สงครามอิสราเอลทำนักลงทุนหวั่นใจย้ายฐานมาทองคำ ด้าน Fed คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยยังจำเป็น - Forbes Thailand

สงครามอิสราเอลทำนักลงทุนหวั่นใจย้ายฐานมาทองคำ ด้าน Fed คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยยังจำเป็น

สงครามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในอิสราเอลทำนักลงทุนหวั่นใจย้ายฐานมาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง "ทองคำ" ด้าน Fed คาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังจำเป็น


    หลังเกิดเหตุสงครามในอิสราเอลจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสบริเวณฉนวนกาซาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดสำนักข่าวนักรอยเตอร์เผย เหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวอาจส่งผลกระทบให้เหล่านักลงทุนที่กำลังจับตาดูสถานการณ์ในตะวันออกกลางย้ายไปลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น

ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์อาจหนุนให้เกิดการซื้อสินทรัพย์ประเภททองคำและเงินดอลลาร์เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งอาจกระตุ้นความต้องการเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐที่ขายพันธบัตรออกไปจำนวนมาก

    ปีเตอร์ คาร์ดิลโล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การตลาดของสปาร์ตัน แคปิตอล ซีเคียวริตีส์ ให้ความเห็นว่า “สถานการณ์นี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ที่บ่งบอกว่าทำไมคนต้องซื้อทองเก็บไว้ในพอร์ต เพราะสินทรัพย์เหล่านี้ เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่ดีต่อความปั่นป่วนระหว่างประเทศ และเมื่อใดก็ตามที่เกิดความปั่นป่วนระหว่างประเทศ เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น”

    ขณะที่ มิเชล โบว์แมน สมาชิกกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมหลังราคาทองคำ (Gold Spot) พุ่ง 0.9% มาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,843.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์ว่า ตัวเลขอัตราการจ้างงานของเดือนกันยายนในสหรัฐอเมริกาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อราคาสินทรัพย์ดังกล่าว และจากการที่ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงสูงเกินไป การขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงยังเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งในส่วนของอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงนั้นถือเป็นผลเชิงลบต่อทองคำ


อ่านเพิ่มเติม : อิสราเอลเข้าสู่สงคราม จับตาผลกระทบไทย

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine