ แม้ว่าคำตัดสินในท้ายที่สุดจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ออกมา Soon-Shiong เกิดที่เมือง Port Elizabeth ประเทศแอฟริกาใต้ในปี 1952 เขาไม่ใช่คนอื่นคนไกลสำหรับการมาบรรจบพบกันของระบบภูมิคุ้มกัน มะเร็ง และโรคติดเชื้อ เขาเรียนจบแพทย์เมื่ออายุได้ 22 ปี และเริ่มต้นเอาดีในอาชีพศัลยแพทย์ด้านการปลูกถ่ายอวัยวะและมะเร็ง ซึ่งล้วนแต่มีความสัมพันธ์ซับซ้อนกับระบบภูมิคุ้มกันเขากล่าวว่า การข้ามสาขาวิชาทำให้เขามอง “ร่างกายเป็นระบบไม่ใช่เป็นเซลล์เล็กๆ เดี่ยวๆ เราเป็นระบบทางชีวภาพ” การคิดเชิงสหวิทยาการอาจเป็นสิ่งที่นำไปสู่ยาที่ทำเงินมหาศาลให้เขา นั่นคือ Abraxane ซึ่งเป็นการนำยา Toxol ที่ใช้ในการรักษาเคมีบำบัดในปัจจุบันมาหุ้มด้วยโปรตีนซึ่งทำให้ยาเข้าถึงเนื้อร้ายได้ง่ายกว่า ทุกวันนี้มีการใช้ Abraxane ในการรักษามะเร็งปอด เต้านม และตับอ่อนที่ลุกลาม Soon-Shiong มีธุรกิจหลายแห่งที่มีความเกี่ยวพันกัน ซึ่งได้รับการจัดตั้งเป็นโครงสร้างบรรษัทอันซับซ้อน แต่ความพยายามในการรับมือกับโควิด-19 ของเขามาจากบริษัท 2 แห่งที่เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาการรักษามะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ได้แก่ NantKwest บริษัทมหาชนที่มีสำนักงานใหญ่ใน San Diego และ ImmuityBio ที่เป็นบริษัทเอกชน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา NantKwest และ ImmunityBio ได้หันเหความสนใจบางส่วนไปยังไวรัสโคโรนาที่กำลังระบาดในขณะนี้ โดยใช้อาวุธที่มีอยู่ในคลังแสงของพวกเขา อาวุธชิ้นแรกคือ วัคซีนจากระบบที่บริษัทของ Soon-Shiong พัฒนาสำหรับรักษาโรคมะเร็งวัคซีนนี้แสดงประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโควิด-19 ในการทดลองกับหนู เขาพร้อมจะเริ่มดำเนินการแล้ว “กำหนดเวลาของผมขึ้นอยู่กับ FDA ที่จะให้ผมออกจากคอกกั้น” เขาบอก “ตอนนี้ผมยังอยู่ในคอก ระฆังยังไม่ดัง และม้าแข่งก็กำลังคึกจัด” วัคซีนกว่า 100 ตัวอย่างที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อต่อต้านโควิด-19 ในขณะนี้นั้น ส่วนใหญ่พุ่งเป้าที่โปรตีนหนามเพื่อกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน แต่ Soon-Shiong คิดว่านั่นยังไม่พอ และจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเขาจึงนำโปรตีนนิวคลีโอแคปซิดมารวมไว้ในวัคซีนด้วย “ผมเป็นห่วงโปรตีนหนามจะกลายพันธุ์” เขาเผย “มันกลายพันธุ์มาแล้วแม้กระทั่งในระหว่างที่เกิดการระบาดครั้งนี้” อาวุธชิ้นที่ 2 คือ การดัดแปลงใช้ของเซลล์ NK-92 ของ NantKwest และยา N-803 ของ ImmunityBio ต่อสู้กับโควิด-19 ขณะนี้กำลังมีการปรับการทำงานของเซลล์ NK-92 ให้สามารถโจมตีเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสได้โดยตรง ขณะที่ N-803 ทำหน้าที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของคนไข้ให้ผลิตเซลล์เพชฌฆาตต่อต้านไวรัสขึ้นเอง อาวุธชิ้นที่ 3 ที่ NantKwest และ ImmunityBio กำลังร่วมกันพัฒนาเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 คือ การใช้เซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์ (mesenchymal stem cells) ซึ่งได้มาจากไขกระดูก ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ถ้าวิธีการของ Soon-Shiong ในการรักษาโควิด-19 ได้ผลดีในการทดลองทางคลินิก ขั้นตอนต่อไปก็อาจยากเย็นยิ่งกว่านี้ นั่นคือ การให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาในแนวทางดังกล่าว โดยเฉพาะวัคซีน เพราะทั้ง NantKwest และ ImmunityBio ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะผลิตวัคซีนในปริมาณมาก “ตอนนี้ผมเองก็ตกที่นั่งลำบาก” Soon-Shiong ยอมรับ “เพราะไม่มีทางที่ผมจะผลิตวัคซีนได้ 100 ล้านเข็ม ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุน ถ้า 1-2 ล้านเข็มก็อาจจะเป็นไปได้” เขาแสดงความรู้สึกขัดเคืองใจต่อรัฐบาล “เงินอุดหนุนหลายพันล้านเหรียญถูกนำไปแจกจ่ายให้บริษัทที่มีรายได้อยู่แล้วในระดับพันล้าน” เขาพูดไม่ผิด เมื่อกรกฎาคม Pfizer ผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่ (รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 5.18 หมื่นล้านเหรียญ) ทำสัญญากับรัฐบาลกลางมูลค่า 2 พันล้านเหรียญเพื่อผลิตวัคซีนที่บริษัทกำลังพัฒนา แม้จะเต็มไปด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองใจ แต่ Soon-Shiong ก็ดูแน่วแน่ที่จะทำในสิ่งที่เขาทำได้ในการสู้รบปรบมือกับไวรัสโคโรนา “นี่คือวิกฤตแห่งยุคของเรา” เขากล่าว “มันเกือบจะส่งผลร้ายแรงต่อการดำรงอยู่ของเรา สหรัฐฯ อาจมีผู้ติดเชื้อมากถึง 20-30 ล้านรายและผู้เสียชีวิตก็อาจมากถึงล้านคน นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ”คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine