กูรูการเงินแห่ง Wall Street ลำดับที่ 1-10 - Forbes Thailand

กูรูการเงินแห่ง Wall Street ลำดับที่ 1-10

FORBES THAILAND / ADMIN
10 Oct 2016 | 11:13 AM
READ 2488
ตั้งแต่การธนาคาร ไปจนการเข้าซื้อกิจการ การซื้อขายไปจนการครอบงำกิจการ นักการเงินทั้ง 40 คนนี้เป็นเจ้าแห่งโลกการเงิน พวกเขามีตั้งแต่ผู้จัดการกองทุนบริหารความเสี่ยง ผู้บริหารกองทุนไพรเวทอิควิตี้ และนายธนาคารที่ควบคุมกระแสเงินหลายล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในระบบเศรษฐกิจโลก ที่ส่งผลกระทบต่อเราแทบทุกคนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ในการรวบรวมรายชื่อ เราพิจารณาผู้ที่ทำธุรกิจทั้งฝั่งซื้อและขายด้วยเงินจำนวนมาก ที่ Wall Street เงินเท่านั้นที่มีความหมาย ดังนั้น เราจึงตัดสินผู้เข้ารอบด้วยเกณฑ์ 4 ประการ ได้แก่ สินทรัพย์สุทธิ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร ผลงานย้อนหลังสามปี และอิทธิพลที่มีต่อตลาด กูรูการเงินแห่ง Wall Street ลำดับที่ 1-10 ลำดับที่1: Stephen Schwarzman สังกัด: Blackstone Group ภูมิลำเนา: New York City สินทรัพย์สุทธิ: 1.02 หมื่นล้านเหรียญ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 3.44 แสนล้านเหรียญ แม้กระทั่งหลังจากปั่นราคาสินทรัพย์ได้เป็นที่น่าพอใจแล้ว เจ้าพ่อบริษัทบริหารกองทุนไพรเวทอิควิตี้ ยังพยายามหาทางนำเงินไปต่อเงิน ซึ่งรวมถึงดีลอสังหาริมทรัพย์ที่อินเดียเมื่อเร็วๆ นี้ ตอนนี้ Blackstoneเป็นเจ้าของพื้นที่สำนักงาน 30 ล้านตารางฟุตในเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งของอินเดีย “ถ้าเราซื้อทุกอย่างในราคาสูง มันจะไม่สนุกเท่ากับซื้อในราคาต่ำ” Schwarz-man กล่าว “สิ่งสำคัญก็คือเราต้องทำให้ได้เหนือตลาดอยู่เสมอ” ลำดับที่2: David Tepper สังกัด: Appaloosa Management ภูมิลำเนา: Miami Beach สินทรัพย์สุทธิ: 1.14 หมื่นล้านเหรียญ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 1.8 หมื่นล้านเหรียญ ผู้จัดการกองทุนบริหารความเสี่ยงระดับตำนานคิดว่าตลาดเริ่มผ่อนคลายลงเพราะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน “เมื่อใดที่ตลาดตราสารทุนมาเกี่ยวข้อง ก็เป็นเรื่องของตลาดมูลค่าที่แท้จริงเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ร้ายๆ อย่างอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปหรือผลการเลือกตั้งพลิกโผ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ค่อยเห็นแล้ว คุณจะได้เห็นตลาดตราสารทุนของสหรัฐฯ ที่โตขึ้นอย่างช้าๆ” Tepper กล่าว “คำถามก็คือ ณ จุดไหน ที่ดอกเบี้ยจะขึ้น ผมคิดว่าเฟดจะรอคอยอย่างอดทนมากๆ เพราะพวกเขามีความเห็นว่าสามารถอดทนกับเงินเฟ้อได้ แต่จะทำให้เกิดเงินเฟ้อในโลกนี้เป็นอะไรที่ยากเย็นแสนเข็ญ ผมจึงเห็นว่าเฟดจะรอต่อไป” Tepper กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับเฟดว่า “พวกเขาพูดมาสักล้านครั้งแล้ว แต่ตลาดอาจเพิ่งเห็นว่าต้องเป็นอย่างนั้น