ตั้งแต่การธนาคาร ไปจนการเข้าซื้อกิจการ การซื้อขายไปจนการครอบงำกิจการ นักการเงินทั้ง 40 คนนี้เป็นเจ้าแห่งโลกการเงิน พวกเขามีตั้งแต่ผู้จัดการกองทุนบริหารความเสี่ยง ผู้บริหารกองทุนไพรเวทอิควิตี้ และนายธนาคารที่ควบคุมกระแสเงินหลายล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในระบบเศรษฐกิจโลก ที่ส่งผลกระทบต่อเราแทบทุกคนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ในการรวบรวมรายชื่อ เราพิจารณาผู้ที่ทำธุรกิจทั้งฝั่งซื้อและขายด้วยเงินจำนวนมาก ที่ Wall Street เงินเท่านั้นที่มีความหมาย ดังนั้น เราจึงตัดสินผู้เข้ารอบด้วยเกณฑ์ 4 ประการ ได้แก่ สินทรัพย์สุทธิ ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร ผลงานย้อนหลังสามปี และอิทธิพลที่มีต่อตลาด
กูรูการเงินแห่ง Wall Street ลำดับที่ 1-10
ลำดับที่1: Stephen Schwarzman
สังกัด: Blackstone Group
ภูมิลำเนา: New York City
สินทรัพย์สุทธิ: 1.02 หมื่นล้านเหรียญ
ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 3.44 แสนล้านเหรียญ
แม้กระทั่งหลังจากปั่นราคาสินทรัพย์ได้เป็นที่น่าพอใจแล้ว เจ้าพ่อบริษัทบริหารกองทุนไพรเวทอิควิตี้ ยังพยายามหาทางนำเงินไปต่อเงิน ซึ่งรวมถึงดีลอสังหาริมทรัพย์ที่อินเดียเมื่อเร็วๆ นี้ ตอนนี้ Blackstoneเป็นเจ้าของพื้นที่สำนักงาน 30 ล้านตารางฟุตในเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งของอินเดีย “ถ้าเราซื้อทุกอย่างในราคาสูง มันจะไม่สนุกเท่ากับซื้อในราคาต่ำ” Schwarz-man กล่าว “สิ่งสำคัญก็คือเราต้องทำให้ได้เหนือตลาดอยู่เสมอ”
ลำดับที่2: David Tepper
สังกัด: Appaloosa Management
ภูมิลำเนา: Miami Beach
สินทรัพย์สุทธิ: 1.14 หมื่นล้านเหรียญ
ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 1.8 หมื่นล้านเหรียญ
ผู้จัดการกองทุนบริหารความเสี่ยงระดับตำนานคิดว่าตลาดเริ่มผ่อนคลายลงเพราะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน “เมื่อใดที่ตลาดตราสารทุนมาเกี่ยวข้อง ก็เป็นเรื่องของตลาดมูลค่าที่แท้จริงเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ร้ายๆ อย่างอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปหรือผลการเลือกตั้งพลิกโผ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ค่อยเห็นแล้ว คุณจะได้เห็นตลาดตราสารทุนของสหรัฐฯ ที่โตขึ้นอย่างช้าๆ” Tepper กล่าว “คำถามก็คือ ณ จุดไหน ที่ดอกเบี้ยจะขึ้น ผมคิดว่าเฟดจะรอคอยอย่างอดทนมากๆ เพราะพวกเขามีความเห็นว่าสามารถอดทนกับเงินเฟ้อได้ แต่จะทำให้เกิดเงินเฟ้อในโลกนี้เป็นอะไรที่ยากเย็นแสนเข็ญ ผมจึงเห็นว่าเฟดจะรอต่อไป” Tepper กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับเฟดว่า “พวกเขาพูดมาสักล้านครั้งแล้ว แต่ตลาดอาจเพิ่งเห็นว่าต้องเป็นอย่างนั้น คือพวกเขาจะรอให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสักพักแล้วค่อยจัดการกับมัน”
ลำดับที่3: Jamie Dimon
สังกัด: JPMorgan Chase & Co.
ภูมิลำเนา: New York City
สินทรัพย์สุทธิ: 700 ล้านเหรียญ
ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 2.4 ล้านล้านเหรียญ
ชายผู้ถือกุญแจสู่ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา Dimon บริหารงานสถาบันการเงินที่มียอดเงินเคลื่อนไหววันละ 5 ล้านล้านเหรียญ JP Morgan กำลังฝ่าความผันผวนของตลาดโลก แต่ Dimon กำลังคิดถึงภาพใหญ่กว่านั้น เขาคิดถึงนโยบายที่ไร้ประสิทธิภาพอย่างกฎหมายภาษีที่ล้าสมัย ซึ่งเขาบอกว่าทำให้งบดุลของธนาคารมีความเสี่ยงยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
ลำดับที่4: Warren Buffett
สังกัด: Berkshire Hathaway
ภูมิลำเนา: Omaha
สินทรัพย์สุทธิ: 6.85 หมื่นล้านเหรียญ
ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 5.52 แสนล้านเหรียญ
คำแนะนำที่ดีที่สุดของ Buffet สำหรับผู้อ่าน FORBES ในวันนี้คืออะไร “จงไปอ่านหนังสือ The Intelligent Investor” เขากล่าว “และอ่านอีกรอบเมื่อตลาดตกต่ำรุนแรง” Buffet เป็นแฟนหนังสือของ Benjamin Graham เกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าเล่มนี้มานานแล้ว ในจดหมายถึงนักลงทุนปี 2016 ของ Buffet เขาบอกกับผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway ว่า เด็กที่เกิดในอเมริกาทุกวันนี้ “เป็นผลิตผลที่โชคดีที่สุดในประวัติศาสตร์”
ลำดับที่5: Laurence Fink
สังกัด: BlackRock
ภูมิลำเนา: New York City
สินทรัพย์สุทธิ: 550 ล้านเหรียญ
ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 4.6 ล้านล้านเหรียญ
Fink เป็นซีอีโอของบริษัทบริหารสินทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เขาส่งจดหมายถึงผู้บริหารบริษัทใน S&P 500 ทุกคน เรียกร้องให้พวกเขาเลิกมองอะไรสั้นๆ และจัดพิมพ์แผนยุทธศาสตร์ประจำปีเพื่อให้นักลงทุนใช้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบ
ลำดับที่6: Ken Griffin
สังกัด: Citadel
ภูมิลำเนา: Chicago
สินทรัพย์สุทธิ: 7.6 พันล้านเหรียญ
ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 2.5 หมื่นล้านเหรียญ
ผู้จัดการกองทุนที่ประสบความสำเร็จผู้นี้กำลังสร้างสถาบันการเงินที่รวมเอาโบรกเกอร์ที่เป็นนายหน้าขายตราสารทุนอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ “ทีมที่ดีต้องสนุกกับงาน พวกเขาชอบแก้ปัญหาที่เป็นปัญหาของยุคเรา และก็ชอบเอาชนะ” Griffin กล่าว “ผมโชคดีจริงๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมแบบที่ว่า ทีมที่มีจินตนาการที่จะมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เชื่อมั่นพอที่จะเสี่ยง และลงมือก่อนใคร”
ลำดับที่7: Jeffrey Gundlach
สังกัด: Doubleline Capital
ภูมิลำเนา: Los Angeles
สินทรัพย์สุทธิ: 1.4 พันล้านเหรียญ
ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 9.5 หมื่นล้านเหรียญ
