2 มหาเศรษฐีอสังหาฯ ผู้ครองพื้นที่อาคารสำนักงานมากที่สุดในโลก - Forbes Thailand

2 มหาเศรษฐีอสังหาฯ ผู้ครองพื้นที่อาคารสำนักงานมากที่สุดในโลก

FORBES THAILAND / ADMIN
23 Jan 2018 | 01:33 PM
READ 15896

Donald Bren และ Zhang Xin เป็นมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างตัวจากการพัฒนาอาคารสำนักงาน ทั้งคู่ต่างมีพื้นที่สำนักงานให้เช่าในมือรวมกว่า 100 ล้านตารางฟุต และเป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาพื้นที่สำนักงานในถิ่นกำเนิดของตนจนได้รับการยอมรับว่าเป็นเจ้าพ่อ-เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์

DONALD BREN เจ้าพ่ออาคารสำนักงานกว่า500 ตึก 46.5 ล้านตารางฟุตพูด ถึงเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา หลายคนอาจจะนึกถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump แต่แท้จริงแล้วอีกหนึ่ง Donald มีอสังหาริมทรัพย์มากกว่า Trump หลายเท่าแถมยังเป็นสมบัติที่สร้างขึ้นเองอีกด้วย Donald Bren เป็นมหาเศรษฐีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่รวยที่สุดในสหรัฐฯ และติดอันดับ 4 เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ที่รวยที่สุดในโลก เป็นรองแค่เพียง 3 เจ้าสัวจากจีนและฮ่องกง และด้วยทรัพย์สินมูลค่า 1.63 หมื่นล้านเหรียญ Bren จึงติดอันดับ66 ผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ Forbes เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เขาเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์พื้นที่รวมกว่า 115 ล้านตารางฟุตในสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่อยู่ทาง Southern California แถมยังแอบข้ามฝั่งดอดไปถือหุ้นถึง 97.3% มูลค่ากว่า 3 พันล้านเหรียญใน MetLife อาคารสำนักงานสูง 59 ชั้นที่สร้างมากว่า 50 ปีใน Manhattan หลังจากอาคารนี้ถูกเปลี่ยนมือในปี 2005 ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครรู้มาก่อนเลยจนกระทั่งปี 2015 ที่ผ่านมานี้เอง Irvine บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเขาที่มีฐานธุรกิจใน California เป็นเจ้าของและดูแลอาคารสำนักงานกว่า 500 แห่ง ศูนย์การค้า 41 แห่ง อะพาร์ตเมนต์ 130 แห่งรวม 5 หมื่นห้อง โรงแรมอีก 3 แห่ง รวมทั้งสนามกอล์ฟและท่าเรือยอชต์อีกจำนวนไม่น้อย โดยส่วนใหญ่อยู่ในย่าน Orange County ใน California ซึ่งปัจจุบัน Bren ในวัย 85 ปีก็ยังไม่หยุดลงทุนเขากำลังพัฒนาที่ดินขนาด 100 เอเคอร์ (0.4 ตางรางกิโลเมตร) ในย่าน Santa Clara ที่ Silicon Valley เพื่อก่อสร้างกลุ่ม อาคารสำนักงาน ร้านค้า และอะพาร์ตเมนต์ ซึ่งมีกำหนดสร้างเสร็จในปี 2019 Bren วัย 25 ปี กู้เงินแบงก์ 1 หมื่นเหรียญก่อตั้งบริษัท Bren ในปี 1958 และสร้างบ้านหลังแรกของตัวเองที่ Lido Isle ซึ่งเป็นเกาะเทียมที่ Newport Beach ใน California ในช่วงนั้นเองเป็นจังหวะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์บูมมากใน Orange County ละแวกเดียวกับบ้านที่เขาสร้างเขาจึงเริ่มต้นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นับตั้งแต่นั้นมา Bren ยังได้เป็นประธานบริษัท Mission Viejo ที่ออกแบบมาสเตอร์แพลนชุมชนอยู่อาศัยขนาดพื้นที่ 1.1 หมื่นเอเคอร์ (44.51 ตารางกิโลเมตร) ในปี 1970 บริษัท International Paper Co ได้เข้าซื้อบริษัท Bren ในราคา 34 ล้านเหรียญ แต่เพียง 2 ปีถัดมาหลังช่วงตลาดอสังหาริมทรัพย์ถดถอย เขาซื้อบริษัทตัวเองคืนกลับมาในราคาเพียง 22 ล้านเหรียญ
ย่าน Orange County ใน California ที่ Irvine บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ Donald Bren เป็นเจ้าของอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า อะพาร์ตเมนต์ โรงแรม รวมทั้งสนามกอล์ฟและท่าเรือยอชต์ จำนวนมาก
หลังจากทำงานและพักในย่าน Orange County มาเกือบ 20 ปี เขาเริ่มมองโอกาสการพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่สุดของประเทศย่าน Irvine Ranch ซึ่งมีขนาด 93,000 เอเคอร์ (376.36 ตารางกิโลเมตร) ยาวติดแนวชายฝั่งแปซิฟิกถึง 9 ไมล์ (14.48 โลเมตร) โดยมีขนาดใหญ่ถึง 1 ใน 5 ของ county ที่ดินผืนนี้เป็นของบริษัท Irvine ที่ภายหลัง Bren ได้เทกโอเวอร์บริษัทและนำที่ดินมาพัฒนาต่อภายใต้วิสัยทัศน์และแนวคิด Live Work Play กระทั่ง Irvine กลายเป็นศูนย์กลางของ Orange County ไปในที่สุด ด้วยจำนวนประชากรราว 2.5 แสนคน ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในเขตนี้ ปัจจุบัน Irvine มีทั้งหมู่บ้าน ศูนย์การค้า สวนสาธารณะ โรงเรียนชั้นนำ และที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทใน Fortune 500 จำนวนกว่า 1 ใน 3 นับว่า Bren เป็นผู้บุกเบิกและพัฒนาย่านชานเมืองใน California ให้เป็นเมืองที่ทันสมัยจนกลายเป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศและถูกนำไปเป็นต้นแบบการพัฒนาในย่านอื่นๆ มากที่สุด ซึ่งบริษัท Irvine ยังได้บริจาคที่ดินขนาด 57,000 เอเคอร์ (230.67 ตารางกิโลเมตร) หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของที่ดินเดิมให้เป็นพื้นที่สงวนอย่างถาวรอีกด้วย ZHANG XIN เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ ผู้พลิกโฉมตลาดอาคารสำนักงานใน Beijing แม้ความร่ำรวยไม่ได้ถูกจัดไว้ในอันดับต้นๆ ของ Forbes ทั้งในระดับประเทศและในระดับโลกแต่ Zhang Xin ถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อตลาด อาคารสำนักงานใน Beijing เพราะเธอได้สร้างสีสันเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ให้กับ Beijing skyline เส้นทางสู่เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ของ Zhang ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอเกิดที่ Beijing และโตมาในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมที่ทำให้ครั้งหนึ่งเธอเคยมีเป้าหมายที่จะเป็นชาวไร่ชาวนาซึ่งเป็นอาชีพที่น่ายกย่องในยุคคอมมิวนิสต์ ตอนอายุ 14 ปี เธอและแม่ได้ย้ายไปอยู่ฮ่องกงอาศัยในห้องเล็กๆ และทำงานในโรงงานเย็บผ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงเวลาปกติ เพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียน และใช้เวลาหลังเลิกงานเรียนหนังสือ กระทั่งอายุ 19 ปี เธอเก็บเงินซื้อตั๋วเครื่องบินไป London และทำงานหาเงินเพื่อเรียนหนังสือต่อการมาที่ประเทศอังกฤษทำให้ Zhang ได้เปิดหูเปิดตา เป็นการเปิดโลกใบใหม่และเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตและอิทธิพลทางความคิดของเธอ ช่วงหนึ่งที่อยู่ที่นั่น Zhang ได้รู้จักนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ Margaret Thatcher ผ่านทางโทรทัศน์ที่กำลังออกอากาศการดีเบตในสภาที่มีแต่นักการเมืองชายหลายร้อยคน ความกล้าหาญในการเผชิญหน้ากับบรรดานักการเมืองชายของ Thatcher ทำให้ นายกฯ หญิงเหล็กกลายเป็น role model ของ Zhang ทันที หลังจากได้ทุนเรียนจนจบปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Sussex และปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์การพัฒนาที่มหาวิทยาลัย Cambridge เธอสั่งสมประสบการณ์จากการทำงานเป็นนักวิเคราะห์การลงทุนที่ Goldman Sachs ใน London ก่อนย้ายมาที่ฮ่องกง และ New York ประสบการณ์ในการนำบริษัทจีนเข้าตลาดหลักทรัพย์ทำให้ Zhang รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในประเทศบ้านเกิดและต้องการกลับมาเริ่มทำอะไรสักอย่างที่จีน เมื่อ Zhang รู้ตัวว่าตนเองต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเทศเธอตัดสินใจหันหลังให้ Wall Street มุ่งหน้ากลับสู่เมืองเกิดที่ Beijing  
Galaxy SOHO ออกแบบโดย Zaha Hadid
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เธอก้าวมาถึงวันนี้คือ การได้พบกับ Pan Shiyi นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เคยทิ้งจีนไปไหน ทั้งคู่กลายมาเป็นทั้งพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจและพาร์ตเนอร์ชีวิต แต่ช่วงแรกๆ ที่ร่วมธุรกิจกันก็ขลุกขลักพอสมควร จนปี 1995 Zhang และ Pan สามีของเธอได้ก่อตั้งบริษัท Hongshi ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน Beijing ที่วันนี้รู้จักกันในนาม SOHO China ผู้พัฒนาอาคารสำนักงานเรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนเส้นขอบฟ้าของเมืองเลยทีเดียว
Park Avenue Plaza ใน New York ที่ครอบครัว Zhang Xin เข้าซื้อหุ้น 600 ล้านเหรียญในปี 2011
Zhang ผู้หญิงที่รวยเป็นอันดับ 7 ของโลกจากการสร้างฐานะด้วยตัวเอง ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักธุรกิจหญิงอันดับต้นๆ ของโลก เธอมักจะแชร์ความคิดทางธุรกิจ เหตุการณ์ปัจจุบันและเรื่องการออกแบบสถาปัตยกรรมทาง Weibo หรือ Twitter เวอร์ชั่นจีน ซึ่งมีผู้ติดตามเธอกว่า 5 ล้านคน ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกว่าส่วนหนึ่งของความสำเร็จของผู้หญิงในรุ่นของเธอผู้ซึ่งได้ผ่านการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ผ่านความยากลำบาก มาจากที่ๆ ไม่มีใครรู้จัก จู่ๆ ก็เห็นโอกาสอันน่าอัศจรรย์ของจีน แล้วก็คว้าโอกาสนั้นไว้แม้จะประสบความสำเร็จและร่ำรวยมหาศาล   เรื่อง: บุญธร ศิริสวาสด์