คือพวกเขาจะรอให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสักพักแล้วค่อยจัดการกับมัน” ลำดับที่3: Jamie Dimon สังกัด: JPMorgan Chase & Co. ภูมิลำเนา: New York City สินทรัพย์สุทธิ: 700 ล้านเหรียญ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 2.4 ล้านล้านเหรียญ ชายผู้ถือกุญแจสู่ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา Dimon บริหารงานสถาบันการเงินที่มียอดเงินเคลื่อนไหววันละ 5 ล้านล้านเหรียญ JP Morgan กำลังฝ่าความผันผวนของตลาดโลก แต่ Dimon กำลังคิดถึงภาพใหญ่กว่านั้น เขาคิดถึงนโยบายที่ไร้ประสิทธิภาพอย่างกฎหมายภาษีที่ล้าสมัย ซึ่งเขาบอกว่าทำให้งบดุลของธนาคารมีความเสี่ยงยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ลำดับที่4: Warren Buffett สังกัด: Berkshire Hathaway ภูมิลำเนา: Omaha สินทรัพย์สุทธิ: 6.85 หมื่นล้านเหรียญ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 5.52 แสนล้านเหรียญ คำแนะนำที่ดีที่สุดของ Buffet สำหรับผู้อ่าน FORBES ในวันนี้คืออะไร “จงไปอ่านหนังสือ The Intelligent Investor” เขากล่าว “และอ่านอีกรอบเมื่อตลาดตกต่ำรุนแรง” Buffet เป็นแฟนหนังสือของ Benjamin Graham เกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าเล่มนี้มานานแล้ว ในจดหมายถึงนักลงทุนปี 2016 ของ Buffet เขาบอกกับผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway ว่า เด็กที่เกิดในอเมริกาทุกวันนี้ “เป็นผลิตผลที่โชคดีที่สุดในประวัติศาสตร์” ลำดับที่5: Laurence Fink สังกัด: BlackRock ภูมิลำเนา: New York City สินทรัพย์สุทธิ: 550 ล้านเหรียญ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 4.6 ล้านล้านเหรียญ Fink เป็นซีอีโอของบริษัทบริหารสินทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เขาส่งจดหมายถึงผู้บริหารบริษัทใน S&P 500 ทุกคน เรียกร้องให้พวกเขาเลิกมองอะไรสั้นๆ และจัดพิมพ์แผนยุทธศาสตร์ประจำปีเพื่อให้นักลงทุนใช้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบ ลำดับที่6: Ken Griffin สังกัด: Citadel ภูมิลำเนา: Chicago สินทรัพย์สุทธิ: 7.6 พันล้านเหรียญ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 2.5 หมื่นล้านเหรียญ ผู้จัดการกองทุนที่ประสบความสำเร็จผู้นี้กำลังสร้างสถาบันการเงินที่รวมเอาโบรกเกอร์ที่เป็นนายหน้าขายตราสารทุนอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ “ทีมที่ดีต้องสนุกกับงาน พวกเขาชอบแก้ปัญหาที่เป็นปัญหาของยุคเรา และก็ชอบเอาชนะ” Griffin กล่าว “ผมโชคดีจริงๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมแบบที่ว่า ทีมที่มีจินตนาการที่จะมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เชื่อมั่นพอที่จะเสี่ยง และลงมือก่อนใคร” ลำดับที่7: Jeffrey Gundlach สังกัด: Doubleline Capital ภูมิลำเนา: Los Angeles สินทรัพย์สุทธิ: 1.4 พันล้านเหรียญ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 