เรื่องจริงที่ช้ำใจของ Trump - Forbes Thailand

เรื่องจริงที่ช้ำใจของ Trump

FORBES THAILAND / ADMIN
06 Jul 2023 | 11:00 AM
READ 6789

    ทรัพย์สินของอดีตประธานาธิบดีตกฮวบลงมา 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เหลือ 2.5 พันล้านเหรียญ ด้วยเหตุผลข้อใหญ่ที่สุดคือ ธุรกิจสื่อโซเชียลของเขาซึ่งเคยเรียกเสียงฮือฮากลับพังไม่เป็นท่า


    เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2021 Donald Trump กระเหี้ยนกระหือรืออยากล้างแค้นเพราะเมื่อ 9 เดือนก่อนหน้านั้นเขาถูกแบนจาก Twitter จนช่องทางสื่อสารหลักของเขากับเหล่าผู้ติดตามถูกตัดขาด และวิธีแก้เผ็ดของเขาคือ การสร้างแอปคล้าย Twitter ขึ้นมาเองโดยใช้ชื่อว่า Truth Social ทันทีที่เขาประกาศแผนนี้ เหล่าผู้สนับสนุนก็แห่กันเข้ามาลงทุนในบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษในการเข้าซื้อกิจการ (SPAC) ของ Truth Social จนราคาหุ้นพุ่งพรวดจาก 10 เหรียญเป็น 175 เหรียญภายใน 2 วัน ซึ่งบอกเป็นนัยๆ ว่า กิจการนี้มีมูลค่าถึง 2.2 หมื่นล้านเหรียญ และหุ้นของเขาจะมีมูลค่า 1.9 หมื่นล้านเหรียญ

    แต่อะไรที่ฮือฮากันเกินเหตุไม่เคยสอดคล้องกับความเป็นจริง ในเดือนธันวาคม ปี 2021 กลุ่มนักลงทุนกระเป๋าหนักสัญญาว่าจะอัดฉีดเงินสด 1 พันล้านเหรียญลงในกิจการนี้ แต่ภายเงื่อนไขที่ว่า พวกเขาจะต้องได้ผลประโยชน์เป็นพิเศษเท่านั้น ราคาหุ้นในตอนนั้นซื้อขายกันที่ 45 เหรียญ แต่มีการรับประกันให้นักลงทุนรายใหม่กลุ่มนี้ว่าพวกเขาจะได้กำไรแน่นอนตราบใดที่ราคาหุ้นยังเกิน 10 เหรียญ ซึ่งถ้าใช้ราคา 10 เหรียญเป็นฐาน Forbes เคยประเมินว่า มูลค่าหุ้นของ Trump จะอยู่ที่ 730 ล้านเหรียญแล้วเหตุการณ์ก็พลิกผัน หน่วยงานรัฐแห่กันมารุมทึ้ง Truth Social ต่อด้วย Elon Musk ซื้อ Twitter และยกเลิกการแบน Trump จนทำให้เหตุผลที่โลกนี้จำเป็นจะต้องมี Twitter แนวอนุรักษ์นิยมอีกหนึ่งแอปนั้นด้อยความสำคัญลงไป ทุกวันนี้หุ้นบริษัท SPAC ของ Trump จึงราคาร่วงจากจุดสูงสุดลงมา 92% เหลือหุ้นละ 14 เหรียญ หมายความว่า มูลค่ากิจการของอดีตประธานาธิบดีลดลงมาเหลือแค่ 1.2 พันล้านเหรียญ

    ถึงกระนั้นตัวเลขนี้ก็สูงจนเหลวไหลเพราะปัญหาในระดับรากฐานคือ แทบไม่มีใครใช้งาน Truth Social  ข้อมูลที่นำเสนอต่อนักลงทุนก่อนที่แอปนี้จะเริ่มเปิดให้ใช้งานชี้ว่า แอปน่าจะดึงดูดผู้ใช้งานได้ 81 ล้านคนภายในปี 2026 แต่หลังจากเปิดให้ใช้งานมาปีกว่า แอปก็ยังมีผู้ใช้งานแค่ประมาณ 5 ล้านคน  ดังนั้น เมื่อนำหุ้นในมือ Trump ประมาณ 85% มาคำนวณโดยเทียบกับมูลค่าของ Twitter ที่ประมาณ 42 เหรียญต่อผู้ใช้งาน 1 คน หุ้นของอดีตประธานาธิบดีน่าจะมีมูลค่าแค่ประมาณ 180 ล้านเหรียญ

    แต่แค่นี้ก็อาจจะสูงไปอยู่ดี เพราะ Truth Social มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 100,000 คน ถ้าจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเท่านี้ไปเรื่อยๆ และสมมติฐานที่ว่าไม่มีใครเลิกใช้หรือเสียชีวิต กว่าผู้ใช้งานจะแตะ 81 ล้านคนตามที่คาดไว้ก็ต้องรอจนปี 2086 ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้น Trump ก็อายุ 140 ปีแล้ว  ดังนั้น ผลลัพธ์ที่ดูจะเป็นไปได้มากกว่าก็คือ Truth Social คงลงหลุมตาม Trump Steaks, Trump University และ GoTrump.com ไปอยู่สุสานของกิจการล้มเหลวด้วยกัน

เรื่องที่ยากจะเชื่อ

    อดีตประธานาธิบดีผู้ผันตัวมาเป็นเจ้าพ่อโซเชียลคนนี้ยังคงเป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์เต็มตัว พอร์ตอสังหาฯ ใน Manhattan ของเขามีมูลค่าประมาณ 770 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังจากหักหนี้สินแล้ว ซึ่งลดลงจาก 1 พันล้านเหรียญในปีก่อน นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะฉุดมูลค่าให้ลดลงแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะมีผลการวิเคราะห์เอกสารข้อมูลใหม่ชี้ว่า เศรษฐีพันล้านคนนี้โกหกเรื่องขนาดของ Trump Tower โดยเขาอ้างว่า อาคารนี้มีพื้นที่ค้าปลีกและสำนักงาน 246,000 ตารางฟุต แต่เอกสารดังกล่าวระบุว่า พื้นที่มีขนาด 235,000 ตารางฟุต ซึ่ง 53,000 ตารางฟุตในนั้นเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่มีมูลค่าต่ำ เช่น ลิฟต์ ห้องน้ำสาธารณะ และพื้นที่ซ่อมบำรุง

คัมภีร์ 50 ล้านเหรียญ

    คัมภีร์ฮีบรูฉบับเก่าที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบถูกส่งให้ Sotheby’s เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และอาจจะกลายเป็นหนังสือหรือต้นฉบับเขียนด้วยมือซึ่งแพงที่สุดเท่าที่เคยมีการประมูลกันมา หากราคาวิ่งไปถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามที่ประเมินไว้ก่อนเริ่มขาย (สถิติในปัจจุบันเป็นของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ฉบับแรกซึ่งเศรษฐีพันล้าน Ken Griffin ซื้อไปด้วยราคา 43.2 ล้านเหรียญเมื่อปี 2021) คัมภีร์ชื่อว่า Codex Sassoon ฉบับนี้มีอายุนับย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 10 และเขียนด้วยสระกับเครื่องหมายเน้นเสียงที่ไม่พบในเอกสารโบราณอื่นๆ อย่าง Dead Sea Scrolls ซึ่งช่วยให้คนยุคปัจจุบันสามารถอ่านคัมภีร์นี้ได้เหมือนกับในสมัยที่เขียนขึ้นมา “การได้ถือหนังสือที่เป็นรากฐานของอารยธรรมทั่วโลกไว้ในมือ...มันน่าตื่นเต้นมาก” Sharon Liberman Mintz ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านศาสนายูดาห์ของ Sotheby’s กล่าว นอกจากน่าตื่นเต้นแล้วก็ยังหนักด้วย เพราะคัมภีร์ 729 หน้าเล่มนี้หนักถึง 26 ปอนด์


    อ่านเพิ่มเติม : นานาชาติในยุโรปทุ่มเงินเชิญชวนผู้คนร่วมเป็นพลเมือง

    คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2566 ในรูปแบบ e-magazine