ราชาพันธบัตรกำลังจดจ้องบรรดาธุรกิจขยะไม่วางตา โดยเฉพาะบริษัทพลังงานที่กำลังเผชิญขาลงครั้งเลวร้าย เขาไม่คิดว่าดอกเบี้ยจะเปลี่ยนแปลงมากนักและแนะนำนักลงทุนให้ลงทุนกับกองทุนพันธบัตรระยะกลาง เขาไม่ตื่นเต้นกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นสถานที่ซึ่งคนที่อึดที่สุดเท่านั้นจึงจะอยู่รอด และหุ้นก็มีราคาแพง “บางครั้ง การรักษาเงินทุนไว้ก็เป็นเรื่องดี และนี่ก็เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ว่านั้น”Gundlach กล่าว
ลำดับที่8: Carl Icahn
สังกัด: Icahn Enterprises
ภูมิลำเนา: New York City
สินทรัพย์สุทธิ: 1.76 หมื่นล้านเหรียญ
ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 4.2 หมื่นล้านเหรียญ
เขาเป็นทั้งนักลงทุนและนักเคลื่อนไหว ขณะที่กำลังป้องกันความเสี่ยงให้พอร์ตของตัวเองนั้น เขาก็กำลังทุบโต๊ะเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงด้านการคลังของประเทศ เช่นการแก้ปัญหาภาษีที่จะทำให้บริษัทสัญชาติอเมริกันส่งเงินสดที่อยู่นอกประเทศกลับเข้าประเทศ “เราต้องผ่าทางตันในคองเกรสอันจะนำไปสู่มาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเฟดกุมอำนาจเหนือเศรษฐกิจลำพังผู้เดียว ผมคิดว่าจะให้เป็นแบบนั้นต่อไปไม่ได้ ความเป็นไปได้ที่จะเป็นเช่นนั้นจะยิ่งมากขึ้นถ้า Trump ได้รับเลือกตั้ง” Icahn กล่าว “ผลกระทบมันรุนแรงและคาดไม่ถึง เช่นตอนนี้ที่ฟองสบู่กำลังก่อตัวเพราะดอกเบี้ยต่ำ”
ลำดับที่9: Lloyd Blankfein
สังกัด: Goldman Sachs
ภูมิลำเนา: New York City
สินทรัพย์สุทธิ: 700 ล้านเหรียญ
ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 8.78 แสนล้านเหรียญ
Goldman Sachs กำลังลุยเจาะกลุ่มลูกค้าใน Silicon Valley เพื่อหาทางลดต้นทุนธุรกิจและเปิดตลาดใหม่ “เทคโนโลยีมีความสำคัญกับทุกสิ่งที่เราทำ” Blankfein ระบุในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นประจำเดือนกุมภาพันธ์ ล่าสุดมีการเปิดตัว Marquee โปรแกรมการทำงานสำหรับลูกค้าที่ลงทุนกับบริษัท และธนาคารออมทรัพย์แบบออนไลน์
ลำดับที่10: George Soros
สังกัด: Soros Fund Management
ภูมิลำเนา: Katonah, N.Y.
สินทรัพย์สุทธิ: 2.49 หมื่นล้านเหรียญ
ทรัพย์สินภายใต้การบริหาร: 2.9 หมื่นล้านเหรียญ
ในวัย 85 ปี Soros เป็นนักลงทุนตัวฉกาจ เขาเริ่มต้นปี 2016 ด้วยการเดิมพันอย่างแข็งขันกับสกุลเงินในเอเชีย ไม่นานมานี้ เขาออกมาโต้ว่าจีนจะก่อวิกฤตการเงินโลกรอบใหม่หากยังพึ่งพาการก่อหนี้มากจนเกินไป เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำก่อนเกิดหายนะครั้งที่ผ่านมา
กูรูการเงินแห่ง Wall Street ลำดับที่ 11-20
กูรูการเงินแห่ง Wall Street ลำดับที่ 21-30
กูรูการเงินแห่ง Wall Street ลำดับที่ 31-40
คลิ๊กอ่านการจัดอันดับ "กูรูการเงินแห่ง Wall Street" ฉบับเต็ม ได้ที่ Fobes Thailand Magazine ฉบับ AUGUST 2016