9.5 หมื่นล้านเหรียญ ราชาพันธบัตรกำลังจดจ้องบรรดาธุรกิจขยะไม่วางตา โดยเฉพาะบริษัทพลังงานที่กำลังเผชิญขาลงครั้งเลวร้าย เขาไม่คิดว่าดอกเบี้ยจะเปลี่ยนแปลงมากนักและแนะนำนักลงทุนให้ลงทุนกับกองทุนพันธบัตรระยะกลาง เขาไม่ตื่นเต้นกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นสถานที่ซึ่งคนที่อึดที่สุดเท่านั้นจึงจะอยู่รอด และหุ้นก็มีราคาแพง “บางครั้ง การรักษาเงินทุนไว้ก็เป็นเรื่องดี และนี่ก็เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ว่านั้น”Gundlach กล่าว ลำดับที่8: Carl Icahn สังกัด: Icahn Enterprises ภูมิลำเนา: New York City สินทรัพย์สุทธิ: 1.76 หมื่นล้านเหรียญ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 4.2 หมื่นล้านเหรียญ เขาเป็นทั้งนักลงทุนและนักเคลื่อนไหว ขณะที่กำลังป้องกันความเสี่ยงให้พอร์ตของตัวเองนั้น เขาก็กำลังทุบโต๊ะเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงด้านการคลังของประเทศ เช่นการแก้ปัญหาภาษีที่จะทำให้บริษัทสัญชาติอเมริกันส่งเงินสดที่อยู่นอกประเทศกลับเข้าประเทศ “เราต้องผ่าทางตันในคองเกรสอันจะนำไปสู่มาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเฟดกุมอำนาจเหนือเศรษฐกิจลำพังผู้เดียว ผมคิดว่าจะให้เป็นแบบนั้นต่อไปไม่ได้ ความเป็นไปได้ที่จะเป็นเช่นนั้นจะยิ่งมากขึ้นถ้า Trump ได้รับเลือกตั้ง” Icahn กล่าว “ผลกระทบมันรุนแรงและคาดไม่ถึง เช่นตอนนี้ที่ฟองสบู่กำลังก่อตัวเพราะดอกเบี้ยต่ำ” ลำดับที่9: Lloyd Blankfein สังกัด: Goldman Sachs ภูมิลำเนา: New York City สินทรัพย์สุทธิ: 700 ล้านเหรียญ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 8.78 แสนล้านเหรียญ Goldman Sachs กำลังลุยเจาะกลุ่มลูกค้าใน Silicon Valley เพื่อหาทางลดต้นทุนธุรกิจและเปิดตลาดใหม่ “เทคโนโลยีมีความสำคัญกับทุกสิ่งที่เราทำ” Blankfein ระบุในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นประจำเดือนกุมภาพันธ์ ล่าสุดมีการเปิดตัว Marquee โปรแกรมการทำงานสำหรับลูกค้าที่ลงทุนกับบริษัท และธนาคารออมทรัพย์แบบออนไลน์ ลำดับที่10: George Soros สังกัด: Soros Fund Management ภูมิลำเนา: Katonah, N.Y. สินทรัพย์สุทธิ: 2.49 หมื่นล้านเหรียญ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 2.9 หมื่นล้านเหรียญ ในวัย 85 ปี Soros เป็นนักลงทุนตัวฉกาจ เขาเริ่มต้นปี 2016 ด้วยการเดิมพันอย่างแข็งขันกับสกุลเงินในเอเชีย ไม่นานมานี้ เขาออกมาโต้ว่าจีนจะก่อวิกฤตการเงินโลกรอบใหม่หากยังพึ่งพาการก่อหนี้มากจนเกินไป เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำก่อนเกิดหายนะครั้งที่ผ่านมา กูรูการเงินแห่ง Wall Street ลำดับที่ 11-20 กูรูการเงินแห่ง Wall Street ลำดับที่ 21-30 กูรูการเงินแห่ง Wall Street ลำดับที่ 31-40
คลิ๊กอ่านการจัดอันดับ "กูรูการเงินแห่ง Wall Street" ฉบับเต็ม ได้ที่ Fobes Thailand Magazine ฉบับ AUGUST 2016